เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
กระแสข่าวการย้ายทีมของนักฟุตบอลในช่วงตลาดนักเตะเปิดในปี 2013 นี้ ค่อนข้างคึกคักพอสมควร ทั้งนักเตะบิ๊กเนมหรือโนเนมก็ต่างย้ายไปหาประสบการณ์ใหม่ ๆ กันให้ควั่ก ทว่าก็ยังไม่ค่อยมีข่าวการย้ายทีมที่สร้างสงครามระหว่างแฟนบอลคู่ปรับร่วมเมืองหรือร่วมลีคให้เห็นเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็นการย้ายไปสู่ทีมคู่ปรับโดยตรงหรือย้ายไปทีมอื่นก่อนก็ตาม
แต่วันนี้กระปุกดอทคอมไปเสาะหาเรื่องราวการย้ายทีมของนักฟุตบอลที่ทำให้แฟนบอลต้องเจ็บลึกฝังใจ จนตราหน้าว่านักเตะเหล่านี้เป็นพวก "ทรยศ" มาประมวลให้คอบอลได้ย้อนรอยอดีต โดยเรานำข้อมูลจากเว็บไซต์เดอะสกอตติชซันมาบอกเล่าให้ได้ทราบกันแล้วครับ
โม จอห์นสัน คือนักฟุตบอลฝีเท้าดีที่ได้ชื่อว่าเป็นนักฟุตบอลที่น่าจับตามองมากในวงการฟุตบอลสกอตติช ลีค โดยแจ้งเกิดกับสโมสรกลาสโกว์ เซลติก แล้วย้ายไปเล่นให้กับสโมสรน็องซ์ ในลีคแดนน้ำหอม ช่วงปี 80 ก่อนจะกลับมาเล่นในสกอตแลนด์อีกครั้ง ทว่าคราวนี้ดั๊นเลือกเล่นให้กับทีมปรปักษ์ของเซลติกอย่างกลาสโกว์ เรนเจอร์ เอาซะได้ ถึงจะไม่ได้ย้ายจากอ้อมอกคู่แข่งโดยตรง แต่เรื่องแบบนี้แฟนบอลเขาถือเป็นเรื่องใหญ่อยู่แล้ว
ยอดกองหน้ารายนี้ลงสนามให้กับกลาสโกว์ เรนเจอร์ ทั้งหมด 100 นัด และที่ทิ่มแทงหัวใจแฟนบอลเเซลติกยิ่งกว่า ก็คือในปี 1989 เขาเป็นคนยิงประตูชัยให้เรนเจอร์พิชิตเซลติกในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนั่นเอง
แม้การย้ายสโมสรครั้งประวัติศาสตร์ของ "ก็องโต้" เอริค คันโตน่า จากลีดส์ ยูไนเต็ด มาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญครั้งยิ่งใหญ่ของระหว่างสองสโมสรคู่ปรับ ทว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นักเตะตัวท็อปของทีมยูงทองจะเปลี่ยนฝั่งไปภักดีกับทางปีศาจแดงแทน เพราะปราการหลังตัวแกร่งอย่าง กอร์ดอน แมคควีน ก็เป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่เปลี่ยนสีเสื้อจากขาวไปแดงเมื่อปี 1978 โดยตอนนั้นเจ้าตัวถึงกับเอ่ยปากถึงความมุ่งมั่นในการย้ายทีมเลยว่า "นักเตะ 99 เปอร์เซ็นต์ ต่างก็อยากย้ายมาเล่นให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ส่วนอีกหนึ่งเปอร์เซ็นต์ที่เหลือนั้นล้วนโกหกทั้งสิ้น หากบอกว่าไม่อยากย้าย"
บทสรุปแล้ว กอร์ดอน แมคควีน ได้ลงเล่นให้กับทางปีศาจแดงทั้งหมด 184 นัด ก่อนย้ายออกจากสโมสรในท้ายที่สุดเมื่อปี 1985
จะมีนักฟุตบอลสักกี่คนในโลกใบนี้ที่ถูกแฟนบอลของตัวเองต่อต้านการย้ายทีมด้วยหัวหมู แต่หลุยส์ ฟิโก้ คือหนึ่งในนักเตะผู้โชคดี (หรือร้าย) คนนั้น ทว่ามันก็ไม่น่าแปลกเท่าไหร่ที่แฟนบอลชาวคาตาลันพากันจงเกลียดจงชังเขาขนาดนั้น มีอย่างที่ไหน เล่นให้กับบาร์เซโลนาอยู่ดี ๆ แต่กลับแปรพักตร์ไปกระชากลากเลื้อยให้รีด มาดริด ซะอย่างนั้นในปี 2000 แถมย้ายไปแบบตรง ๆ อีกต่างหาก
อย่างไรก็ตาม แม้แฟนบอลทีมเจ้าบุญทุ่ม บาร์เซโลน่า จะเกลียดชังเขามากขนาดไหน แต่แฟนบอลทีมราชันชุดขาว รีด มาดริด ก็ต้อนรับฟิโก้ด้วยความอบอุ่นและช่วยสนับสนุนเขาเรื่อยมา ที่สำคัญฟิโก้ยังเป็นหนึ่งในทีมยุคยิ่งใหญ่ "กาลาคติกอส" อีกด้วย
ในยุคสมัยหนึ่งอเดบายอร์เคยสร้างชื่อเสียงให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ในสมัยที่ย้ายมาเป็นกองหน้าตัวความหวังให้กับสโมสรอาร์เซนอล โดยเจ้าตัวได้ลงเล่นถึง 106 นัด ในสามฤดูกาลที่สวมเสื้อตราสโมสรปืนใหญ่ และเป็นที่หวั่นเกรงของบรรดากองหลังในลีคอังกฤษ
จนกระทั่งปี 2011 อเดบายอร์กลับย้ายไปเล่นให้กับคู่ปรับตลอดกาลอย่าง ท็อตต์แนม ฮอตสเปอร์ ในสัญญายืมตัวผู้เล่น แต่จนแล้วจนรอดในปีถัดมาเขาก็ย้ายไปเป็นนักเตะไก่เดือยทองเต็มตัว นับเป็นการเปลี่ยนฝั่งการเล่นที่ทำให้แฟนบอลอาร์เซนอลไม่มีวันลืมไปอีกนานเลยทีเดียว
ไม่เพียงเท่านั้นเจ้าตัวกลับเพิ่มดีกรีความระอุให้กับการแข่งขันของทั้งสองทีมเข้าไปอีก เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาเจ้าตัวเป็นคนทำประตูขึ้นนำให้กับสเปอร์ไปก่อน แต่จากนั้นเขาต้องถูกตะเพิดออกจากสนาม หลังทำฟาล์วใส่ซานติ กาซอร์ลา อย่างน่าเกลียด
คงมีนักเตะไม่กี่คนที่ย้ายไปเล่นให้กับทีมคู่ปรับถึงสองครั้งสองครา แต่อดีตนักเตะผีเท้าจัดจ้านจากทีมชาติบราซิล โรนัลโด้ ก็ทำเรื่องเหลือเชื่อนี้ให้เห็นแล้ว ครั้งแรกย้ายจากบาร์เซโลนาไปร่วมเป็นหนึ่งในหมู่ดาวกาลาคติกอสกับรีด มาดริด แต่ไม่ได้เป็นการย้ายโดยตรงนะ เพราะเขาไปเล่นให้สโมสรอินเตอร์ มิลาน ทีมดังจากประเทศอิตาลีก่อนแล้วถึงย้ายมาเป็นผู้เล่นรีล มาดริด ทั้งหมด 5 ปี ก่อนที่ในปี 2007 โรนัลโด้จะแปรพักตร์ไปสวมเสื้อเอซี มิลาน คิดดูสิครับจะมีสักกี่คนที่เล่นให้กับทีมที่เป็นคู่ปรับกันได้มากขนาดนี้
การย้ายไปเล่นให้กับทีมคู่แข่งร่วมเมืองสองทีมก็ว่าแย่แล้ว แต่สำหรับดาวเตะทีมชาติฝรั่งเศส วิลเลี่ยม กัลลาส กลับไม่ยี่หระ เพราะเขาเล่นให้กับทีมคู่แข่งร่วมเมืองลอนดอนถึง 3 ทีมเลยทีเดียว ไล่มาตั้งแต่อาร์เซนอล เชลซี ทีมละ 100 นัด ก่อนมาปิดท้ายที่สเปอร์ในปี 2010 จนอาจเรียกได้ว่ากัลลาสเป็นนักฟุตบอลที่เกิดมาเพื่อสร้างโทสะให้กับแฟนบอลชาวเมืองลอนดอนอย่างแท้จริง
ผลงาน 34 ประตู 6 ถ้วยรางวัล ภายใน 2 ฤดูกาลของคาร์ลอส เตเบซ ภายใต้สีเสื้อแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ได้ทำให้เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตผู้จัดการทีมปีศาจแดงในขณะนั้นพอใจสักเท่าไหร่ รวมไปถึงพฤติกรรมบางอย่างด้วย เตเบซจึงไม่อยู่ในแผนการทำทีมของเขาอีกต่อไป แต่นักเตะทีมชาติอาร์เจนตินารายนี้ก็แก้เผ็ดสโมสรคืนด้วยการย้ายไปเล่นให้กับคู่แข่งร่วมเมืองตัวฉกาจ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แทน สร้างข่าวช็อกให้กับแฟนบอลปีศาจแดงบนความสะใจของแฟนทีมเรือใบสีฟ้าเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่บางครั้งเจ้าตัวงอแงอยากย้ายทีมเมื่อไม่ได้ลงเล่นบ่อย ๆ แทนที่จะพยายามฝึกซ้อมสร้างผลงานให้เตะตาผู้จัดการทีม สุดท้าย...ตอนนี้เตเบซก็เก็บข้าวของย้ายไปเล่นในลีคอิตาลีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เคนนี่ มิลเลอร์ นักฟุตบอลทีมชาติสกอตแลนด์รายนี้สร้างประวัติการย้ายทีมของตัวเองแบบน่าเหลือเชื่อให้กับตัวเองได้สำเร็จ เริ่มต้นจากการเป็นผู้เล่นให้กับสโมสรกลาสโกว์ เรนเจอร์ ในช่วงปี 2000-2002 ก่อนย้ายแหล่งทำมาหากินไปเล่นในลีคอังกฤษให้กับวูล์ฟ แฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ แล้วกลับมาหากินที่ประเทศบ้านเกิดอีกครั้งกับกลาสโกว์ เซลติก สมัยที่กอร์ดอน สตรัคคั่น เป็นผู้จัดการทีม
ทว่าเล่นให้เซลติกได้แค่ฤดูกาลเดียวก็ต้องระเห็จมาเล่นที่อังกฤษกับสโมสรดาร์บี้ เคาท์ตี้ หลังไม่ประสบความสำเร็จ แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัดมิลเลอร์หรืออย่างไรมิทราบ ปีถัดมาเขาก็ย้ายกลับมาตายรังที่สโมสรกลาสโกว์ เรนเจอร์ อยู่ดีในปี 2008 ภายใต้การคุมทีมของวอลเตอร์ สมิธ โดยซัดไปทั้งหมด 55 ประตู จนคว้าแชมป์ลีคและสกอตติช คัพ มาครองได้ในที่สุด
หากพูดถึงการย้ายสโมสรที่ฮือฮามากสุดในอังกฤษแล้วล่ะก็ โซล แคมเบลล์ คือนักเตะที่เป็นประเด็นต้องหยิบยกขึ้นมาอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะในระหว่างที่สัญญาของแคมเบลล์กับสเปอร์หมดลง ก็มีข่าวลือหนาหูว่าเขาจะย้ายไปทำมาหากินกับสโมสรอินเตอร์ มิลาน หรือไม่ก็บาร์เซโลนา
แต่แล้วเจ้าตัวก็สร้างความเซอร์ไพรส์ด้วยการเปลี่ยนฝั่งไปเล่นให้ทีมคู่แข่งอย่าง อาร์เซนอล ซะเลย ผลงานการเล่นให้กับทีมไก่เดือยทองมากกว่า 250 นัดที่ผ่านมา แทบหมดความหมายไปในพริบตาในสายตาของแฟนบอลสเปอร์ เพราะเรื่องการย้ายทีมเพื่อหาความท้าทายก็เป็นเรื่องที่พอเข้าใจอยู่ แต่พ่อคุณเล่นเปลี่ยนฝั่งไปเล่นให้กับทีมคู่แค้นตลอดกาล อันนี้แหละที่รับไม่ได้ จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมแฟนบอลสเปอร์ถึงตราหน้าเขาว่าเป็น จูดาส (หรือคนทรยศ)
อดีตผู้เล่นในตำนานของทีมปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดรายนี้ สร้างผลงานสุดเกรียงไกรร่วมกับนักเตะในตำนานอย่าง เซอร์บ็อบบี้ ชาร์ลตัน และจอร์จ เบสต์ ภายใต้ยุคการทำทีมของเซอร์แมตต์ บัสบี้ โดยเจ้าตัวทำประตูให้กับทีมไปมากกว่า 200 ประตู ตลอดระยะเวลา 11 ปีที่เล่นให้กับปีศาจแดง
จนกระทั่งในปี 1973 ลอร์ สามารถย้ายทีมได้แบบไม่มีค่าตัว แต่ใครจะเชื่อล่ะว่าเขาเลือกย้ายไปเล่นให้กับคู่ปรับร่วมเมืองอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แล้วเขาก็ตบหน้าสโมสรเก่าฉาดใหญ่ด้วยการยิงประตูชัยให้กับเรือใบสีฟ้าคว้าชัยเหนือปีศาจแดงไปเมื่อปี 1974
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่ขอขอบคุณภาพประกอบจาก michaelwylie.wordpress , tinypic , sportsworldcards , manutd.conchaytoro , blaugranas , euro , facebook AdebayorOfficialFanPage , fcbarcelona , fcrealmadrid , facebook c0m3at , facebook.com/
