x close

อากังฟู ไทยเพลย์บอย ผู้กำเนิดหนังสือสยิว ยุคบุกเบิก


อากังฟู ไทยเพลย์บอย ผู้กำเนิดหนังสือสยิว ยุคบุกเบิก

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการใครคือใคร IDENTITY THAILAND โพสต์โดย คุณ truebankstv สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

          กลายเป็นชื่อที่ถูกค้นหามากที่สุดชื่อหนึ่งเลยเดียว สำหรับคำว่า "อากังฟู" หลังจากที่ชื่อนี้ กลายเป็นตัวเลือกปริศนาในรายการ "ใครคือใคร" ออกอากาศทางช่อง 9 เมื่อคืนวันที่ 16 พฤษภาคม 2556 ที่ผ่านมา ซึ่งหลาย ๆ คนก็อยากรู้ว่า "อากังฟู" นั้นคือใคร มีประวัติความเป็นมาอย่างไร... วันนี้เราก็เลยนำเรื่องราวและผลงานของ อากังฟู ไทยเพลย์บอย มาให้รู้จักกัน ขอบอกเลยว่าผลงานที่ขึ้นชื่อของอากังฟูนั้น ทั้งจี๊ด ทั้งซี้ด เลยล่ะ!!

          หากเอ่ยถึงชื่อ "อากังฟู" คนที่มีอายุเพียงเลข 3 ต้น ๆ คงไม่รู้จัก แต่ถ้าใครที่อายุมากกว่านั้น คงคุ้นเคยชื่อนี้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะนิตยสาร "ไทยเพลย์บอย" ผลงานชิ้นพรีเมี่ยมของอากังฟู ที่ชายไทยซื้อหามาอ่านเรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับ "เซ็กส์" ประหนึ่งเป็นหนังสือเพศศึกษาในสมัยนั้นเลยก็ว่าได้...

อากังฟู ไทยเพลย์บอย ผู้กำเนิดหนังสือสยิว ยุคบุกเบิก

          อากังฟู หรือ ชูชาติ ธนมงคลไชย วัย 67 ปี บุคคลนี้ ที่ชายไทยในสมัยก่อนถึงกับยกนิ้วให้เป็นไอดอล เพราะเป็นผู้ที่ริเริ่มทำหนังสือปลุกใจเสือป่าแบบแหวกแนวหัวหนังสืออื่น ๆ ทั้งหลาย โดยนำเอาหญิงไทยหน้าตาธรรมดา แต่หุ่นเซี๊ยะมานุ่งน้อยห่มน้อยมาขึ้นปกสู้นางแบบเอ็กซ์ ๆ หน้าตาดีทั้งไทย และเทศ ในหนังสือ "ไทยเพลย์บอย" ซึ่งในตอนแรกถึงแม้จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเอานางแบบหน้าตาบ้าน ๆ หน้าตาไม่สวยมาลงปก แต่ยอดขายนั้นกลับตรงกันข้ามจากเสียงวิจารณ์ ทำให้ชายไทยอยากจะพิสูจน์ว่า "ไอ้ที่ไม่สวยนั้นมันไม่สวยขนาดไหน" จึงตระเวนซื้อหา จนหนังสือ "ไทยเพลย์บอย" ขึ้นแท่นหนังสือขายดีระดับท็อปในยุคนั้น

          แต่ใครจะรู้ว่า การเอานางแบบหน้าตาบ้าน ๆ มาลง จริง ๆ แล้วเป็นกลยุทธ์เด็ดของ อากังฟู ไทยเพลย์บอย โดยเขาเล็งเห็นว่า หากนำนางแบบสวย ๆ นางแบบชื่อดังจากต่างประเทศมาขึ้นปก แผงหนังสือก็จะไม่มีความแตกต่าง และคำว่า "หน้าบ้าน ๆ " นี่ล่ะ ที่ทำให้ชายไทยรู้สึกว่าจับต้องได้ เข้าถึงง่าย และเป็นธรรมชาติ ดูแล้วเกิดอารมณ์มากกว่า

          จากยอดขายถล่มทลาย อากังฟู ก็เลยขอเดินเกมตามสุภาษิต "น้ำขึ้นให้รีบตัก" โดยเพิ่มเติมคอลัมน์สุดสยิว ชวนฝันลงไปหลายต่อหลายคอลัมน์ ไม่ว่าจะเป็น ครั้งแรกในชีวิต, แอบดูมาเล่าสู่กันฟัง, ความประทับใจ และคอลัมน์ที่ดูหมิ่นเหม่สังคมที่สุดก็คือ "คำสารภาพ จากโลก สวิงกิ้ง"  แต่กลับกลายเป็นคอลัมน์ที่ถูกพูดถึงมากที่สุด!

          และก็ส่งผลให้หนังสือไทยเพลย์บอย ต้องเปลี่ยนวัน-เวลาการวางแผง จากหนังสือรายเดือน เป็นรายปักษ์ และจากรายปักษ์เป็นรายสัปดาห์ แต่จุดหักเหที่ทำให้ไม่มีชื่อหนังสือของ "ไทยเพลย์บอย" อยู่บนแผงอีกต่อไป นั่นก็คือ "คดีฉาว" ที่ทำให้หนังสือต้องปิดตัวลงอย่างถาวร... ส่วนสาเหตุนั้นก็สืบเนื่องมาจากคอลัมน์สวิงกิ้ง ที่ "อากังฟู" ขันอาสาเป็นตัวกลางให้ชายและหญิงนักอ่าน ได้เจอกันด้วยการเปิดบาร์เบียร์ให้คนที่สนใจมานัดพบ นัดพูดคุย.. และเมื่อช่วงกลางปี 2538 ก็ถึงวันอวสานของหนังสือเล่มนี้ เนื่องจากมีการจับกุมร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่ง ที่ใช้เป็นแหล่งนัดชาย-หญิงรักสนุกมาสวิ้งกิ้ง ซึ่งนัดพบกันผ่านหนังสือ "ไทยเพลย์บอย"

          ส่วนในปัจจุบัน ถึงแม้ว่า "อากังฟู" จะมีอายุอานามใกล้ถึงหลัก 7 แล้ว แต่ก็ยังคงทำงานอยู่ในแวดวงหนังสือ และได้เปลี่ยนชื่อหนังสือจาก "ไทยเพลย์บอย" เป็นหนังสือ "เพลย์ออฟ" แทน และก็ต้องแก้เนื้อหาให้เหมาะสมกับโลกปัจจุบัน โดยในช่วงที่อากังฟูถูกดำเนินคดีจนมีคำตัดสินให้จำคุก (ข้อหาเป็นธุระจัดหาเพื่อสำเร็จความใคร่ให้ผู้อื่น) ขณะอยู่ในคุกก็ยังเขียนหนังสือ และส่งต้นฉบับอย่างไม่ขาด และนอกเหนือจากหนังสือเพลย์ออฟ อากังฟูยังทำหนังสือ ลีลาวดี, กระดังงา, บทเรียนชีวิต และอายส์ แอนด์ อายส์ ซึ่งทั้งหมดนี้ เป็นหนังสือที่เกี่ยวกับเพศศึกษาทั้งหมด

          ทิ้งท้ายชีวประวัติของ "อากังฟู" กับตำนานหนังสือ "ไทยเพลย์บอย" ด้วยคำพูดที่ว่า เซ็กส์คือเรื่องธรรมชาติ และเป็นเรื่องอันดับหนึ่งของชีวิตมนุษย์ เพราะหากเรารวยล้นฟ้า แต่ไม่สามารถมีเซ็กส์ได้ ร้อยล้านนั้นก็ไม่มีความหมาย... ถึงแม้หนังสือบางเล่ม บางฉบับจะถูกขึ้นบัญชีดำ และอากังฟูก็ไม่ได้หวังว่าจะกลับมารุ่งเรืองในตลาดหนังสืออีก แต่แค่ชื่อของ "อากังฟู ไทยเพลย์บอย" เป็นตำนานของชายไทยในช่วงยุคสมัยหนึ่ง ก็คงจะเพียงพอแล้ว

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
อากังฟู ไทยเพลย์บอย ผู้กำเนิดหนังสือสยิว ยุคบุกเบิก โพสต์เมื่อ 17 พฤษภาคม 2556 เวลา 15:25:42 7,513 อ่าน
TOP