บี้ สุกฤษฎิ์ ประวัติที่ไม่ธรรมดาของซูเปอร์สตาร์เดินดิน มาทำความรู้จักกับ บี้ สุกฤษฎิ์ ทุกเรื่องราวตั้งแต่เข้าวงการจนถึงปัจจุบันกันเลย
เราได้ยินชื่อของ บี้ สุกฤษฎิ์ หรือ บี้ เดอะสตาร์ ในข่าวบันเทิงกันมานาน และถือว่าเขาเป็นดาราศิลปินที่ประสบความสำเร็จถึงจุดสูงสุดจนสามารถเรียกได้ว่าซูเปอร์สตาร์ เพราะบี้โด่งดังทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งยังมีผลงานหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นนักร้องหรือนักแสดง ทว่าปัจจุบันเขากลับเลือกร้องเพลงเป็นงานอดิเรกและใช้ชีวิตเรียบง่ายติดดิน พร้อมบอกว่าค้นพบสัจธรรมชีวิตแล้ว เรื่องราวของบี้มีหลายเรื่องที่น่าสนใจ กระปุกดอทคอมจึงขอพาไปรู้จัก บี้ สุกฤษฎิ์ ประวัติดาราคนนี้และเรื่องน่ารู้ของเขากันครับ
1. บี้ สุกฤษฎิ์ ประวัติก่อนเข้าวงการ
บี้ สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว เกิดวันที่ 4 กันยายน 2528 เขาเกิดและเติบโตที่จังหวัดเชียงใหม่ มีพี่สาว 1 คน ชื่อแมลงปอ ส่วนชื่อบี้นั้นมาจากภาษาเหนือว่า "กัมบี้" ซึ่งแปลว่าแมลงปอเช่นกัน หลังจากจบชั้นมัธยมศึกษาจากโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ เขาก็ได้เข้ากรุงเทพฯ และเรียนต่อระดับชั้นปริญญาตรี คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ (สาขาวิศวกรรมเมคคาทรอนิกส์) ทั้งยังได้เป็นตัวแทนบัณฑิตผู้สำเร็จการศึกษาถวายพวงมาลัยข้อพระกรแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาของมหาวิทยาลัยในปี พ.ศ. 2552 อีกด้วย
2. เริ่มเส้นทางสู่ดวงดาว
บี้ สุกฤษฎิ์ เข้าร่วมการประกวดรายการ The Star ค้นฟ้าคว้าดาว ปี 3 ในปี 2549 และผ่านเข้ารอบ 8 คนสุดท้าย โดยได้หมายเลข 8 การแข่งขันเข้มข้นจนสามารถเข้าสู่รอบ 2 คนสุดท้าย และผลก็คือได้ตำแหน่งรองชนะเลิศ ส่วนคนที่ได้ตำแหน่งเดอะสตาร์ในปีนั้นก็คือ อาร์ อาณัตพล ถึงแม้จะได้อันดับ 2 แต่เวทีนี้ก็ถือเป็นใบเบิกทางสู่การเป็นซูเปอร์สตาร์ของเขาเลยทีเดียว
3. เพลงแรกดังระเบิด
หลังจากประกวดรายการเดอะสตาร์ บี้ สุกฤษฎิ์ ได้มีซิงเกิลแรกของตัวเองคือเพลง "I Need Somebody (อยากขอสักคน)" ซึ่งได้รับความนิยมขนาดครองอันดับ 1 ชาร์ตเพลงวิทยุนานถึง 4 สัปดาห์ และได้รางวัลมากมาย อาทิ รางวัลเพลงยอดนิยมสุดซี้ดประจำปี 2007 จากซี้ด อวอร์ดส 2007, รางวัลเพลงรักแห่งปี 2006 จากอินยังเจเนอชันชอยส์ อวอร์ดส 2006, รางวัลเพลงยอดนิยม จากสตาร์เอนเตอร์เทนเมนต์อวอร์ดส 2006 เป็นต้น และจากนั้นเป็นต้นมาเพลงของบี้ก็ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในทุก ๆ เพลง เช่น จังหวะหัวใจ, Someone, อยากถูกเรียกว่าแฟน, รักนะคะ, รักมากมาย, กลัวที่ไหน เป็นต้น
4. ขึ้นแท่นพระเอก
ด้วยหน้าตาที่โดดเด่น บี้ สุกฤษฎิ์ ได้เป็นพระเอกทันทีหลังจบการแข่งขันเดอะสตาร์ ในละครเรื่องแรกคือ รอยอดีตแห่งรัก ก่อนจะได้เริ่มเรียนการแสดงกับหม่อมน้อยในละครเรื่อง หัวใจศิลา เมื่อฝีมือทางการแสดงเริ่มเป็นที่ยอมรับก็มีละครตามมาอีกมากมาย อาทิ พระจันทร์สีรุ้ง ดอกรักริมทาง ข้ามเวลาหารัก คู่กรรม ไปจนถึงภาพยนตร์เรื่อง คิดถึงวิทยา เรียกว่างานแสดงแต่ละเรื่องเขาก็ถ่ายทอดคาแรกเตอร์ออกมาได้สมบทบาทจริง ๆ
5. เจ้าพ่อละครเวที
นอกจากผลงานทางหน้าจอแล้ว บี้ สุกฤษฎิ์ ยังมีงานแสดงละครเวทีมากมายหลายเรื่อง ซึ่งต้องยอมรับว่าแต่ละเรื่องโหดหินทั้งนั้น เพราะนอกจากจะต้องถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละครแล้วยังต้องโชว์พลังเสียงอีกด้วย และเป็นการแสดงสดที่ไม่สามารถแก้ตัวได้ ในแต่ละรอบเขาถึงต้องทุ่มเทการซ้อมเพื่อให้งานออกมาสมบูรณ์ที่สุด โดยละครเวทีที่บี้เคยเล่นมาก็คือ บัลลังก์เมฆ เดอะมิวสิคัล, ข้างหลังภาพ เดอะมิวสิคัล, รักจับใจ เดอะโรแมนติกมิวสิคัล, Waterfall A New Musical (ข้างหลังภาพ เวอร์ชั่นบรอดเวย์) และ 10 ปี เมืองไทยรัชดาลัย THE MUSICAL CELEBRATION
6. บี้ สุกฤษฎิ์ ขวัญใจมหาชน
ความนิยมของ บี้ สุกฤษฎิ์ พุ่งสูงถึงขีดสุด เพราะนอกจากรางวัลด้านเพลงและการแสดงแล้ว เขายังได้รับรางวัลบุคคลตัวอย่าง รวมไปถึงรางวัลจากผลโหวตมากมาย อาทิ รางวัลลูกกตัญญู โดยสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เนื่องในวันแม่แห่งชาติ, รางวัลเยาวชนดีเด่นแห่งชาติ โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เนื่องในวันเยาวชนแห่งชาติ และรางวัลขวัญใจมหาชน จากรางวัลไนน์เอ็นเตอร์เทน อวอร์ดส์ นานถึง 5 ปีซ้อน เป็นต้น รวมถึงมีผลงานพรีเซ็นเตอร์โฆษณามากกว่า 30 ชิ้น แถมล่าสุดยังได้รางวัลศิลปินขวัญใจยอดนิยม จาก DOnline Awards 2022 แม้จะมีศิลปินรุ่นใหม่เกิดขึ้นมากมาย บอกเลยว่าไม่ดังจริงทำไม่ได้นะ
7. ชื่อเสียงดังไกลถึงต่างประเทศ
เนื่องจากละครต่าง ๆ ที่ บี้ สุกฤษฎิ์ เล่นได้ออกอากาศที่ประเทศจีนด้วย โดยเรื่อง รอยอดีตแห่งรัก ที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ CCTV8 ได้อันดับเรตติ้งละครต่างประเทศยอดนิยมอันดับ 2 ในปี 2553 จากนั้นละครเรื่องอื่น ๆ ก็ได้รับความนิยมตามมาจนทำให้บี้ได้รับเลือกเป็น ทูตละครไทย ของสถานีโทรทัศน์ อันฮุยทีวี ในปี 2554 จากนั้นเขาจึงได้ไปโปรโมตในประเทศจีน และมีกิจกรรมมีต แอนด์ กรี๊ด มีแฟนคลับชาวจีนมากมาย จนได้รับความสนใจจากสื่อจีนถึง 50 แห่งเลยทีเดียว ถือว่าเป็นเวลาทองของผู้ชายคนนี้จริง ๆ
8. บี้ สุกฤษฎิ์ หายไปไหน
มีหลายคนสังเกตว่า บี้ สุกฤษฎิ์ หายหน้าหายตาจากวงการไปนาน ซึ่งเจ้าตัวบอกว่า สาเหตุที่แท้จริงคือรู้สึกเหนื่อยที่ทำงานไม่ได้พักมาตลอดหลายปี จึงตัดสินใจหยุดรับงาน และอยู่บ้าน ใช้ชีวิตสมถะ รวมถึงเข้าวัดในวันเสาร์-อาทิตย์ เพื่อปฏิบัติธรรม เป็นการรีเฟรชตัวเอง ก่อนที่จะกลับมาร้องเพลงอีกครั้งเพราะแฟน ๆ เรียกร้องเมื่อปลายปี 2564 แต่ก็หายไปใช้ชีวิตกับธรรมชาติอีกครั้ง
9. ความรักที่ผ่านมา
บี้ สุกฤษฎิ์ ยอมรับผ่านทางรายการ "มารีฝากไว้ให้คิด" ทางยูทูบช่อง One Playground ว่าเคยคุยกับผู้หญิงมากหน้าหลายตา และเมื่อมีความรักก็จะทุ่มเทมาก เคยผ่านช่วงเวลาอกหักสำมะเลเทเมาบ้างเหมือนกัน จนเวลาผ่านไปจึงทำให้คิดได้ว่าสุดท้ายแล้วความสุขที่แท้จริงของตัวเองไม่ใช่ความรัก โดยบี้เคยคบกับนางเอกสาว โม มนชนก เป็นเวลา 2 ปี แต่ท้ายที่สุดแล้วเมื่อทัศนคติต่าง ๆ ไม่ตรงกันก็ทำให้ต้องเลิกรากันไป แต่ยังสามารถเป็นเพื่อนกันได้อยู่ รวมถึงคนที่เคยคุยทุกคนก็สามารถเป็นเพื่อนได้เช่นกัน
10. ค้นพบสัจธรรม ชีวิตนี้อยากเป็นโสด
หลังจากที่ได้อยู่กับตัวเองและได้ปฏิบัติธรรม บี้ สุกฤษฎิ์ ค้นพบว่าความสุขของตัวเองคือการตื่นมาดื่มกาแฟ ใช้ชีวิตธรรมดา ไม่ต้องซื้อของแบรนด์เนม และเข้าวัดปฏิบัติธรรม พูดคุยกับหลวงพ่อ ประกอบกับเจอเพื่อนที่มีลูก ทำให้เขารู้สึกว่าชีวิตของเขาต้องการอิสระ ไม่อยากมีลูก ไม่อยากแต่งงาน เพราะคิดว่าเขาไม่อยากให้การผูกมัดมาทำให้เกิดทุกข์ แต่ทั้งนี้เขาก็ยังเชื่อเรื่องของบุพเพสันนิวาสและความไม่แน่นอน ดังนั้นในอนาคตหากจะมีใครเข้ามาเป็นคู่ชีวิตก็ไม่ได้ปิดกั้น
11. บี้ สุกฤษฎิ์ ยอมรับ เคยแอบชอบ ก้อย อรัชพร
12. บี้ สุกฤษฎิ์ ประกาศขายคอนโดหรู
เรื่องราวทั้งหมดของบี้ทำให้เรารู้เลยว่ากว่าจะก้าวขึ้นมาสู่ตำแหน่งซุปตาร์ได้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่สุดท้ายความสงบและชีวิตสมถะก็เป็นความสุขที่สุด และพูดได้เลยว่า บี้ สุกฤษฎิ์ เป็นคนไม่หลงระเริงกับชื่อเสียงอย่างแท้จริง
ขอบคุณภาพจาก : Instagram biesukrit_w
ขอบคุณข้อมูลจาก : wikipedia, รายการมารีฝากไว้ให้คิด, oneบันเทิง, เรื่องเล่าเช้านี้, รายการ ถ้าหนูรับ พี่จะรักปะ, Instagram biesukrit_w