
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
หากได้ขึ้นชื่อว่า สารเสพติด ไม่มีใครอยากจะเอาตัวเข้าไปลอง หรือเห็นคนใกล้ชิดเกี่ยวข้องกับสิ่งเหล่านี้สักเท่าไหร่ เพราะถ้าได้สัมผัสดูสักครั้งแล้ว อาจทำให้ติดจนหาทางเลิกได้ยาก อีกทั้งยังส่งผลเสียต่อสุขภาพด้วย แต่ทั้ง ๆ ที่รู้กันแบบนี้แล้วบางคนก็ยังคิดที่จะลองและเสพต่อไป ฉะนั้น หากตอนนี้คุณมีคนใกล้ชิดที่กำลังเผชิญอยู่กับปัญหาสิ่งเสพติด และอยากจะให้พวกเขาตัดขาดจากสิ่งเหล่านี้ไปจากชีวิต ก็ลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ดู


สำหรับผู้ที่มีคนใกล้ชิดใช้สารเหล่านี้อยู่ ไม่ควรจะว่ากล่าวหรือบังคับให้เลิกแบบหักดิบทันที เพราะอาจทำให้พวกเขารู้สึกกดดัน และทำให้เสพหนักขึ้นได้ แต่ควรเปลี่ยนวิธีการโน้มน้าวใจโดยเริ่มต้นจากการซักถามเหตุผลที่มาที่ไป รวมทั้งรับฟังปัญหาสิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเขาให้ดี ด้วยความจริงใจและไม่มีอคติ เพื่อแสดงให้เห็นว่าคุณพร้อมจะยืนเคียงข้างพวกเขาเสมอ

ถึงแม้อาจเป็นเรื่องยากในการรับฟัง ทำใจ และยอมรับว่าพวกเขาใช้สารเสพติดจริง ๆ แต่ในเมื่อทุกอย่างเกิดขึ้นแล้วคงไม่มีอะไรดีไปกว่าช่วยกันแก้ไขปัญหา โดยหลังจากที่ได้รับฟังเหตุผลแล้ว คุณควรทำความเข้าใจความคิด ความรู้สึก แล้วลองมองในมุมของผู้เสพบ้าง ทั้งนี้จะได้ช่วยให้เข้าใจเหตุผลที่พวกเขาต้องตกเป็นทาสยาเสพติดที่แท้จริง พร้อมกับช่วยให้หลุดพ้นจากยาเหล่านี้ได้ง่ายขึ้น

ก่อนที่จะช่วยบำบัดอาการติดสารเสพติด แนะนำให้คุณเยียวยาหัวใจตัวเองด้วยการยอมรับความจริงเสียก่อนว่าพวกเขาใช้ยาจริง ๆ ถึงแม้ว่าคนที่ใช้สารเสพติดจะเป็นแฟน ภรรยา พี่น้อง หรือญาติ ซึ่งอาจทำใจได้ยากกว่าหากเกิดกับคนอื่น ๆ แต่ทั้งนี้หากหลอกตัวเองต่อไปคงไม่เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมาก อีกทั้งหากไม่เร่งรีบแก้ไข คนเหล่านั้นอาจตกเป็นทาสของการใช้สารเสพติดจนถอนตัวไม่ขึ้น และสายเกินกว่าที่จะรักษาได้

การตัดความสัมพันธ์ ไม่พูดคุย ทำท่ารังเกียจ หรือแยกตัวห่างออกไป ไม่ใช่ทางแก้ที่ดีนัก เพราะการกระทำเหล่านั้นส่งผลให้พวกเขาคิดมาก และอาจหันมาพึ่งสารเสพติดมากขึ้น เนื่องจากเป็นทางออกเดียวที่ทำให้หลุดพ้นจากความจริงที่ถูกเพิกเฉยได้ ฉะนั้นทางที่ดีควรพูดคุยกับพวกเขาให้เป็นปกติหรือมากกว่าเดิม เพื่อไม่ให้พวกเขารู้สึกโดดเดี่ยว รวมทั้งเกิดความเครียดสะสม

วิธีที่ดีที่สุดอีกอย่างนึง คือ คุณต้องทำให้พวกเขารู้สึกว่าปัญหาที่เกิดขึ้น คุณเองก็เคยประสบมาก่อนเช่นกัน อาจไม่ใช่เรื่องยาเสพติด แต่เป็นปัญหาที่คล้าย ๆ กันก็ได้ โดยการแบ่งปันประสบการณ์เรื่องราว และผลกระทบที่เกิดขึ้นกับชีวิตของผู้ที่เคยใช้สารเสพติดให้พวกเขารับทราบ เพราะอย่างน้อยก็ช่วยสร้างกำลังใจให้ได้เช่นกัน


ไม่ว่าใครก็ตามหากเจอปัญหาเข้ามารุมเร้า ต่างต้องการกำลังใจเพื่อนำมาใช้ในการต่อสู้ปัญหาทั้งนั้น ทางที่ดีคุณควรพูดปลอบโยน ให้กำลังใจ คอยอยู่เคียงข้างพวกเขาทุกครั้ง เพราะเชื่อว่าไม่นานจะต้องสามารถรักษาอาการเสพติด และกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติได้อย่างแน่นอน

อาจดูเป็นเรื่องยากที่สุดหากจะกลับไปไว้ใจคนที่เคยเสพยา แต่ทั้งนี้เพื่อทำให้เขาเกิดแรงบันดาลใจ และตัดขาดจากสิ่งเหล่านั้น คุณควรให้ความเชื่อมั่นพวกเขาอีกครั้ง โดยการมอบหน้าที่ให้พวกเขามีส่วนในการรับผิดชอบ อาจเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างเช่น ดูแลสิ่งของภายในบ้าน หรือเรื่องการงาน เป็นต้น

คนที่ต้องการจะเลิกยาเสพติด อาจขาดความมั่นใจ ไม่ยอมออกไปพบปะพูดคุยกับผู้อื่น เพราะความอาย หรืออะไรก็แล้วแต่ คุณควรให้กำลังใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาไม่ใช่เรื่องแปลก และไม่ได้เป็นคน ๆ เดียวที่ต้องต่อสู้กับการเลิกยา โดยเริ่มจากการพาผู้เสพไปเจอและพูดคุยกับคนที่เคยตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน จะช่วยให้เขากล้าที่จะเผชิญกับปัญหาและมีความมั่นใจมากขึ้น

ทั้งนี้หากไม่ได้ผลอาจพาเขาไปพบจิตแพทย์ เพื่อช่วยฟื้นฟูจิตใจ ไปพร้อม ๆ กับการใช้ยาช่วยบำบัดอีกทาง ทั้งนี้ตลอดระยะเวลาการรักษาควรให้พวกเขาอยู่ในความดูแลของแพทย์ตลอด จนกว่าจะหายเป็นปกติ
ทั้งนี้ ในความเป็นจริงการให้ผู้ที่ติดยาเสพติดเลิกและตัดขาดจากสิ่งเหล่านี้ไปในทันทีนั้น ย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เพราะต้องใช้ทั้งเวลา ความพยายาม และความอดทนสูง ซึ่งถ้าหากทั้งสองฝ่ายให้ความร่วมมือกัน มีความแน่วแน่ ในที่สุดคุณและเขาก็จะสามารถผ่านพ้นเรื่องร้าย ๆ ไปได้อย่างแน่นอน

