น้ำหอมผู้ชาย 2019 เปิดลิสต์ 9 น้ำหอมผู้ชายตัวฮิตที่ยังน่าใช้อยู่ในปีหน้า พร้อมสไตล์ของแต่ละรุ่น รับประกันว่ากลิ่นหอม งานดี ติดทนจนคนข้าง ๆ ต้องทัก
นอกจากบุคลิกภาพและแฟชั่นการแต่งตัวแล้ว อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อภาพลักษณ์ผู้ชายมาก ๆ นั่นก็คือ กลิ่นกาย หากปล่อยให้ตัวเองจืดชืดหรือมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกมา ต่อให้หน้าตาดีแค่ไหน สาว ๆ ก็เมินหน้าหนีได้เหมือนกัน ฉะนั้นการใช้น้ำหอมจึงเป็นสิ่งที่หนุ่ม ๆ ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด
สังเกตได้ว่าผู้ชายส่วนใหญ่จะค่อนข้างใส่ใจการเลือกใช้น้ำหอม เนื่องจากกลิ่นที่ใช้จะสื่อถึงความเป็นตัวตน และบ่งบอกถึงรสนิยมของคนคนนั้นด้วย บางกลิ่นให้ลุคเซ็กซี่ บางกลิ่นให้ลุคเนี้ยบ ๆ มาดเท่ หรือแบบผู้ชายอบอุ่น ฉะนั้นต้องเลือกให้เข้ากับสไตล์ของตัวเองด้วย จะได้ชอบและใช้ได้อย่างมั่นใจ
วันนี้กระปุกดอทคอมจึงได้รวบรวม 9 น้ำหอมผู้ชาย ในหลาย ๆ สไตล์ที่ยังน่าใช้ในปี 2019 มาให้เพื่อน ๆ ทุกคนดูเป็นตัวเลือกและประกอบการตัดสินใจกันครับ
1. Dolce&Gabbana The One for Men Eau de Parfum
น้ำหอมที่เกิดมาเพื่อผู้ชายสายหล่อ มาดเท่ โดยแท้จริง กลิ่นเป็นซิตรัสที่ควบคู่มากับเครื่องเทศ นำมาด้วยเกรปฟรุต โหระพา ผักชี ให้กลิ่นอายแบบตะวันออก ผสมผสานมากับขิง กระวาน ดอกส้ม และปิดด้วยกลิ่นยาสูบ หลอมรวมความเป็นสุภาพบุรุษ น่าหลงใหล สง่างามแบบชายชาตรี กลิ่นติดทน 8 ชั่วโมง ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 4,700 บาท ต่อขวด 100 มิลลิลิตร
2. Acqua di Gio Giorgio Absolu
ต้องบอกก่อนว่าน้ำหอมรุ่นยอดนิยมตลอดกาลของแบรนด์นี้ยังคงเป็นตัว Profumo กับ Pour Homme อยู่ แต่อยากแนะนำให้รู้จักน้องใหม่ดูบ้าง เผื่อใครอยากลองเปลี่ยนสไตล์ โดยตัว Absolu เป็นการนำความสดชื่นของน้ำทะเล มาจับคู่กับความอบอุ่นของไม้หอมแห้ง ให้ความรู้สึกสง่างาม เย้ายวนและมีเสน่ห์ กลิ่นกระจายติดทนพอสมควร ราคาขวด 75 มิลลิลิตร ขายอยู่ที่ประมาณ 4,500 บาท
3. Bvlgari Pour Homme Soir Perfume for Mens
น้ำหอมผู้ชายยอดฮิตที่เหมาะสำหรับใช้ออกงานหรือเที่ยวตอนกลางคืน นำโดยกลิ่นใบชา อำพันและมะกรูด ให้ความรู้สึกสะอาด หรูหราแบบมีระดับ หอมติดทนนานกลิ่นไม่จางยันตอนเช้าเลย ราคาขายขวด 100 มิลลิลิตร อยู่ที่ประมาณ 3,900 บาท
4. Viktor & Rolf Spicebomb
ระเบิดพลังความหอมที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อหนุ่ม ๆ ลั้ลลาที่ชอบออกท่องราตรี เป็นการเผชิญหน้าระหว่างความดุดันของ เครื่องเทศ พริก ยาสูบ และเครื่องหนัง กับความมีชีวิตชีวาสดใหม่ของ เกรปฟรุต ยางไม้ พริกไทยสีชมพู รวมเป็นกลิ่นที่หอมหวานแบบอบอุ่น เซ็กซี่ดึงดูดเพศตรงข้าม หอมติดทนนานถึงใจ ราคาขวด 90 มิลลิลิตร ขายอยู่ที่ประมาณ 3,800 บาท
5. Versace Man Eau Fraiche
น้ำหอมที่ผสมผสานความต่างได้อย่างลงตัว ทั้งเลมอน มะกรูด มะเฟือง กุหลาบ พริกไทยและไม้ต่าง ๆ ออกมาเป็นกลิ่นที่หอมสดชื่น อมเปรี้ยวนิด ๆ ให้ความรู้สึกปลอดโปร่ง ดมสบายไม่บาดจมูก ได้ลองใช้แล้วจะติดใจจนต้องขอเบิ้ล ราคาอยู่ที่ 3,550 บาท ต่อขวด 100 มิลลิลิตร
6. Davidoff Cool Water Men
หนึ่งในน้ำหอมผู้ชายที่ได้รับความนิยมในบ้านเรามาอย่างยาวนาน กลิ่นที่ได้จะออกไปทางอโรมา จากลาเวนเดอร์ มะลิ โอ๊กมอส และไม้จันทน์ ให้ความรู้สึกสะอาดสดชื่น ผ่อนคลาย เหมาะสำหรับฉีดในตอนกลางวัน กลิ่นหอมฟุ้งติดทนนาน 8 ชั่วโมง ราคาขวด 125 มิลลิลิตร ขายอยู่ที่ประมาณ 3,500 บาท
7. Paco Rabanne 1 Million EDT For Men
น้ำหอมผู้ชายสุดเย้ายวนที่เหมาะมากสำหรับไปเที่ยวหรือออกเดตตอนกลางคืน นำมาโดย ส้มแมนดาริน อำพัน มินต์ กุหลาบ ชินนามอน และเครื่องหนัง กลิ่นเย้ายวนเป็นเอกลักษณ์ ให้ความรู้สึกหรูหรา สง่างาม และน่าค้นหา แต่ค่อนข้างเข้มและเข้าถึงยาก หากใครชอบก็จะชอบมากไปเลย ราคาขายจะอยู่ที่ประมาณ 3,100 บาท ที่ขวด 100 มิลลิลิตร
8. La Nuit De L’Homme by Yves Saint Laurent
น้ำหอมผู้ชายสุดเย้ายวนที่โด่งดังมาเนิ่นนาน เปิดด้วยกลิ่นหวาน ๆ ของกระวาน ลาเวนเดอร์ และมะกรูด ตามมาด้วย ต้นสน หญ้าแฝก และพริกไทยดำ ตอกย้ำความละมุนอีกครั้ง เหมาะสำหรับผู้ชายเซ็กซี่แบบเท่ ๆ กลิ่นติดทนอยู่ได้ตลอดวัน ราคาขวด 100 มิลลิลิตร อยู่ที่ประมาณ 2,800 บาท
9. Nautica Voyage Men
อีกหนึ่งตัวที่เป็นตัวท็อปฮอตฮิตอยู่เสมอ สำหรับน้ำหอมผู้ชายโทนสีฟ้าที่กลิ่นค่อนข้างสดชื่น สะอาดปลอดโปร่ง สบาย ๆ ใช้งานง่าย จับคู่ได้กับทุกสไตล์และทุกสถานการณ์ โดดมาด้วยกลิ่นแอปเปิลเขียว ดอกไม้อ่อน ๆ และตบที่ยางไม้ ติดทนนาน 6 ชั่วโมง ราคาขายขวด 100 มิลลิลิตร อยู่ที่ประมาณ 2,000 บาท
ทั้งนี้ทั้งนั้นแต่ละแบรนด์ไม่ได้มีแค่รุ่นที่แนะนำเพียงอย่างเดียว ยังมีสไตล์อื่น ๆ ขวดไซซ์เล็ก ๆ ให้เลือกด้วย สามารถเข้าไปติดตามในเว็บไซต์ของแบรนด์นั้น ๆ ได้เลย รวมถึงราคาจำหน่ายบางรุ่นเป็นราคาต่างประเทศโดยประมาณ แนะนำให้ตรวจสอบราคากับตัวแทนจำหน่ายอีกครั้งครับ