เข้าใจดีว่าในชีวิตประจำวันของแต่ละคนค่อนข้างยุ่งและไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเองเท่าไหร่นัก อีกทั้งบางครั้งยังเกิดความเครียดสะสมจากการทำงาน และหาทางออกโดยการกินตามใจตัวเอง หรือหันไปพึ่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อทำให้ตัวเองรู้สึกผ่อนคลาย ซึ่งหลากหลายพฤติกรรมผิด ๆ เหล่านี้สุดท้ายแล้วกลับส่งผลร้ายต่อสุขภาพของตัวเอง อีกทั้งยังเป็นสาเหตุของ โรคมะเร็ง อีกด้วย หากไม่อยากตกอยู่ในกลุ่มเสี่ยง ถ้าอย่างนั้นลองเปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิตตามคำแนะนำเหล่านี้กันดีกว่า
1. ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย
หลาย ๆ คนอาจจะติดกาแฟหรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำจนติดเป็นนิสัย จนลืมไปว่าร่างกายต้องการน้ำมาใช้หล่อเลี้ยงร่างกาย ซึ่งประโยชน์ของน้ำเปล่าไม่ได้มีเพียงแค่ให้ความสดชื่นหรือดับกระหายเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์ต่อระบบต่าง ๆ ในร่างกายอีกต่างหาก นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันโรคมะเร็งด้วย
2. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นหนึ่งในตัวการสำคัญที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็ง และหากดื่มในปริมาณมากยังทำให้ร่างกายตกอยู่ในสภาวะขาดน้ำอีกด้วย ส่งผลให้ร่างกายอ่อนเพลีย มีอาการวิงเวียนศีรษะ หากรุนแรงมากอาจถึงขั้นช็อกหมดสติได้ นอกจากนี้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยังเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ชายหลายต่อหลายคนเกิดโรคอ้วนลงพุงอีกด้วย ดังนั้นหากเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์เอาไว้จะดีที่สุด
3. ดื่มชาเขียว
ในระหว่างวันที่เหนื่อยล้าจากการทำงานหรือกิจกรรมต่าง ๆ ลองเปลี่ยนจากการเรียกพลังด้วยกาแฟ เป็นชาเขียวร้อน ๆ สักแก้วแทนดูสิ เพราะสามารถทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นได้เหมือนกัน อีกทั้งยังเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยป้องกันโรคมะเร็งด้วย โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมาก ซึ่งเป็นโรคที่ผู้ชายหลาย ๆ คนกังวลและวิตกกันมาตลอด เนื่องจากในชาเขียวอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ และช่วยขับพิษในร่างกายได้ ฉะนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมชาเขียวจึงสามารถต้านโรคร้ายอย่างมะเร็งได้เป็นอย่างดี
4. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
อย่างที่รู้กันดีกว่าหากต้องการมีสุขภาพที่แข็งแรงควรหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ ทั้งนี้รู้หรือไม่ว่าการออกกำลังกายไม่ได้ให้ประโยชน์ในเรื่องของรูปร่างและการลดน้ำหนักเท่านั้น เพราะยังสามารถช่วยป้องกันโรคมะเร็งได้อีกด้วย เนื่องจากการออกกำลังกายช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อและระบบต่าง ๆ ในร่างกายให้ตื่นตัวอยู่เสมอ เท่ากับว่าคนที่ออกกำลังกายมากเท่าไหร่ยิ่งลดโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งมากขึ้นเท่านั้น
5. งดการสูบบุหรี่
การสูบบุหรี่เป็นอีกหนึ่งพฤติกรรมที่ทำให้ผู้ชายเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะมะเร็งปอด เนื่องจากสารนิโคตินในบุหรี่จะเข้าไปจับอยู่ที่บริเวณปอด ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของปอดลดลง อีกทั้งสารนิโคตินยังเร่งเซลล์มะเร็งให้เจริญเติบโตรวดเร็วมากขึ้นอีกด้วย รู้แบบนี้แล้วงดการสูบบุหรี่ไปเลยดีกว่า เพื่อสุขภาพของตัวเอง
6. กินกระเทียมให้เป็นนิสัย
กระเทียมหนึ่งในเครื่องเทศและสมุนไพรที่ได้การยอมรับกันโดยทั่วไปว่า มีคุณสมบัติช่วยรักษาอาการป่วยและโรคร้ายต่าง ๆ ได้มากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ โรคมะเร็งที่หลาย ๆ คนหวาดกลัว ทั้งนี้เนื่องจากสารอาหารในกระเทียมช่วยกระตุ้นและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย และต่อต้านการเติบโตของเซลล์ผิดปกติด้วย
7. ลดปริมาณการบริโภคเนื้อสัตว์
เนื่องจากการเลี้ยงสัตว์ในปัจจุบันมีการใช้สารกระตุ้นต่าง ๆ มากมายซึ่งสารเหล่านั้นถูกผลิตขึ้นมาจากสารเคมี ดังนั้นหากรับประทานเข้าไปสารเคมีที่อยู่ในเนื้อสัตว์จะสะสมอยู่ในร่างกายและทำให้เกิดเซลล์มะเร็งขึ้น นอกจากนี้การบริโภคเนื้อสัตว์ยังทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานหนักขึ้นเป็นเท่าตัว ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้ร่างกายเป็นโรคมะเร็งได้ หากเป็นไปได้หันมาบริโภคอาหารย่อยง่าย อย่างเช่น เนื้อปลา หรือผักดีกว่า
8. กินอาหารในปริมาณที่เหมาะสม
สำหรับคนที่ชอบปล่อยให้ท้องว่างหรือกินแบบไม่คิด เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งสูง เนื่องจากไม่ได้คำนึงถึงคุณประโยชน์ที่ได้รับจากอาหารให้ดีเสียก่อน ยิ่งคนที่ชอบทานของหวาน หรืออาหารที่มีไขมันสูง อย่างเช่น อาหารทอด หรือเนื้อสัตว์ติดมัน เป็นต้น หากไม่อยากให้ตัวเองต้องทรมาน เพราะโรคร้ายคิดสักนิดก่อนทานกันดีกว่า
9. เพิ่มปริมาณผักใบเขียว
ผักใบเขียวนอกจากจะอุดมไปด้วยสารอาหารต่าง ๆ มากมายที่จำเป็นต่อร่างกายของเราแล้ว ยังเป็นอาหารที่ย่อยง่าย แคลอรี่ต่ำ และไม่เกิดไขมันสะสมในร่างกายอีกด้วย โดยเฉพาะบรอกโคลี และผักโขม เพราะไม่เพียงช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งแล้ว ยังลดความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจ และดีต่อสุขภาพในด้านอื่น ๆ ด้วย
10. เช็กประวัติการเป็นโรคมะเร็งของครอบครัว
โรคมะเร็งไม่ได้เกิดขึ้นเพราะพฤติกรรมการใช้ชีวิตในแต่ละวัน พฤติกรรมการดื่ม และนิสัยการกินส่วนตัวเท่านั้น แต่ยังสามารถเกิดจากพันธุกรรมได้ด้วย ดังนั้นจึงควรตรวจสอบประวัติการเป็นโรคมะเร็งของคนในครอบครัวด้วย ทั้งพ่อแม่และญาติคนอื่น ๆ เพื่อหาทางป้องกันเอาไว้ล่วงหน้า
11. ลดปริมาณอาหารเสริม
จริงอยู่ที่อาหารเสริมก็มีความจำเป็นต่อร่างกาย แต่ทั้งนี้ควรกินในปริมาณที่พอดีไม่มากจนเกินไป เพราะอาจทำให้สารอาหารที่ร่างกายได้รับขาดความสมดุล หากเป็นไปได้พยายามกินเท่าที่จำเป็นแล้วใช้วิธีอื่น ๆ ช่วยแทน อย่างเช่น การออกกำลังกาย เปลี่ยนนิสัยการกินอาหาร โดยการเพิ่มผักผลไม้ และลดปริมาณของเนื้อสัตว์ลง เป็นต้น
12. ตรวจสุขภาพเป็นประจำ
โรคมะเร็งแทบจะไม่มีสัญญาณเตือนใด ๆ ล่วงหน้าว่ามีแนวโน้มจะเป็น กว่าจะรู้ตัวอีกทีอาจอยู่ในระยะที่รักษาไม่ได้แล้ว ฉะนั้นจึงจำเป็นต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปีอย่างต่อเนื่อง เพราะถ้าหากเกิดความผิดปกติกับร่างกายจะได้เข้ารับการรักษาอย่างทันท่วงที
มะเร็งเป็นโรคที่รักษาได้ยาก อีกทั้งหากเกิดขึ้นแล้วไม่เพียงแต่จะทำให้ร่างกายทรุดโทรมลงเท่านั้น แต่ยังทำให้สุขภาพจิตย่ำแย่ลงไปด้วย นอกจากนี้อาจต้องทรมานกับอาการป่วยที่ไม่วันสิ้นสุด ดังนั้นคงจะดีกว่าหากป้องกันเอาไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ด้วยคำแนะนำที่นำมาฝากกันในวันนี้ เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงและห่างไกลจากโรคมะเร็ง
