เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก mercier-jones.com
เชื่อว่าหนุ่ม ๆ หลายคนที่ชื่นชอบและหลงใหลในรถสปอร์ต จะต้องมีแบรนด์รถที่โดนใจของตัวเองไว้อย่างน้อยก็คันสองคันแน่นอน และเมื่อได้ชื่อว่าเป็นรถสปอร์ตแล้ว สิ่งแรกที่ผู้คนจะต้องคิดถึงเป็นอันดับต้น ๆ ก็คือ ดีไซน์ ของมันนั่นเอง เพราะถือว่าเป็นสิ่งที่สร้างความประทับใจแรกให้กับผู้ที่พบเห็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ใครจะเคยนั่งนึกดูเล่น ๆ ไหมว่า หากรถสปอร์ตและเรือ มาผสานรวมตัวกันเป็นหนึ่งเดียว จะมีหน้าตาออกมาเป็นยังไง ซึ่งวันนี้...เรามีคำตอบให้คุณแล้วกับ "เมอร์ซิเยร์-โจนส์ โฮเวอร์คราฟท์" (Mercier-Jones Hovercraft)
สำหรับสุดยอดเรือสะเทินน้ำสะเทินบกที่มีดีไซน์โฉบเฉี่ยวไม่เหมือนใครรุ่นนี้ เป็นผลงานของบริษัทเมอร์ซิเยร์-โจนส์ ที่ตั้งอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา เกิดปิ๊งไอเดียในการจับเอารูปลักษณ์ภายนอกของรถสปอร์ต มาปรับแต่งผสมผสานเข้ากับเรือ จนได้ออกมาเป็นโฮเวอร์คราฟท์รุ่นนี้ในที่สุด และถ้าคุณได้เห็นภาพของมันแล้วล่ะก็ ต้องทึ่งในความเฟี้ยวเงาะของมันอย่างแน่นอน!!
ในส่วนของภายนอกของตัวเรือนั้น ทีมงานนักออกแบบได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถสปอร์ตสุดหรูค่ายต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น บูกัตติ เวย์รอน, มาเซราติ แกรน ทัวริสโม่, ออดี้ อาร์8 และรถสปอร์ตรุ่นอื่น ๆ มาปรับแต่งแปลงโฉมใหม่จนกลายเป็นเรือสะเทินน้ำสะเทินบกดีไซน์แจ่มได้ขนาดนี้ ซึ่งเมื่อมองเผิน ๆ มันก็ดูเหมือนรถจริง ๆ นั่นแหละ เพียงแต่ว่าด้านข้างของตัวเรือและห้องโดยสารก็ยังคงความเป็นเรือไว้เหมือนเดิม โดยสามารถรองรับผู้โดยได้ทั้งหมด 2 ท่าน (รวมคนขับด้วย) เรียกได้ว่าไม่ต่างจากรถสปอร์ตทั่วไปจริง ๆ ทั้งนี้ตัวเฟรมของเรือทำมาจากวัสดุที่มีคุณภาพสูง เช่น คาร์บอนไฟเบอร์และโลหะอัลลอย เป็นต้น
สำหรับพลังงานขับเคลื่อนนั้นเป็นพลังงานไฮบริด-อิเล็กทริค ที่ช่วยในเรื่องของการรักษาสิ่งแวดล้อมและประหยัดพลังงาน รวมทั้งใช้เทคโนโลยี Air cushion และระบบ Patent-pending directional control เพื่อช่วยให้เรือสามารถขับเคลื่อนได้อย่างไหลลื่นทั้งบนผิวน้ำและพื้นดิน
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เจ้าเรือเมอร์ซิเยร์-โจนส์ ยังอยู่ในขั้นตอนของการพัฒนาอยู่ โดยไม่มีแผนออกวางจำหน่ายในเร็ว ๆ นี้ แต่เชื่อว่าบรรดานักสะสมเรือ (รวมทั้งรถยนต์) หลาย ๆ ท่าน คงภาวนาอยากจะเห็นมันแบบตัวเป็น ๆ มากกว่าภาพต้นแบบอย่างแน่นอน และคงแอบคิดจะครอบครองเป็นเจ้าของกันสักคัน เอ๊ย! ลำอยู่ใช่ไหมล่ะ ยังไงก็คงต้องเฝ้ารอติดตามข่าวคราวความคืบหน้าของเมอร์ซิเยร์-โจนส์ กันต่อไปน่ะครับ :P