เพราะเหตุใดเมื่อผู้ชายเป็นหวัดจึงป่วยหนักกว่าผู้หญิง

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          รู้สึกกันบ้างไหมว่าผู้ชายที่ว่าถึก ๆ บึก ๆ ที่เห็นสุขภาพดีแบบ 365 วัน แต่พอป่วยสักทีก็กลับเป็นหนัก ถึงขั้นต้องลางานหรือหามเข้าโรงพยาบาล เพราะนอนซมด้วยพิษไข้เกินจะทน แม้ว่าจะเป็นแค่ไข้หวัดธรรมดา ๆ ก็ตาม เมื่อเป็นเช่นนี้แฟนสาวของเขาจึงแอบสงสัย ว่าเมื่อเทียบกับเธอซึ่งไม่สบายเป็นหวัดบ่อยกว่า แต่อาการก็ไม่เคยหนักหนาอะไร แต่ทำไมกับผู้ชายที่ดูสุขภาพปกติ เป็นหวัดแต่ละทีถึงป่วยหนักจัง !?

          บางทีเรื่องนี้ดอกเตอร์อแมนด้า เอลลิสัน นักประสาทวิทยาจากมหาวิทยาลัยเดอร์แฮม ประเทศอังกฤษ อาจจะอธิบายได้ โดยรายงานจากเว็บไซต์เดลิเมลระบุว่า เธอได้ทำการศึกษาเรื่องประสาทการรับรู้ความเจ็บป่วยโดยเฉพาะอาการไข้ และได้พบว่าผู้ชายรับรู้ถึงอาการไข้ได้มากกว่าผู้หญิง เพราะสมองส่วนที่ทำหน้าที่เป็นเซ็นเซอร์รับอุณหภูมิของร่างกายในผู้ชายมีขนาดใหญ่กว่าของผู้หญิง


          ส่วนที่ทำเป็นหน้าที่เป็นเซ็นเซอร์ดังกล่าว เรียกว่า "พรีออพติก นิวเคลียส" (Preoptic nucleus) ซึ่งอยู่ในสมองส่วนไฮโปทาลามัส โดยขนาดของมันจะยังมีขนาดเท่ากันเมื่อคนเรายังเป็นเด็ก แต่เมื่อย่างเข้าสู่วัยหนุ่มสาว เทสโทสเตอโรน ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศชาย จะขับดันให้บริเวณ พรีออพติก นิวเคลียส มีขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้รับการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิได้มากและชัดเจนกว่า จึงทำให้เมื่อเป็นหวัด คุณผู้ชายจึงรับรู้ได้ถึงอุณหภูมิที่สูงขึ้นในตัว อันเนื่องมาจากร่างกายกำลังต่อสู้กับเชื้อโรคได้มากกว่า ไข้จึงสูงกว่า และทำให้เกิดอาการเป็นไข้ที่หนักหนาสาหัสกว่าผู้หญิงนั่นเอง

          อย่างไรก็ดี ผลการศึกษาชิ้นนี้ของดอกเตอร์เอลลิสัน ก็ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ในหมู่นักประสาทวิทยา และยังไม่ได้ข้อสรุปที่ยืนยัน 100% ว่าผู้ชายรู้สึกป่วยมากกว่าผู้หญิงจริง ๆ แต่ถึงกระนั้น ในเบื้องต้นนี่ก็เป็นคำอธิบายที่พอจะฟังขึ้นและเข้าใจได้ง่ายว่า ทำไมเวลาหนุ่ม ๆ ไม่สบายจึงดูหนักหนามากกว่าผู้หญิงนัก ส่วนหนุ่ม ๆ ที่แกล้งป่วยอ้อนแฟนไปอย่างนั้นอันนี้ก็คนละกรณีกันนะ ทำแล้วอย่าให้แฟนจับได้แล้วกัน ไม่งั้นอาจได้ป่วยจริง ^^