ย้อนดูสินค้าที่ออกแบบโดย Jonathan Ive ก่อนลาออกจาก Apple

ยุคก่อนที่ Steve Jobs จะกลับมาทำงาน Apple (1992-1996)


          ช่วงแรกของการทำงานของ Jonathan Ive ใน Apple หลังจากย้ายมาจาก Tangerine ช่วงนั้นเป็นช่วงที่บริษัท Apple กำลังมีปัญหาด้านการเงิน และ Steve Jobs ที่ลาออกไปก็ยังไม่กลับมา โดยในช่วงนี้เขาได้ออกแบบอุปกรณ์ประเภทคอมพิวเตอร์พกพาที่ชื่อว่า Newton MessagePad ถึงแม้ว่าจะเป็นอุปกรณ์ที่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไรนัก แต่ดีไซน์แบบโปร่งใสก็ทำให้เขาสามารถนำไปต่อยอดในอุปกรณ์ใหม่ ๆ หลังจากนั้นได้

ยุคสมัยที่ Steve Jobs กับ Jonathan Ive ร่วมมือกัน (1997-2011)


          หลังจากที่ Steve Jobs กลับมาทำงาน Apple ในปี 1996 โดย Steve Jobs มีความคิดว่า ชิ้นส่วนภายในคอมพิวเตอร์นั้นมันมีความสวยงามอยู่ และเราควรจะโชว์มันให้โลกเห็น Jonathan Ive จึงออกแบบ iMac G3 และ iBook ออกมาได้อย่างสวยงามและกลายเป็นคอมพิวเตอร์ที่ดูโดดเด่นมาก ๆ ในยุคนั้น


          หลังจากนั้น Jonathen Ive ก็ได้ออกแบบอุปกรณ์ของ Apple ที่มีลักษณะโปร่งใสออกมาอีกหลายรุ่น เช่น  Apple Cinema Display และ iMac G4 นอกจากนี้ก็ยังมีลำโพง Soundsticks ของ Harman Kardon ซึ่งไม่ใช่สินค้าของ Apple แต่ Ive เป็นคนออกแบบอีกด้วย


          iPod ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งผลงานชิ้นเอกของ Steve Jobs และ Jonathan Ive เช่นกัน โดย Ive ได้นำแนวคิดต่าง ๆ ในการออกแบบของ Dieter Rams นักออกแบบชื่อดังชาวเยอรมันมาประยุกต์ใช้ในการออกแบบ iPod อย่างการดีไซน์ตัวเครื่องโทนสีขาว รวมทั้งปุ่มควบคุมแบบวงล้ออันเป็นเอกลักษณ์ของ iPod
          เมื่อ iPod เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น Jonathan Ive ก็พยายามดีไซน์ iPod รุ่นใหม่ที่ดูเฉียบและทันสมัยมากขึ้น จึงออกมาเป็น iPod nano และ iPod Shuffle ที่เจาะกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น ด้วยความที่มีหลากหลายสีสัน จุเพลงได้มากถึง 2,000 เพลง แถมยังมาพร้อมวัสดุอะลูมิเนียมที่ถือว่าเป็นความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของวงการเลยทีเดียว

          หลังจากที่มีวัสดุอะลูมิเนียมแล้ว Jonathan Ive ก็สามารถนำไปใช้ออกแบบอุปกรณ์รุ่นใหม่ ๆ ของ Apple ได้อีกมากมาย อย่าง Mac Pro และ MacBook ซึ่งดูสวยงามและมีความเป็นพรีเมียม ดูเฉียบและทันสมัย โดยในปี 2008 Steve Jobs ก็ได้เปิดตัว MacBook Air ที่ถือว่าเป็นโน้ตบุ๊กที่บางที่สุดในโลกในขณะนั้น โดยมีความหนาเพียง 19.4 มม. เท่านั้น


          อีกหนึ่งอุปกรณ์ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ iPhone ที่เปิดตัวรุ่นแรกในปี 2007 และถือเป็นอุปกรณ์เปลี่ยนโลกเลยก็ว่าได้ ด้วยนวัตกรรมใหม่ทั้งหน้าจอทัชสกรีนและระบบปฏิบัติการ iOS ที่เปลี่ยนให้โลกเข้าสู่ยุคสมาร์ตโฟนที่ทำอะไรได้มากกว่าการเป็นโทรศัพท์ หลังจากนั้นก็มีการปรับเปลี่ยนดีไซน์อีกครั้งใน iPhone 4 ที่มีหน้าและหลังเครื่องเป็นกระจก ขอบเป็นอะลูมิเนียม และเป็นหนึ่งในมือถือที่บางที่สุดในยุคนั้น รวมทั้งมีผู้ช่วยส่วนตัว AI ที่ชื่อว่า Siri หลังจากนั้นในปี 2015 ก็ได้เปิดตัว iPhone 5 ที่ใช้หน้าจออัตราส่วนใหม่ 16:9 ซึ่งถือเป็น iPhone รุ่นสุดท้ายที่เกิดขึ้นจากการร่วมมือของ Steve Jobs และ Jonathan Ive


          ในปี 2011 ก่อนการจากไปของ Steve Jobs เพียงหนึ่งปี ก็ได้มีการเปิดตัว iPad ที่ Jonathan Ive ได้ออกแบบให้ดูเฉียบทันสมัยตามรอย iPhone และ MacBook Air ซึ่งมันก็ออกมาเป็นแท็บเล็ตที่แข็งแกร่งที่สุดในตลาด และไม่มีคู่แข่งแบรนด์ใดมาโค่นลงได้อีกหลายปี


ยุคที่ไม่มี Steve Jobs แล้ว (2012-2019)

          ในปี 2013 หลังการจากไปของ Steve Jobs สองปี Jonathan Ive ก็ได้ออกแบบ Mac Pro ซึ่ง Apple ต้องการใช้ดีไซน์นี้แสดงให้เห็นว่าบริษัทยังคงเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมอยู่ แต่ดูเหมือนว่าจะมีกระแสตอบรับที่ไม่ค่อยดีนัก เพราะหลายคนมองว่า Mac Pro รุ่นใหม่นี้มีดีไซน์คล้ายกับถังขยะ แถมยังพบปัญหาเรื่องความร้อนและอัปเกรดยาก

          หลังจากนั้น Apple ก็ได้จ้างนักออกแบบอีกหลายคน ไม่ว่าจะเป็น Marc Newson and CEO of Yves Saunt Laurent และ Paul Deneve เข้ามาร่วมงานกับ Jonathan Ive เพื่อออกแบบอุปกรณ์ที่มีความเป็นสินค้าแฟชั่นในตัว จึงออกมาเป็น Apple Watch อย่างที่เราเห็นกัน หลังจากนั้น Ive ก็ออกแบบ iPhone 6 ออกมา ซึ่งเป็นดีไซน์ใหม่และบางกว่าเดิม แต่ก็ปัญหาที่มาพร้อมกับความบางนั่นคือตัวเครื่องที่งอง่าย ก่อนที่จะถูกปรับปรุงในรุ่นต่อ ๆ มา แต่อย่างไรก็ตาม iPhone 6 ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในมือถือที่ขายดีที่สุดในโลก
          ในปี 2016 Apple ได้ตัดช่องหูฟังใน iPhone 7 ออก เพื่อต้องการให้คนหันไปใช้กับ AirPods หูฟังไร้สายตัวใหม่ของ Apple ซึ่ง AirPods นั้นถือว่าเป็นหูฟังที่มีฟีเจอร์เยอะ ใช้งานสะดวก แถมยังมีเคสที่ชาร์จแบตเตอรี่ได้ในตัว แต่ลูกค้าหลายคนก็ไม่ค่อยพึงพอใจนักกับความเปลี่ยนแปลงนี้ นอกจากนี้ในปีเดียวกัน Apple ยังได้ตัดพอร์ตต่าง ๆ ของ MacBook ออกไปจนเหลือแค่ USB Type-C และช่องหูฟังอีกด้วย รวมทั้งโลโก้ Apple บนเครื่องที่ไม่ส่องแสงเหมือนรุ่นก่อน ๆ อีกแล้ว

          ในปี 2017 ก็มีการเปิดตัว HomePod ลำโพงอัจฉริยะตัวแรกของ Apple ที่ Jonathan Ive ได้นำดีไซน์ทรงกระบอกจาก Mac Pro มาใช้ แต่ดูเหมือนว่าจะออกมาช้าไปหน่อยเพราะตลาดนี้ถูก Amazon ครองตลาดมาก่อนหลายปีแล้ว


          ในปี 2017 Apple ได้เปิดตัวแท่นชาร์จ AirPower ที่ทำให้สามารถชาร์จอุปกรณ์ของ Apple แบบไร้สายได้หลายชิ้นพร้อมกัน ซึ่งได้รับความสนใจค่อนข้างมาก แต่เนื่องจากทีมพัฒนาไม่สามารถแก้ปัญหาเรื่องความร้อนได้ จึงยังไม่ได้ถูกผลิตออกมาขายจริงจนถึงทุกวันนี้ นอกจากนี้ในปีเดียวกันก็ได้เปิดตัว iPhone X ซึ่ง Jonathan Ive ได้ออกแบบดีไซน์ใหม่เพื่อฉลองครบรอบ 10 ปีของ iPhone โดยออกมาเป็นหน้าจอแบบไร้ขอบแต่มีติ่ง ถึงแม้ลูกค้าหลายคนจะไม่ค่อยชอบนัก แต่สุดท้ายแบรนด์อื่น ๆ ก็ทำแบบมีติ่งออกมาด้วยเช่นกัน และดูเหมือนว่าจะเริ่มหันไปใช้บอดี้กระจกแทนอะลูมิเนียมแล้ว เพราะต้องการทำให้รองรับชาร์จไร้สายด้วย


          หลังจากนั้น Apple ก็ออก iPad Pro ในปี 2018 ซึ่งถูกปรับเปลี่ยนเป็นดีไซน์ใหม่ด้วยเช่นกัน มาพร้อมสเปกฟีเจอร์ที่ทำให้คนทำงานด้านกราฟิกให้ความสนใจเป็นอย่างมาก รวมทั้งการเปลี่ยนจากพอร์ต Lightning มาใช้ USB Type-C แทน ทำให้สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น ๆ ได้หลากหลาย

          เนื่องจากช่วงหลัง ๆ สินค้าของ Apple นั้นขายได้น้อยลง จึงเริ่มหันมาเน้นที่การบริการมากขึ้น อย่างการเปิดตัว Apple Card บัตรเครดิตที่ Jonathan Ive เป็นคนออกแบบเช่นกัน โดยตัวบัตรจะมีดีไซน์เรียบหรู ใช้วัสดุเป็นไทเทเนียม ไม่มีลวดลายใด ๆ นอกจากโลโก้ Apple


          ปิดท้ายด้วยอุปกรณ์ชิ้นสุดท้ายที่ออกแบบโดย Jonathan Ive ก่อนที่จะลาออกจาก Apple ก็คือ Mac Pro 2019 ด้วยดีไซน์ที่มีมากรูเสมือนรังผึ้ง ซึ่งก็มีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบมัน แต่คนส่วนใหญ่จะพูดถึงเรื่องราคาแสนโหดของมันมากกว่า โดยเฉพาะขาตั้งจอที่มีราคากว่า 3 หมื่นบาท


ภาพและข้อมูลจาก yankodesign.com