จัสติน บีเบอร์ หรือ Justin Bieber นักร้องหนุ่มขวัญใจสาว ๆ ทั่วโลก เขามีชีวิตที่น่าสนใจอะไรบ้าง ไปดูเรื่องราวของ จัสติน บีเบอร์ ประวัติที่หลายคนอยากรู้จักกัน
จัสติน บีเบอร์ (Justin Bieber) เป็นหนุ่มฮอตที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ยังคงเป็นขวัญใจของสาว ๆ เสมอ สำหรับใครที่ยังไม่รู้จักว่าจัสตินคือใคร ดังแค่ไหน กระปุกดอทคอมขอนำเรื่องราวของ จัสติน บีเบอร์ ประวัติและชีวิตที่น่าสนใจของเขามาเล่าสู่กันฟัง
1. จัสติน บีเบอร์ ประวัติและชีวิตวัยเด็ก
จัสติน บีเบอร์ เกิดเมื่อวันที่ 1 มีนาคม ค.ศ. 1994 ปัจจุบันอายุ 30 ปี (ข้อมูล ณ วันที่ 25 กันยายน 2024) ณ รัฐออนแทริโอ ประเทศแคนาดา และเติบโตในเมืองสแตรตฟอร์ด เขาถูกเลี้ยงดูมาโดยคุณแม่เพียงคนเดียวแม้จะมีเงินเดือนเพียงน้อยนิด นั่นเป็นเหตุให้ทั้งแม่และจัสตินต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด แต่อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่ได้อยู่กับพ่อ แต่จัสตินก็มีโอกาสติดต่อกับพ่อของเขาอยู่เสมอ
2. ความสามารถที่ปรากฏชัดมาตั้งแต่เด็ก
ด้วยความที่สนใจด้านดนตรี จัสตินเริ่มเรียนเปียโน กลอง กีตาร์ และทรัมเป็ตด้วยตัวเอง จนกระทั่งปี 2007 ตอนที่เขาอายุ 12 ปี จัสตินได้ร้องเพลง "So Sick" ของ Ne-Yo ในการแข่งขันร้องเพลงที่สแตรตฟอร์ด และเขาได้รางวัลที่ 2 จากนั้นแม่ของเขาก็ได้โพสต์คลิปวิดีโอเพลงนี้ลงในยูทูบเพื่อให้ครอบครัวและเพื่อน ๆ ของจัสตินได้ดู และเริ่มโพสต์คลิปร้องเพลงอื่น ๆ ของเขาลงในยูทูบด้วย
3. เส้นทางสู่การเป็นนักร้องอาชีพ
หลังจากที่แม่ของจัสตินโพสต์คลิปลงในยูทูบเรื่อย ๆ ก็ปรากฏว่า สกูเตอร์ เบราน์ (Scooter Braun) นักการตลาดของ So So Def ในตอนนั้น ได้เข้าไปดูวิดีโอโดยบังเอิญ และสนใจในตัวจัสตินมากถึงขั้นพยายามตามหาจนสามารถติดต่อแม่ของจัสตินได้ จากนั้นจัสตินจึงได้ย้ายไปที่แอตแลนตา รัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา เพื่อทดลองอัดเสียง กระทั่งได้เซ็นสัญญากับ Island Def Jam Music Group และ Island Records ในเดือนตุลาคม 2008 และย้ายไปอยู่ที่แอตแลนตาถาวร เพื่อให้สะดวกต่อการทำงาน
4. เปิดตัวก็ดังเปรี้ยง
ซิงเกิลเปิดตัวเพลงแรกของจัสตินคือเพลง One Time ที่ได้เปิดตัวผ่านสถานีวิทยุในช่วงที่เขากำลังเตรียมอัลบั้มอยู่ แต่เพียงแค่เปิดตัวเพลงของเขาก็ทะยานขึ้นสู่อันดับที่ 12 ชาร์ต Hot 100 ของแคนาดา และอันดับที่ 17 Billboard Hot 100 เมื่อผลงานออกสู่ตลาดสากล เขาก็ได้รางวัลแผ่นเสียงทองคำขาวในแคนาดาและสหรัฐอเมริกา และแผ่นเสียงทองคำในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ แถมเมื่ออัลบั้มเต็มออกก็ยังคว้ารางวัลอีกมากมาย จากนั้นในปีถัดมาเมื่อเขาได้ปล่อยซิงเกิลเพลง "Baby" ในเดือนมกราคม 2010 เพลงนี้ก็ดังเป็นพลุแตก ฮิตมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา ติดชาร์ต 1 ใน 5 ของสหรัฐอเมริกา และติด 1 ใน 10 อันดับของ 7 ประเทศทั่วโลก ถือว่าเป็นก้าวแรกที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงสำหรับเด็กวัย 15 ปี
5. จัสติน บีเบอร์ เคยถูกจับกุม
เมื่อประสบความสำเร็จเร็วเกินไป ทั้งยังอยู่ท่ามกลางแสงสีตั้งแต่ยังเด็ก หลายครั้งทำให้จัสตินหลงอยู่ในวังวนสิ่งที่ไม่ถูกต้อง จนแฟน ๆ กล่าวว่าเขาดูเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลยในช่วงปี 2014 ทั้งหยาบคาย ใจร้อน และที่หนักที่สุดคือถูกจับในข้อหาเมาแล้วขับ ขับรถด้วยใบอนุญาตที่หมดอายุ แข่งรถ และขัดขืนการจับกุม ทั้งนี้ ยังมีการรายงานด้วยว่าจัสตินดื่มแอลกอฮอล์ สูบกัญชา รวมถึงต้องกินยาตามใบสั่งแพทย์ ครั้งนั้นทำให้เขาต้องจ่ายค่าปรับและถูกควบคุมความประพฤติ แถมยังมีผู้คนมากกว่า 270,000 คน ยื่นคำร้องต่อทำเนียบขาวเพื่อขอให้เขาถูกเนรเทศออกจากสหรัฐอเมริกา ไม่เพียงเท่านั้นเพราะก่อนจะถูกจับกุมเขายังถูกตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายด้วยการบุกรุกบ้านของเพื่อนบ้านด้วย
6. จัสติน บีเบอร์ มี วิลล์ สมิธ เป็นที่ปรึกษา
วิลล์ สมิธ เป็นที่ปรึกษาอันดับ 1 ของจัสตินเมื่อเขาพบกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก สกูเตอร์ เบราน์ เคยเปิดเผยว่า วิลล์เคยขับรถบุกไปถึงบ้านของจัสตินเพื่องัดเขาออกมาจากเตียงและพูดคุยกันนานถึง 3 ชั่วโมง หลังจากนั้นเป็นต้นมา วิลล์และจัสตินจะโทร. หากันสัปดาห์ละครั้ง เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาต่าง ๆ และระบายความคับข้องใจของเขาออกมา
7. จัสติน บีเบอร์ เคยพักงานดนตรีไปเป็นปี
ทำเอาแฟนเพลงเสียใจยกใหญ่เมื่อเขาประกาศยกเลิกการทัวร์คอนเสิร์ตเมื่อปี 2017 และโพสต์อินสตาแกรมว่าขอก้าวถอยหลังเพื่อเป็นคนที่ตัวเองอยากเป็น ซึ่งมีข่าวลือไปทั่วว่าจัสตินยกเลิกการทัวร์เพราะ "อุทิศชีวิตของเขาให้กับพระคริสต์" ต่อมาเขาปฏิเสธและยอมรับเหตุผลที่แท้จริงในการหยุดพักเพราะ "เหนื่อยมากทั้งทางร่างกายและจิตใจ" และในปี 2020 จัสตินได้ออกมาเปิดเผยผ่านบทสัมภาษณ์ว่าอันที่จริงแล้วควรจะมีทัวร์คอนเสิร์ตในสเตเดียมอีกหลายแห่ง แต่เขารู้สึกว่าไม่สามารถร้องเพลงออกมาได้แล้วจริง ๆ จึงขอหยุดพักตัวเองเอาไว้ก่อน กระทั่งได้รับเชิญในคอนเสิร์ต Coachella 2018 บนเวทีของ อะริอานา กรานเด ที่สร้างแรงบันดาลใจให้รู้สึกว่าอยากทำเพลงต่อ
8. จัสตินมีปัญหาสุขภาพจิต
หลังจากการประกาศพักงานไปเมื่อปี 2017 จัสตินต้องต่อสู้กับโรคซึมเศร้าด้วยยากล่อมประสาทและการให้คำปรึกษาของแพทย์ และแย่จนถึงขนาดโพสต์ลงในอินสตาแกรมว่าไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไป โชคยังดีที่จัสตินอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด และได้กำลังใจที่ดีจาก ไฮลีย์ บอลด์วิน ภรรยาของเขา จึงทำให้จัสตินผ่านช่วงเวลายากลำบากไปได้และอาการค่อย ๆ ดีขึ้น
9. จัสติน เป็นผู้จัดการองค์กรการกุศล
เห็นภาพลักษณ์เป็นหนุ่มแบดบอยแบบนี้ มีข่าวทั้งคนชื่นชมและคนไม่ชอบ หรือแม้แต่ช่วงเวลาที่ลำบากในอดีต ก็ไม่ได้ทำให้จัสตินละเลยการช่วยเหลือผู้ยากไร้ โดยเขาเป็นผู้จัดการของ Pencils Of Promise องค์กรการกุศลที่ช่วยสร้างโรงเรียนในประเทศกำลังพัฒนา องค์กรนี้ก่อตั้งโดย อดัม บรัน น้องชายของผู้จัดการของเขาเอง
10. จัสติน บีเบอร์ แต่งงานแล้ว
สำหรับจัสตินเรียกว่าเป็นหนุ่มคลั่งรักมากที่สุดคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ แม้ว่าเขาจะเคยเป็นเพลย์บอย เดตกับสาวชื่อดังมาแล้วมากมาย แต่ในที่สุดคนที่คว้าหัวใจของจัสตินไปครองได้ก็คือ ไฮลีย์ บอลด์วิน นางแบบสาวคนสวยนั่นเอง โดยไฮลีย์อยู่เคียงข้างจัสตินในช่วงเวลาที่ยากลำบากเสมอ และหลังจากที่เดตกันได้ประมาณ 2-3 ปี พวกเขาก็แต่งงานกันในเดือนกันยายน ปี 2018 และจัสตินเชื่อว่ารักครั้งนี้คือรักแท้ที่เติมเต็มชีวิตและทำให้เขารู้สึกมั่นคง
11. จัสติน กับปัญหาสุขภาพที่รุมเร้า
12. จัสติน กลับมาสู่เวทีการแสดงอย่างเป็นทางการอีกครั้งในรอบเกือบ 2 ปี
13. จัสติน กลายเป็นคุณพ่อเต็มตัวแล้ว
ได้ทราบประวัติและเรื่องราวชีวิตของนักร้องหนุ่มมากความสามารถคนนี้แล้ว เรียกว่าชีวิตของเขาผ่านอะไรมามากมายจริง ๆ แต่สำหรับแฟน ๆ ของ จัสติน แล้ว เขาคนนี้คือนักร้องในดวงใจไม่มีเปลี่ยนแปลง
ขอบคุณข้อมูลจาก : wikipedia.org, britannica.com, telltalesonline.com และ Instagram justinbieber