แนะนำ 5 หูฟังไร้สาย True Wireless น่าใช้ปี 2020 หูฟัง Bluetooth อัจฉริยะที่จะทำให้ชีวิตคนรุ่นใหม่สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
ปัจจุบันนี้ หูฟังไร้สายแบบ True Wireless กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากมีขนาดเล็กกะทัดรัด รวมทั้งมีฟีเจอร์สุดสมาร์ตที่ทำให้ชีวิตสะดวกสบายกว่าเดิม แถมยังมีรุ่นใหม่ ๆ ให้เลือกหลากหลายตั้งแต่ราคาถูกจนถึงแพง วันนี้เราก็เลยจะมาแนะนำหูฟังไร้สาย True Wireless ปี 2020 ว่ามีรุ่นไหนแบรนด์ไหนที่น่าสนใจบ้าง
1. Samsung Galaxy Buds Live
หูฟังไร้สาย True Wireless ดีไซน์ทรงถั่วที่เปิดตัวมาพร้อมกับ Samsung Galaxy Note 20 Series มีฟีเจอร์ Active Noise Cancellation ช่วยตัดเสียงรบกวนภายนอก โดยสามารถแยกเสียงที่สำคัญ ๆ เช่น เสียงคนพูดคุยหรือเสียงประกาศให้ยังคงได้ยินอยู่ ตัวลำโพงหูฟังมีขนาด 12mm ปรับแต่งโดย AKG มีตัวช่วยขับเสียงเบสให้ดังกระหึ่ม รองรับผู้ช่วยส่วนตัว Bixby แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน 6 ชม. และใช้ได้นานถึง 21 ชม. เมื่อชาร์จจากเคส มีราคาอยู่ที่ 6,990 บาท
2. Huawei FreeBuds 3i
หูฟังไร้สายรุ่นใหม่จาก Huawei มีดีไซน์รูปทรงกรวยแบบ In-ear จุกหูฟังซิลิโคนมีให้เลือก 4 ขนาด พร้อมฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวนรอบข้างลงสูงสุด 32dB1 ด้วยการใช้ไมโครโฟนที่หันออกด้านนอกเพื่อตรวจจับเสียงรบกวน ภายในมีไดร์เวอร์ไดนามิกขนาดใหญ่ 10 มม. ที่ให้เสียงเบสทรงพลัง สามารถแตะที่ตัวหูฟังเพื่อควบคุมการทำงานต่าง ๆ ได้สะดวก แบตเตอรี่ใช้ฟังเพลงได้นานสุด 3.5 ชั่วโมง และใช้งานได้นานสูงสุด 14.5 ชั่วโมงเมื่อชาร์จจากเคส มีราคาอยู่ที่ 3,290 บาท
3. realme Buds Q
หูฟังไร้สายแบบ True Wireless จากแบรนด์ realme ที่มีดีไซน์ออกแบบโดย Jose Levy อดีตดีไซน์เนอร์จาก Hermes แบตเตอรี่ฟังเพลงได้นานสูงสุดถึง 20 ชั่วโมง ควบคุมเพลง สายเรียกเข้า และอื่น ๆ ได้สะดวก ด้วยระบบสัมผัสอัจฉริยะ มีโหมดเกมที่ให้เสียงตอบสนองไว ด้วยความหน่วงต่ำขั้นต่ำเพียง 119ms ภายในหูฟังมีไดร์เวอร์ไดนามิกขนาดใหญ่ 10 มม. ให้เสียงเบสดังกระหึ่ม เชื่อมต่อด้วย Bluetooth 5.0 มีราคาสบายกระเป๋า เพียง 1,199 บาท เท่านั้น
4. OnePlus Buds
หูฟังไร้สาย True Wireless รุ่นแรกของแบรนด์มือถือ OnePlus มาพร้อมจุดเด่นที่หลากหลาย ตั้งแต่แบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานถึง 30 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง มีระบบตัดเสียงรบกวนจากรอบข้าง นอกจากนี้ก็ยังมี Powerful Bass Boost ที่จะช่วยเพิ่มแรงขับเสียงเบสให้ดังกระหึ่มมายิ่งขึ้น รวมทั้งโหมด Low Latency ที่ทำให้การรับและส่งข้อมูลเสียงทำได้ไวขึ้น ลดการดีเลย์ของเสียง มีราคาค่าตัวอยู่ที่ 2,990 บาท
5. OPPO Enco Free
หูฟังไร้สายจากแบรนด์มือถือ OPPO ที่มีดีไซน์เรียบ ๆ มีให้เลือกทั้งสีขาวและสีดำ จุกหูฟังสามารถเลือกเปลี่ยนขนาดให้เหมาะกับรูหูได้ สามารถแตะที่ตัวหูฟังเพื่อรับสายหรือควบคุมการเล่นเพลงได้แสนสะดวก และยังสามารถกันน้ำได้ที่ระดับ IPX4 พร้อมไมโครโฟนแบบตัดเสียงรบกวน ส่วนแบตเตอรี่ใช้คุยได้ 3 ชั่วโมง ฟังเพลงได้ 5 ชั่วโมง ถ้าชาร์จกับเคสก็จะใช้ได้อีก 12-20 ชั่วโมง มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 3,999 บาท
6. Apple AirPods Pro
AirPods Pro หูฟังไร้สายที่มาพร้อมชิป H1 ของแอปเปิลและเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนแบบ Active และเสียงที่เต็มอิ่มสมจริง ในดีไซน์ In-ear น้ำหนักเบาแบบใหม่ โดยหูฟังแต่ละข้างมาพร้อมจุกหูฟังซิลิโคนอันอ่อนนุ่มและยืดหยุ่น 3 ขนาดที่เข้ากับส่วนโค้งของหูแต่ละคนเป็นอย่างดี จึงใส่พอดีสบายหูและแนบสนิท และยังใช้ระบบช่องระบายอากาศอันล้ำสมัยที่จะปรับแรงดันให้เท่ากันเพื่อลดความอึดอัดที่มักเกิดขึ้นในหูฟัง In-ear อื่น ๆ นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติกันน้ำและเหงื่ออีกด้วย มีราคาอยู่ที่ 9,490 บาท
7. Xiaomi Mi AirDots Pro 2
Mi Airdots Pro 2 หูฟัง Bluetooth 5.0 รุ่นใหม่ รองรับ LDHC Hi-Res audio codec, มี Smart voice controls, ไมโครโฟนคู่ ENC สำหรับตัดเสียงรบกวน มีไดรเวอร์ขนาด 14.2 มม. เพื่อขับเสียงให้มีคุณภาพดีขึ้น สามารถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ที่ใช้ MIUI โดยอัตโนมัติเมื่อเปิดเคสและหยิบหูฟัง ชุดหูฟังแต่ละตัวมีน้ำหนักเพียง 4.5 กรัม, เคสมีน้ำหนัก 50 กรัม ใช้ฟังเพลงได้นาน 4 ชั่วโมง, 14 ชั่วโมงพร้อมเคส, การชาร์จ USB Type-C สำหรับเคสเพื่อชาร์จใน 1 ชั่วโมง มีราคาอยู่ที่ 1,790 บาท