เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก Space
หากจะพูดถึงดาวหางฮัลเลย์แล้ว เชื่อเลยว่าคงไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะมันคือดาวหางที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก และมีวงโคจรเฉียดโลกทุก ๆ 75 ปี เรียกว่าในหนึ่งชั่วชีวิตคน จะต้องรับรู้ข่าวคราวการมาเยือนของมันแน่ ๆ วันนี้เราก็เลยขอนำเรื่องราวของดาวหางดวงนี้มาฝากกัน
ดาวหางฮัลเลย์เป็นดาวหางที่วนเวียนกลับมาอยู่ในระยะใกล้เคียงกับดาวโลกทุก ๆ 75 ปี โคจรเฉียดโลกมาแล้วกี่ครั้งไม่มีใครรู้ แต่องค์กรอวกาศยุโรปเชื่อว่าการพบดาวหางฮัลเลย์เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อ 239 ปีก่อนคริสตกาล และชาวจีนก็ได้บันทึกเหตุการณ์นั้นไว้ในบันทึกประวัติศาสตร์ของพวกเขาด้วย ต่อมาเมื่อ 164 ปีก่อนคริสตกาล และ 87 ปีก่อนคริสตกาล มันก็ได้ผ่านโลกไปอีก และชาวบาบิโลนก็ได้มีการจดบันทึกเอาไว้ ซึ่งมันยังคงถูกเก็บเอาไว้ที่พิพิธภัณฑ์บริติชในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
คนสมัยก่อนให้ความสำคัญกับการพบเห็นดาวหางเป็นพิเศษ บ้างก็เชื่อว่ามันเป็นสัญลักษณ์ของเหตุการณ์สำคัญที่พระเจ้าส่งมาให้ ยกตัวอย่างเช่น พระเจ้าวิลเลียมที่ 1 แห่งอังกฤษผู้คว้าชัยชนะในศึกรุกรานประเทศอังกฤษ เมื่อปี ค.ศ. 1066 ก็เชื่อว่าดาวหางที่ปรากฏก่อนการศึกในเวลาไม่นาน เป็นตัวประกาศให้รู้ถึงชัยชนะของพระองค์ และเหตุการณ์นี้ก็ได้ถูกบันทึกอยู่ในบันทึกเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย
แม้แต่กวีคนดัง วิลเลียม เชกสเปียร์ ก็ยังเชื่อว่าดาวหางเป็นตัวบ่งบอกถึงเหตุการณ์ครั้งสำคัญเช่นกัน โดยในเรื่อง จูเลียส ซีซาร์ ที่เขาประพันธ์ขึ้นช่วงปี ค.ศ. 1600 ยังได้มีบทพูดที่กล่าว่า "เมื่อขอทานตาย พวกเขาตายไปโดยปราศจากการปรากฏตัวของดาวหาง สวรรค์คงต้องการจะส่งดาวหางมาเป็นตัวแทนมอบคบเพลิงให้กับการตายของเจ้าชาย"
อย่างไรก็ตาม ผู้คนไม่เคยรู้ว่าดาวหางฮัลเลย์ได้วนเวียนมาที่โลกตลอดทุก ๆ 75 ปี จนกระทั่งมีการค้นพบของ เอ็ดมอนด์ ฮัลเลย์ ที่เปรียบเทียบการปรากฏของดาวหางทั้ง 24 ดวง ตั้งแต่ปี 1337-1698 และได้พบว่าดาวหางในปี ค.ศ. 1531, 1607 และ 1682 มีความคล้ายคลึงกันทั้งในเรื่องของวงโคจรและตัวแปรอื่น ๆ จึงได้ตั้งทฤษฎีว่ามันคือดวงเดียวกัน และจะปรากฏอีกครั้งในปี ค.ศ. 1758 แต่ก็เป็นเรื่องน่าเสียดายที่เขาได้เสียชีวิตลงเมื่อปี ค.ศ. 1742 เลยไม่มีโอกาสได้เห็นทฤษฎีของเขาเป็นจริงด้วยตาของตัวเอง จึงมีการตั้งชื่อดาวหางตามชื่อของเขาเพื่อเป็นเกียรติแก่การค้นพบนี้แทน
เมื่อมีการค้นพบนี้แล้ว ประกอบด้วยเทคโนโลยีมีความก้าวหน้ามากขึ้น ทำให้นักวิทยาศาสตร์ตัดสินใจเข้าไปสำรวจดาวหางนี้อย่างใกล้ชิด โดยยานอวกาศเวก้า 1 และ 2 ผลงานการร่วมมือของสหภาพโซเวียตกับประเทศฝรั่งเศสสามารถเข้าไปถ่ายรูปนิวเคลียสของดาวหางฮัลเลย์เอาไว้ได้ ในขณะที่ปี ค.ศ. 1978 นาซาก็สามารถถ่ายภาพของมันในระยะไกลจากโลก 28 ล้านกิโลเมตรเอาไว้ได้เช่นกัน
อย่างไรก็ดี เมื่อปี ค.ศ. 1986 ที่เป็นปีล่าสุดที่มันเคลื่อนเข้ามาใกล้โลก ได้มีการส่งทีมภารกิจขึ้นไปกับยาน STS-51L ซึ่งได้รับหน้าที่ให้มองดางหางฮัลเลย์ผ่านกล้องโทรทรรศน์ระหว่างที่อยู่บนอวกาศให้ได้เห็นภาพชัด ๆ ด้วย แต่มันก็ต้องล้มเหลวไปจากการที่ยานระเบิดตั้งแต่ 2 นาทีหลังถูกปล่อยออกไป ทำให้การสำรวจดางหางฮัลเลย์อย่างใกล้ชิดต้องรอไปอีกในปี ค.ศ. 2061 ที่คาดว่าตำแหน่งของดาวหางน่าจะเอื้ออำนวยต่อการสำรวจมากขึ้น โดยอยู่ฝั่งเดียวกับดวงอาทิตย์ของโลก
หมายเหตุ : แก้ไขข้อมูลล่าสุด วันที่ 22 ตุลาคม 2556 เวลา 08.59 น.
