หากวิธีการออกกำลังแบบเดิม ๆ ที่ทำเป็นประจำอยู่ทุกวัน ไม่ได้ช่วยให้หนุ่ม ๆ ละลายไขมันส่วนเกินได้แล้วล่ะก็ มาลองวิธีใหม่ที่เรานำมาฝากเพื่อสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ รับรองว่าเทคนิคนี้ดีกว่าการฝึกแบบที่ผ่านมาแน่นอน
เวลายกเวทคุณมักจะจดจ่ออยู่สามช่วงคือตอนเริ่มเซต ตอนยกเวทได้ครบจำนวนครั้งและตอนจบเซต แล้วคุณก็หยุดพักจนกว่าจะเริ่มท่าต่อไป คริสเตียน ฟินน์ ครูฝึกจาก muscleevo.net อธิบายว่า การเพิ่มช่วงพักระหว่างเซตเข้าไป ซึ่งเป็นเทคนิคที่เรียกว่าการฝึกแบบมีช่วงหยุดพัก (Rest-Pause Training) จะช่วยให้ระบบเมตาบอลิซึมทำงานได้ดีขึ้นหลายเท่าหลังจากที่เวิร์กเอาต์เสร็จแล้ว ฟินน์บอกว่าการฝึกด้วยวิธีนี้จะส่งผลโดยตรงต่อรูปร่างและความแข็งแรง เพราะจากที่คุณเคยยกเวทได้ 6 ครั้ง คุณอาจจะยกได้มากถึง 10-12 ครั้ง
หลังจากวอร์มอัพแล้ว ให้เลือกเวทที่มีน้ำหนัก 80-85 เปอร์เซ็นต์ของเวตที่คุณยกได้มากที่สุดเพียง 1 ครั้ง ยกเวทให้ได้จำนวนครั้งมากที่สุด คุณน่าจะยกได้ประมาณ 6-7 ครั้ง พัก 20 วินาที แล้วยกต่อให้ได้มากที่สุดเท่าที่ยกไหว คุณอาจยกได้ 3-4 ครั้ง พักอีก 20 วินาที แล้วยกต่ออีกสัก 2 ครั้ง งานวิจัยล่าสุดใน Journal of Transiarional Medcine ระบุว่าการฝึกที่มีช่วงหยุดพักแบบนี้ช่วยให้คนที่มีประสบการณ์ในการยกเวท สามารถเบิร์นแคลอรี่ได้มากขึ้น 18 เปอร์เซ็นต์ ในช่วงเวลา 22 ชั่วโมงหลังจากเวิร์กเอาต์ แถมยังเบิร์นไขมันได้เยอะกว่าตอนที่ยกเวทแบบเติมด้วย
ท่าออกกำลังกาย
ในการเวิร์กเอาต์แต่ละครั้ง ฟินน์แนะนำให้ฝึกแบบมีช่วงพักโดยยกเวทท่าที่ออกกำลังกายส่วนบนของร่างกายทั้งหมด 3 เซต ท่าที่เหมาะกับการฝึกวิธีนี้ได้แก่ Bench Press, Row, Chinup หรือ Lat Puldown เฉพาะคนที่ยกเวทจนชำนาญแล้วถึงจะฝึกท่า Squat หรือ Deadlift ได้ เพราะสองท่านี้ต้องใช้แรงมากในทุกจังหวะ คนที่ยังไม่ใช่มือโปรจึงไม่อาจจะรักษากำลังไว้ให้คงที่ได้ในขณะที่กล้ามเนื้อล้าแล้ว ประโยชน์ที่คุณได้รับจากการฝึกด้วยเทคนิคนี้คือ กล้ามเนื้อจะได้รับการกระตุ้นมากกว่า และไขมันจะถูกเผาผลาญมากกว่าภายหลังจากเวิร์กเอาต์ ถ้าประโยชน์แค่นี้ยังไม่พอ เรายังมีอีกข้อที่น่าจะโดนใจคุณ นั่นก็คือ คุณจะได้ประโยชน์ทั้งหมดนี้จากการยกเวทที่ใช้เวลาน้อยกว่าการยกเวทแบบเติม ๆ ด้วย
ที่มา หนังสือ Men\'s Health ธันวาคม 2556
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก fullfitness, fitfinity เเละ jefit