ไฝใต้ไข่ผู้ชาย ที่เขาว่ากันว่าผู้ชายทุกคนมี ไฝหรือขี้แมลงวันบริเวณนี้เกิดจากอะไร และมีอันตรายหรือไม่ ไปหาคำตอบกัน

เคยได้ยินคนบอกว่าไฝใต้ไข่ผู้ชายมีกันทุกคน จนหลายคนถึงกับต้องไปพิสูจน์ สำรวจตัวเองว่ามีไฝหรือขี้แมลงวันที่บริเวณนั้นหรือไม่ ว่าแต่ไฝในที่ลับผู้ชายหรือบริเวณอัณฑะและอวัยวะเพศชายเกิดจากอะไร เป็นอันตรายหรือไม่ ตามกระปุกดอทคอมมาไขข้อสงสัยกันครับ
ไฝใต้ไข่ผู้ชายเกิดจากอะไร
จุดดำที่ปรากฏบริเวณไข่หรืออัณฑะของคุณผู้ชายมีทั้งแบบชั่วคราวและถาวรจนกลายเป็นไฝ เกิดได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้
- รอยฟกช้ำ - การบาดเจ็บทางร่างกายอาจทำลายหลอดเลือดขนาดเล็ก ทำให้เลือดสะสมอยู่ในเนื้อเยื่อ ส่งผลให้เกิดบริเวณที่มีผิวสีเข้มจนอาจดูเหมือนไฝหรือขี้แมลงวัน ซึ่งมักจะหายภายใน 2 สัปดาห์
- ขนคุดหรือรูขุมขนมีสีเข้ม - ถ้าใครกำจัดขนบริเวณที่ลับ ขนที่ขึ้นใหม่อาจเกิดเป็นขนคุดจนกลายเป็นจุดสีเข้มและทำให้รู้สึกเจ็บปวดได้
- สิวหัวดำ - เกิดจากการติดเชื้อเล็กน้อยหรือรูขุมขนอุดตัน พบได้บ่อยมากและอาจปรากฏเป็นจุดดำบนถุงอัณฑะ ส่วนใหญ่ไม่เป็นอันตราย แก้ไขได้ด้วยการรักษาความสะอาดและการประคบอุ่น ซึ่งจะหายภายในเวลาไม่กี่เดือน
- รอยดำจากการผลิตเมลานิน - จุดดำที่เหมือนไฝหรือขี้แมลงวันเกิดจากร่างกายผลิตเม็ดสีเมลานินมากเกินไป แต่ไม่เป็นอันตรายใด ๆ โดยมีงานวิจัยในปี 2013 ระบุว่า จากผลสำรวจผู้ชาย 400 คน อายุระหว่าง 3-91 ปี ซึ่งได้รับการรักษาพยาบาลเกี่ยวกับรอยโรคที่อวัยวะเพศ ในจำนวนนี้ร้อยละ 85.6 มีจุดดำบริเวณถุงอัณฑะเนื่องจากการผลิตเม็ดสีเมลานิน
- ภาวะ Angiokeratoma - ภาวะนี้ทำให้หลอดเลือดเล็กขยายใหญ่ขึ้น ส่งผลให้เกิดรอยโรคที่ผิวหนังซึ่งอาจเป็นสีแดงเข้มหรือสีน้ำเงิน มักไม่เป็นอันตรายและไม่มีอาการอื่น ๆ
- โรคผิวหนัง - ผิวหนังของถุงอัณฑะบางมาก ทำให้ระคายเคืองและอักเสบได้ง่าย การสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้และสารระคายเคือง เช่น สีย้อมเสื้อผ้า สารเคมีในน้ำยาซักผ้า อสุจิและสารหล่อลื่น ยาฆ่าเชื้อเฉพาะที่และยาปฏิชีวนะ หรือการเสียดสีจากชุดชั้นใน ส่งผลให้เกิดอาการคัน เกา และเสียดสีที่ผิวหนัง จนอาจทำให้หลอดเลือดเล็ก ๆ ใกล้กับผิวหนังเกิดอาการระคายเคืองได้ และทำให้เกิดรอยช้ำหรือจุดด่างดำอื่น ๆ ที่มองดูคล้ายไฝนั่นเอง

ไฝใต้ไข่อันตรายหรือไม่
โดยส่วนใหญ่แล้วไฝบริเวณอัณฑะไม่ได้ส่งผลอันตรายใด ๆ ต่อสุขภาพ ยกเว้นแต่ว่าเกิดการระคายเคืองบริเวณที่มีไฝ หรือไฝมีขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งหากมีอาการเหล่านี้ควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุและวิธีรักษาต่อไป
วิธีการรักษา
ถ้าไม่อยากมีไฝหรือจุดดำบริเวณอัณฑะ สามารถแก้ไขหรือรักษาได้ตามสาเหตุ ดังนี้
- รอยช้ำ - ประคบน้ำแข็งหรือใช้ความร้อนอ่อน ๆ บริเวณนั้น หรือใช้ครีมลดรอยช้ำ
- ขนคุด - สครับผิวเบา ๆ บริเวณนั้น จะทำให้ผลัดเซลล์ผิว จุดดำและรอยขนคุดจะหายไป
- สิวหรือสิวหัวดำ - วิธีที่ดีที่สุดในการรักษาสิวและสิวหัวดำส่วนใหญ่คือการขัดผิวให้สะอาดและแห้งอยู่เสมอ ส่วนสิวที่มีขนาดใหญ่อาจตอบสนองได้ดีต่อการประคบอุ่น วิธีนี้จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในบริเวณนั้นอย่างอ่อนโยน ซึ่งจะช่วยให้ก้อนเนื้อแตกและหายได้
- รอยดำ - จริง ๆ แล้วไม่จำเป็นต้องรักษา แต่หากมีขนาดใหญ่จนน่ารำคาญอาจต้องผ่าตัดหรือเลเซอร์ออก แต่หากมีลักษณะที่ผิดปกติหรือโตขึ้นอย่างรวดเร็วควรไปพบแพทย์ เพราะอาจจะเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งได้
- ภาวะ Angiokeratoma - ไม่จำเป็นต้องรักษาเช่นกัน แต่หากรู้สึกรำคาญก็สามารถเอาออกได้ด้วยเลเซอร์ การผ่าตัด หรือการขูด
- โรคผิวหนัง - หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้หรือสารระคายเคืองที่ทำให้เกิดการอักเสบ ล้างผิวเบา ๆ ด้วยสบู่อ่อน ๆ และน้ำอุ่นวันละหลาย ๆ ครั้ง การอาบน้ำนาน ๆ ด้วยดีเกลือฝรั่งหรือข้าวโอ๊ตอาจช่วยได้เช่นกัน
สรุปได้ว่าไฝใต้ไข่เกิดได้จากหลายสาเหตุและส่วนมากไม่เป็นอันตราย ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องรักษา แต่หากใครรู้สึกไม่สบายใจลองไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยอีกทีก็ได้ครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก : medicalnewstoday.com, healthline.com, withpower.com