เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก wired.com
งาน CES 2013 หรือ Customs Electronics Show ที่เป็นงานแสดงสินค้าไอทีที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งจัดขึ้นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วในระหว่างวันที่ 8-11 มกราคมที่ผ่านมา ณ เมืองลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยภายในงานมีบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก ต่างขนสินค้าของตัวเองมาเปิดตัวกันอย่างมากมาย รวมทั้งค่ายรถชื่อดังต่าง ๆ ก็จะนำอุปกรณ์สำหรับรถยนต์ที่น่าสนใจมาร่วมแสดงด้วย และเว็บไซต์ wired.com ก็ได้จัด 7 อันดับอุปกรณ์สำหรับรถยนต์ที่น่าสนใจในงาน CES 2013 มาให้ชมกันด้วย ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้น เราลองไปชมพร้อม ๆ กันเลยดีกว่าครับ
1. Volvo\'s Android-Based Touchscreen Retrofit : ฟังก์ชั่นหน้าจอทัชสกรีน ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์
หากคุณคิดจะซื้อรถ แต่ยังคงติดอยู่กับระบบการจัดการสาระบันเทิงรูปแบบเก่า ๆ ตอนนี้ ทางวอลโว่ ได้ปรับปรุงหน้าจอระบบทัชสกรีนในรถยนต์ ให้กลายเป็นหน้าจอขนาด 7 นิ้ว ที่อัดแน่นด้วยความบันเทิงและสาระเต็มขั้น สำหรับรถยนต์ของวอลโว่ที่ผลิตหลังปี 2010
ด้านวอลโว่ ได้ร่วมมือกับบริษัทอีริคสันและแพร์รอท ซึ่งอนุญาตให้ผู้ใช้ติดตั้งอุปกรณ์จอทัชสรีนลงในโกลฟบ็อกซ์ นอกเหนือจากอุปกรณ์มาตรฐานและปุ่มบังคับจอยสติกสำหรับรถรุ่น XC60 SUV ไปจนถึงรถซีดานรุ่น S60
นอกเหนือจากการอัพเกรดฮาร์ดแวร์แล้ว ทางวอลโว่เองยังได้ร่วมมือกับอีริคสัน พัฒนาระบบซอฟต์แวร์ ให้มีระบบคลาวด์ที่ผู้ขับขี่สามารถเข้าถึงข้อมูลผ่านทางบลูทูธของสมาร์ทโฟน และจากการพัฒนาซอฟต์แวร์ของบริษัทแพร์รอท หน้าจอทัชสรีนดังกล่าว จะทำงานด้วยระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ซึ่งมีแอพพลิเคชั่นน่าสนใจมากมาย อาทิ แอพพลิเคชั่นนำทางอย่าง กูเกิล แมพ หรือ ไอโก (IGo) และผู้ขับขี่ยังสามารถเข้าไปเลือกซื้อแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ผ่านทาง Parrot Asteroid app store หรือฟังเพลงจากโปรแกรม Deezer, ฟังวิทยุจาก TuneIn และ Spotify ได้อีกต่างหาก ซึ่งนี่นับเป็นรถยนต์คันแรกที่ให้ผู้ใช้สามารถสมัครสมาชิกบริการเสียงเพลงต่าง ๆ ได้
2. MirrorLink : เครื่องเสียงในรถยนต์แบบทัชสกรีน ที่ทำงานกับไอโฟน
มิร์เรอร์ลิงค์ บริษัทผู้ผลิตหน้าจอทัชสกรีนในรถยนต์ ที่เชื่อมต่อเข้ากับสมาร์ทโฟน ได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับผู้ใช้มือถือเป็นตัวช่วยสำหรับความบันเทิงในรถยนต์ โดยครั้งนี้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อไอโฟน 4,4S และไอโฟน 5 เข้ากับเครื่องเสียงในรถยนต์ และ Siri ก็จะทำงานร่วมกันกับรถยนต์ทันที
ทั้งนี้ ทางเจวีซี ผู้ผลิตมิร์เรอร์ลิงค์ ได้ออกแบบเครื่องเสียงติดรถยนต์ หน้าจอทัชสกรีน ที่สามารถทำงานร่วมกันกับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์และซิมเบี้ยน โดยผู้ขับสามารถนำมือถือ ซัมซุง กาแล็คซี่ เอส 3 มาต่อเข้ากันกับเครื่องนี้ แล้วแอพพลิเคชั่น ซัมซุง ไดร์ฟลิงค์ ก็จะเริ่มทำงาน โดยมีหน้าจอให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกฟังเพลง เลือกใช้ระบบนำทาง หรือโทรศัพท์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แต่หากคุณคือคนที่ใช้โทรศัพท์มือถือจากค่ายแอปเปิล อุปกรณ์เครื่องเสียงติดรถยนต์ชนิดใหม่นี้ สามารถเชื่อมต่อไอโฟน 4, 4S และ ไอโฟน 5 เพื่อเข้าสู่ แอพ ลิงค์ โหมด และผู้ช่วยในมือถืออย่าง Siri ก็จะทำงานร่วมกันกับรถยนต์ได้อย่างง่ายดาย ทำให้คุณสามารถสั่งเปิดเพลง ค้นหาเส้นทาง หรือสั่งงานอื่น ๆ ผ่านเสียงได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม รายละเอียดเกี่ยวกับอุปกรณ์ชิ้นนี้ ยังไม่มีการเปิดเผยออกมามากนัก
3. Slick Center Stack : คอนโซลรถสารพัดประโยชน์
บริษัทเท็กซัส อินสตูเมนท์ ได้ใช้เทคโนโลยี DLP เพื่อสร้างสรรค์ สลิก เซ็นเตอร์ สแต็ก (Slick Center Stack) หน้าจอดิสเพลย์ควบคุมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในรถแบบใหม่ แม้จะไม่ใช่หน้าจอขนาด 17 นิ้วอย่างรุ่น Tesla Model S แต่หน้าจอรุ่นใหม่นี้ก็มีเทคโนโลยีเจ๋ง ๆ หลายอย่างที่ผู้ใช้ต้องทึ่งไปตาม ๆ กัน
ทั้งนี้ สลิก เซ็นเตอร์ สแต็ก ดังกล่าว จะใช้โปรเซสเซอร์รุ่น Jacinto 6 และหน้าจอยังรองรับการทำงานแบบทัชสกรีนหลายจุด หรือ มัลติพอยท์ ทัชสกรีน ผู้ใช้สามารถปรับลดขนาดหน้าจอหรือวัตถุบนจอได้ตามต้องการ อีกทั้งจอยังมีสีสันจัดจ้าน รองรับวิดีโอความละเอียดสูง มีภาพแสดงข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์ ภาพแสดงระบบนำทาง แผงควบคุมฟังก์ชั่นความบันเทิงและ HVAC control ที่เหมาะทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารในรถยนต์ บนหน้าจอจะมีระบบเซ็นเซอร์ที่ใช้ตรวจจับว่า ขณะนี้ผู้โดยสารหรือผู้ขับขี่กำลังยื่นมือเข้ามาควบคุมแผงคอนโซล จากนั้นอุปกรณ์จะปรับเปลี่ยนแผงควบคุม รวมถึงฟังก์ชั่นต่าง ๆ ให้เหมาะสม โดยฟังก์ชั่นการทำงานบางอย่างจะไม่อนุญาตให้ผู้ขับขี่ใช้ เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่เอง
4. Subaru Starlink : อุปกรณ์เพื่อความบันเทิง สำหรับรถซูบารุ
ก่อนหน้านี้ ซูบารุเอง ไม่ค่อยใส่ใจกับระบบสาระบันเทิงในรถยนต์มากนัก แต่ล่าสุด ซูบารุได้ออก สตาร์ลิงค์ อุปกรณ์เพื่อความบันเทิงในรถยนต์ชนิดใหม่ สำหรับรถยนต์ซูบารุโดยเฉพาะออกมาเรียบร้อยแล้ว
ทางด้านสตาร์ลิงค์ ผลิตและพัฒนาโดยบริษัท ฟูจิ เฮฟวี่ อินดัสทรี บริษัทแม่ผู้ผลิตรถยนต์ซูบารุ ได้ออกแบบหน้าจอสำหรับความบันเทิงในรถยนต์ ซึ่งมีทั้งภาพแผนที่กราฟฟิกแสดงขึ้นที่หน้าจอ โดยที่ผู้ขับขี่ยังสามารถรับฟังวิทยุพอดคาสต์ ที่มีทั้งข่าวจากช่องซีบีเอส หรือเพลงจากช่องราฟโซดี้ รวมทั้งยังหาร้านอาหารใกล้ ๆ ได้จากแอพพลิเคชั่นของ Yelp หรือสอบถามสภาพอากาศได้ด้วย อีกทั้งสตาร์ลิงค์ ยังมีแอพพลิเคชั่นอย่างเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ ที่ทำให้คุณไม่พลาดการเชื่อมต่อกับโลกโซเชียล เน็ตเวิร์กแน่นอน
5. Inrix : ระบบค้นหาที่จอดรถทั่วโลก
หากคุณมีปัญหาเกี่ยวกับการหาที่จอดรถ ไม่ว่าจะไปถึงที่จอดรถแล้วเต็ม จนทำให้ต้องไปจอดรถไกล ๆ และพลอยกังวลว่ารถจะหาย บริษัท Inrix ได้ผลิต Global Parking Navigation Service บริการค้นหาที่จอดรถอัตโนมัติทั่วโลก เพื่อที่คุณจะจอดรถได้อย่างอุ่นใจ
ทั้งนี้ ระบบดังกล่าว นอกเหนือจากจะบอกว่ามีที่จอดรถอยู่ที่ไหนบ้าง (ซึ่งอาจจะเต็มแล้วเมื่อคุณไปถึงที่นั่น) มันยังมีการอัพเดตที่จอดว่างแบบนาทีต่อนาที รวมทั้งยังบอกข้อมูลช่องจอดรถอย่างละเอียด ว่าอยู่ที่ไหนบ้าง โดยจะส่งข้อมูลจากแอพพลิเคชั่น พาร์คมี และ พาร์โคพีเดีย เข้ามือถือสมาร์ทโฟนของคุณ ซึ่งมีข้อมูลที่จอดรถกว่า 18,000 แห่งในทวีปอเมริกาและอีก 42,000 แห่งทั่วยุโรป
ด้านบริษัทเคนวูด เป็นบริษัทแรกที่นำระบบดังกล่าวมาใช้กับอุปกรณ์ของตัวเอง และเชื่อว่าในตอนนี้ทุกอย่างกำลังเร่งมือพัฒนาอยู่
6. Garmin K2 Platform
การ์มินไม่ได้โดดเด่นเพียงแค่ระบบนำทางสำหรับรถยนต์เท่านั้น แต่บริษัทนี้ยังผลิตอุปกรณ์ต่าง ๆ ทีใช้ในรถยนต์อีกมาก และในงาน CES 2013 การ์มินก็ได้นำเสนออุปกรณ์สำหรับสาระบันเทิงรูปแบบใหม่ ที่รวมเอาระบบนำทาง ข้อมูลรถยนต์ อีเมล การส่งข้อความ เพลง และข้อมูลแบบเรียลไทม์นำมาไว้ด้วยกัน
ทั้งนี้ การ์มิน ได้ออกแบบหน้าจอมัลติทัชขนาด 10 นิ้ว ที่ตั้งอยู่ตรงกลางแผงคอนโซลรถ และมีหน้าจอขนาด 12 นิ้ว ที่ติดตั้งไว้ตรงแผงหน้าปัดรถยนต์ โดยอุปกรณ์ดังกล่าวผู้ใช้จะสามารถสั่งงานด้วยเสียง เพื่อให้อ่านข้อความหรืออีเมล รวมทั้งหน้าจอยังแสดงภาพที่จอดรถ สภาพการจราจร สภาพอากาศ และราคาน้ำมัน ผ่านการเชื่อมต่อข้อมูล และผู้ใช้ยังสามารถปรับแต่งหน้าจออินเตอร์เฟซ ให้แสดงนัดหมายในปฏิทิน ไปจนถึงรายชื่อเพลงอีกด้วย
7. BMW ConnectedDrive
บริษัท ฮาร์แมน ได้จับมือกับ บีเอ็มดับเบิ้ลยู ออกแบบอุปกรณ์ในรถที่เรียกว่าระบบ ConnectedDrive ซึ่งมาพร้อมกับแผนที่แบบ 3D การสั่งงานด้วยเสียงและระบบตอบโต้กับผู้ใช้ โดยผู้ใช้สามารถสั่งงานให้ระบบป้อนที่อยู่ จนไปถึงการค้นหาที่อยู่ด้วยระบบ POI อีกทั้งสั่งให้ส่งอีเมล์และข้อความสั้น ๆ รวมถึงยังทำงานกับทวิตเตอร์และเฟซบุ๊กได้อีกด้วย โดย ConnectedDrive มาพร้อมกับหน้าจอความละเอียด 1,280 x 480 พิกเซล และซีพียูขนาด 1.3GHz สามารถใช้กับรถยนต์ของ BMW รุ่นซีรีส์ 3, 5 และ 7 ได้ตามต้องการ