Body Type หุ่นผู้ชายมีกี่แบบ ? รู้จักรูปร่างหลักแบบต่าง ๆ ของผู้ชาย เพื่อการดูแลรูปร่างอย่างถูกวิธี หุ่นดีแบบมีสไตล์
รูปร่างหรือ Body Type เป็นสิ่งที่ผู้ชายหลายคนอาจมองข้ามและไม่ได้ใส่ใจในเรื่องนี้มากนัก ซึ่งการเข้าใจในรูปร่างของตัวเองไม่ใช่แค่เรื่องของการเลือกใส่เสื้อผ้าให้ดูดี แต่ยังส่งผลต่อการออกกำลังกาย โภชนาการ และการดูแลสุขภาพโดยรวมอีกด้วย วันนี้เราจึงจะพาทุกคนมารู้จักกับประเภท Body Type ของผู้ชาย หรือ หุ่นผู้ชาย โดยจะมีทั้งแบบที่แบ่งตามระบบเผาผลาญและองค์ประกอบร่างกายภายใน กับแบบที่แบ่งตามรูปร่างภายนอกที่นิยมใช้ในวงการแฟชั่นและเทรนเนอร์ฟิตเนส เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจรูปร่างของตัวเองและดูแลร่างกายได้ดียิ่งขึ้น
Body Type ผู้ชายแบบแบ่งตามองค์ประกอบร่างกาย
1. Ectomorph (รูปร่างผอมเพรียว)
รูปร่างแบบนี้มีลักษณะเด่นคือ ตัวผอม แขน-ขายาว มวลกล้ามเนื้อน้อย ไขมันต่ำ ร่างกายสามารถเผาผลาญพลังงานได้ดี ไม่อ้วนง่าย แต่เพิ่มกล้ามเนื้อยาก ต้องใช้เวลาและความพยายามในการสร้างรูปร่าง เหมาะกับการออกกำลังกายแบบเพิ่มกล้ามเนื้อ (Weight Training) และรับประทานอาหารที่มีพลังงานสูงเพื่อเพิ่มน้ำหนัก
2. Mesomorph (รูปร่างสมส่วน)
ลักษณะของรูปร่างนี้จะมีความสมส่วน ไหล่กว้าง เอวแคบ มีกล้ามเนื้อโดยธรรมชาติ สามารถเพิ่มหรือเผาผลาญไขมันได้ง่าย แต่ถ้าขาดการดูแลก็อาจอ้วนขึ้นได้ง่ายเหมือนกัน อาจดูแลด้วยการออกกำลังกายเพิ่มกล้ามหรือลดไขมันก็ได้
3. Endomorph (รูปร่างอวบ)
คนที่มีรูปร่างแบบนี้มักจะตัวหนาใหญ่ มีไขมันสะสมง่าย กล้ามเนื้อเยอะแต่ถูกซ่อนไว้ใต้ชั้นไขมัน เผาผลาญช้า ถ้าฟิตหุ่นสำเร็จจะดูแข็งแรงมาก แต่ต้องมีวินัยสูงในการลดไขมันและรักษาหุ่น เหมาะกับการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอเพื่อเผาผลาญไขมัน และการควบคุมอาหาร
Body Type ผู้ชายแบบแบ่งตามรูปร่างภายนอก
1. Inverted Triangle
รูปร่างที่มีลักษณะท่อนบนเป็นทรง V มีไหล่ที่กว้าง หน้าอกใหญ่ เอวเล็ก มักพบในนักเพาะกายหรือคนที่เล่นเวตอย่างสม่ำเสมอ อาจดูแลด้วยการเน้นเพิ่มกล้ามขาให้สมดุลกับช่วงบน และเลือกใส่เสื้อผ้าที่พอดีตัวเพื่อระวังไม่ให้ลำตัวดูตัน
2. Rectangle
รูปร่างทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าจะมีลักษณะเด่นคือ มีไหล่ เอว และสะโพกกว้างใกล้เคียงกัน ลำตัวเป็นเส้นตรง ดูไม่ค่อยมีส่วนเว้าส่วนโค้ง หากเสริมกล้ามเนื้อช่วงบน โดยเฉพาะไหล่และอก จะช่วยให้ดูดียิ่งขึ้น เหมาะกับการเลือกใส่เสื้อที่มีโครงสร้างช่วงไหล่ เช่น เสื้อสูท หรือแจ็กเก็ต
3. Triangle
สำหรับรูปร่างแบบสามเหลี่ยมนี้จะมีช่วงล่างที่กว้างกว่าช่วงบน คือ มีสะโพกและหน้าท้องกว้างกว่าไหล่ รวมถึงมักมีไขมันสะสมช่วงล่าง ควรออกกำลังกายเพื่อลดไขมันส่วนล่างและเสริมกล้ามเนื้อช่วงบน รวมถึงเลือกเสื้อที่มีดีเทลช่วงไหล่หรือคอวี เพื่อเบี่ยงสายตาขึ้นบน
4. Oval
รูปร่างทรงวงรีหรือหุ่นกลมจะมีลักษณะที่เด่นชัดคือ ตัวกลม เห็นหน้าท้องชัด ช่วงเอวกว้าง แต่ไหล่แคบ ควรโฟกัสไปที่การเผาผลาญไขมัน เช่น คาร์ดิโอและควบคุมอาหาร เหมาะกับการใส่เสื้อผ้าโทนเข้ม ทรงตรง เพื่อให้ลำตัวดูเพรียวขึ้น
5. Trapezoid
รูปร่างแบบนี้ช่วงไหล่และลำตัวช่วงบนจะกว้าง มีชายโครงที่ใหญ่กว่าช่วงเอว ลักษณะดูคล้ายทรงสี่เหลี่ยมคางหมูหรือสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน เป็นรูปร่างที่ดูสมดุลและเลือกใส่เสื้อผ้าได้ง่ายที่สุด สามารถใส่เสื้อผ้าได้หลากหลายสไตล์ทั้งแบบลำลองและทางการ อาจดูแลด้วยการรักษารูปร่างให้สมดุล
ทั้งนี้ ไม่ว่ารูปร่างคุณจะเป็นแบบไหนก็สามารถดูดีได้ในสไตล์ของตัวเอง ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดก็คือการดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม เลือกเสื้อผ้าให้เข้ากับรูปร่าง และวางแผนออกกำลังกายได้อย่างมีเป้าหมาย เพราะว่ารูปร่างที่ดีที่สุด ไม่ใช่รูปร่างที่เหมือนใคร แต่คือรูปร่างที่เราดูแลมันได้อย่างมั่นใจและยั่งยืนนั่นเอง
ขอบคุณข้อมูลจาก : healthline.com, hockerty.com, philltarling.com, clinicagranalacant.com, caliberstrong.com
