วิธีเพิ่มความสูง อยากสูงต้องทำไง ถือเป็นคำถามยอดฮิตสำหรับหนุ่ม ๆ ที่อยากตัวสูง หรือหากช่วงอายุล่วงเลยวัยรุ่นมาแล้วก็อย่าเพิ่งถอดใจ เรามีวิธีเพิ่มความสูงผู้ชายมาบอก รับรองว่าทำได้ไม่ยากแน่นอน
หนุ่ม ๆ ยุคนี้ไม่ว่าใครก็คงอยากสูงกันทั้งนั้น เพราะช่วยให้มีบุคลิกภาพดี แต่งตัวแล้วดูสมาร์ต อีกทั้งเสริมความมั่นใจได้มากขึ้น นอกจากนั้นส่วนสูงยังเกี่ยวข้องกับหน้าที่การงานด้วย อย่างอาชีพบางประเภท เช่น สจวร์ด นายแบบ ศิลปิน ดารา นักกีฬา ก็มีเกณฑ์ส่วนสูงที่กำหนดไว้ ดังนั้นผู้ชายหลายคนจึงหันมาสนใจเรื่องการเพิ่มความสูงมากขึ้น แต่จะมีวิธีเพิ่มความสูงผู้ชายแบบไหนบ้าง ที่สามารถทำได้ตั้งแต่วัยรุ่นไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ ลองมาดูเคล็ดลับง่าย ๆ ที่เรานำมาฝากกันครับ
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับส่วนสูง
ก่อนจะไปดูวิธีเพิ่มความสูง หนุ่ม ๆ ต้องทำความเข้าใจสักนิดว่าความสูงนั้นส่วนหนึ่งถูกกำหนดจากกรรมพันธุ์ที่ได้จากพ่อและแม่ และอีกส่วนหนึ่งเกิดจากปัจจัยอื่น ๆ เช่น อาหาร การนอนหลับ การออกกำลังกาย ฮอร์โมน เป็นต้น โดยฮอร์โมนที่ช่วยในเรื่องการเจริญเติบโตหรือเพิ่มส่วนสูงที่สำคัญ ได้แก่
- โกรทฮอร์โมน (Growth hormone) ซึ่งช่วยในเรื่องการเจริญเติบโต และมีความสำคัญอย่างมากกับการเพิ่มความสูง
- ไทรอยด์ (Thyroid gland) โดยเฉพาะฮอร์โมนไทร็อกซิน (Thyroxin) ซึ่งทำหน้าที่กระตุ้นพัฒนาการของกระดูก ถ้าขาดฮอร์โมนชนิดนี้อาจทำให้มีรูปร่างเตี้ย แคระ ไม่สมส่วน
- ฮอร์โมนเพศชายอย่างเทสโทสเตอโรน (Testosterone) ก็มีส่วนช่วยในการเจริญเติบโตได้เช่นกัน ยิ่งในช่วงที่เริ่มเป็นวัยรุ่น เพราะไปช่วยกระตุ้นการหลั่งของโกรทฮอร์โมนและช่วยกระตุ้นให้กระดูกยืด จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมช่วงวัยรุ่นจึงสามารถเพิ่มส่วนสูงได้รวดเร็ว
ปกติแล้วผู้ชายจะหยุดสูงเมื่ออายุประมาณ 19-25 ปี ทั้งนี้ แต่ละบุคคลจะไม่เหมือนกัน ซึ่งหากเลยวัยนี้ไปแล้วอาจจะไม่สามารถมีส่วนสูงตามต้องการได้ ดังนั้นหนุ่ม ๆ จึงควรรู้วิธีเพิ่มความสูงเอาไว้ และนำไปปรับใช้ตั้งแต่เนิ่น ๆ แต่หากเลยช่วงเวลาทองไปแล้วก็ไม่ต้องกังวล ลองมาดูทริกเพิ่มส่วนสูงกัน
วิธีเพิ่มความสูง สำหรับผู้ชาย
1. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเน้นแคลเซียม
ควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และเน้นอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อกระดูกอย่างแคลเซียม โปรตีน และวิตามินดี ซึ่งมีส่วนช่วยกระตุ้นให้มีส่วนสูงเพิ่มขึ้น พร้อมเสริมสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อและกระดูก โดยอาหารประเภทที่แนะนำให้รับประทานเป็นประจำเลยก็คือ นมวัวหรือนมถั่วเหลือง โยเกิร์ต ชีส ปลาเล็กปลาน้อย กุ้งแห้ง เต้าหู้ ผักใบเขียว คะน้า ตำลึง เป็นต้น หากรับประทานทุกวัน รับรองกระดูกของคุณจะแข็งแรงและสูงปรี๊ดอย่างแน่นอน
2. ดื่มนมให้ได้วันละ 2 แก้ว
การดื่มนมวันละ 2 แก้ว หลังอาหารเช้าและก่อนนอน จะช่วยเร่งการเจริญเติบโตและเพิ่มความแข็งแรงของกระดูก ทำให้ตัวสูงขึ้นได้ แต่ควรเลือกดื่มนมจืดหรือนมที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำตาล ซึ่งเป็นแหล่งแคลเซียม และไม่ต้องเสี่ยงกับความอ้วนด้วย
3. นอนหลับอย่างเพียงพอและถูกเวลา
รู้ไหมว่าการนอนหลับก็ส่งผลต่อส่วนสูงเช่นกัน เพราะโกรทฮอร์โมนที่ช่วยเรื่องความสูงและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกายจะหลั่งมากที่สุดในช่วงเวลาประมาณ 22.00-03.00 น. และจะหลั่งออกมาได้ดีเมื่อนอนหลับอย่างสนิท ในขณะที่การหลับ ๆ ตื่น ๆ จะทำให้โกรทฮอร์โมนหลั่งออกมาน้อยมาก ดังนั้นหากอยากมีรูปร่างที่สูงและสุขภาพดี ควรปรับเวลานอนให้ได้ก่อน 22.00 น. อย่างช้าที่สุดไม่ควรเกิน 23.30 น. เพื่อที่จะได้รับโกรทฮอร์โมนเต็มที่ โดยในวัยรุ่นอายุ 14-17 ปี ควรนอนให้ได้ 8-10 ชม. ส่วนผู้ใหญ่อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ควรนอนอย่างน้อย 7-9 ชม.
4. ออกกำลังกายเพิ่มความสูง
การออกกำลังกายที่มีการยืดของร่างกาย วันละประมาณ 30-60 นาที สามารถช่วยให้มีส่วนสูงเพิ่มขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นกระโดดเชือก บาสเกตบอล ว่ายน้ำ วอลเลย์บอล การโหนบาร์ หรือกระโดดสูงบ่อย ๆ นอกจากจะทำให้กล้ามเนื้อและกระดูกได้ยืดขึ้นแล้ว การออกกำลังกายเหล่านี้ยังช่วยกระตุ้นระบบประสาท ซึ่งมีผลโดยตรงต่อต่อมใต้สมอง เพื่อให้ผลิตโกรทฮอร์โมนออกมาเพื่อเพิ่มการเจริญเติบโต แม้ว่าอายุจะเลย 18 ปี ไปแล้วก็ตาม
5. ยืดเหยียดตัวเป็นประจำ
การเหยียดตัวจะช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อหลังส่วนบนและส่วนล่างได้ แนะนำให้ทำทุกเช้า ประมาณ 15 นาที จะทำให้กระดูกสันหลังขยายตัวได้อย่างเต็มที่ หรือการเล่นโยคะ ก็ถือเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพมากในการยืดเหยียดตัวและทำให้มีส่วนสูงเพิ่มขึ้น
6. หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้ไม่สูง
นอกจากเคล็ดลับข้างต้นแล้ว สิ่งที่ควรทำควบคู่กันไปด้วยก็คือเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ เพราะจะส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะยาว เป็นตัวการสำคัญทำให้ส่วนสูงหดหาย พัฒนาการร่างกายไม่เติบโตตามวัย และยังเพิ่มโอกาสเสี่ยงกระดูกพรุนด้วย นอกจากนั้นก่อนนอนยังควรงดเล่นเกม เล่นมือถือ หรือวางโทรศัพท์ไว้ใกล้ตัว เพราะจะส่งผลต่อการนอนหลับและการหลั่งฮอร์โมนที่ช่วยเพิ่มความสูงได้
7. วิธีเพิ่มความสูงแบบญี่ปุ่น
สำหรับใครที่รู้สึกว่ายิ่งโตขึ้นส่วนสูงยิ่งลดลง ลองใช้เทคนิคจากแพทย์โรคกระดูกญี่ปุ่นที่มีวิธีการง่าย ๆ ก็คือ ให้นั่งคุกเข่าแล้วโน้มตัวไปด้านหลังจนนอนราบ จากนั้นยืดแขนขึ้นด้านบนราบกับพื้น ค้างท่านี้ไว้ประมาณ 1 นาที ทำเป็นประจำทุกวัน จะช่วยให้กระดูกที่งอหรือคดตามกาลเวลากลับมาอยู่ในแนวตรงเหมือนเดิม ผลที่ได้ก็คือจะได้ความสูงตามความจริงของเรากลับมานั่นเอง
8. ฉีดยาเพิ่มความสูง
วิธีการฉีดโกรทฮอร์โมนเพิ่มความสูง หรือฮอร์โมนจีเอช (Growth hormone : GH) เป็นวิธีการเพิ่มส่วนสูงที่รวดเร็ว แต่ต้องระวังสักนิด เพราะบางคนเข้าใจผิดว่าหากมีส่วนสูงปกติตามเกณฑ์ แต่อยากเพิ่มให้ดูสูงราวกับนายแบบก็ฉีดได้ แต่ความจริงแล้วถ้าร่างกายของเราไม่ได้ขาดฮอร์โมนนี้จนผิดปกติ การฉีดเพิ่มเข้าไปจะกลับกลายเป็นผลเสียมากกว่า เช่น ทำให้มีน้ำตาลในเลือดสูง เสี่ยงต่อโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคกระดูก โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นต้น
9. ใช้แผ่นรองส้นเพิ่มความสูง
ถ้าเป็นผู้หญิงอยากสูงก็คงจะใส่ส้นสูงช่วย แล้วถ้าเป็นผู้ชายล่ะ ? ไม่ยากครับ เพราะเดี๋ยวนี้มีตัวช่วยอย่างแผ่นรองส้น ที่ผลิตจากใยสังเคราะห์ผสมกับโฟม มีความยืดหยุ่น ใส่เข้าไปในรองเท้าก็จะช่วยเพิ่มความสูงได้ทันที 3.5-10 ซม.เลยทีเดียว แถมยังถอดสลับไปใส่ในคู่อื่น ๆ หรือถอดมาซักทำความสะอาดได้ เรียกว่าเป็นวิธีที่ช่วยได้จริงแต่ไม่ถาวร เหมาะกับเวลาที่จะต้องการดูสูงเป็นครั้งคราวมากกว่า
10. ผ่าตัดยืดกระดูก
หลายคนคงเคยได้ยินการผ่าตัดเพื่อเพิ่มความยาวของกระดูกบริเวณขา หน้าแข้ง ซึ่งทำให้สูงขึ้นได้ โดยวิธีนี้ต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เริ่มจากวางยาสลบและใส่เครื่องยืดกระดูก ยิงลวดตัดผ่านเข้าชั้นกระดูก เพื่อแยกกระดูกออกจากกัน จากนั้นยึดลวดด้านบนและล่างเพื่อยึดเครื่องมือที่ใช้ยืดกระดูกที่ตัดออกจากกันวันละ 1 มม. ซึ่งตามทฤษฎีแล้วสามารถเพิ่มความสูงได้มากถึง 5 ซม. แต่ข้อเสียก็คือ กระดูกที่ได้จากการเชื่อมต่ออาจจะไม่แข็งแรงเหมือนเดิม อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัด ซ้ำยังแพงและค่อนข้างเจ็บปวด ใช้ระยะเวลาในการรักษาเป็นปี ดังนั้นเก็บไว้เป็นทางเลือกสุดท้ายดีกว่าครับ
วิธีเพิ่มความสูงสำหรับผู้ชายที่เรานำมาฝาก หากใครนำไปปฏิบัติก็เตรียมบอกลาความเตี้ยได้เลย แถมยังช่วยให้สุขภาพของเราแข็งแรงขึ้นด้วยนะ แบบนี้พลาดไม่ได้แล้ว !
ขอบคุณข้อมูลจาก : healthline.com, medicalnewstoday.com, medicacenters.com