Wi-Fi 6 คืออะไร มีข้อดีอะไรบ้าง ถ้าอยากใช้ Wi-Fi 6 จำเป็นต้องซื้อ Router และอุปกรณ์ใหม่หรือไม่
การจะใช้ Wi-Fi 6 ได้นั้น ทั้งตัวอุปกรณ์ที่รับสัญญาณ เช่น มือถือ โน้ตบุ๊ก ทีวี รวมทั้ง Router ซึ่งเป็นตัวส่งสัญญาณจะต้องรองรับ Wi-Fi 6 ด้วย ซึ่งแน่นอนว่าอุปกรณ์และ Router รุ่นเก่าในปัจจุบันนั้นยังไม่รองรับ Wi-Fi 6 แปลว่าถ้าจะใช้ Wi-Fi 6 ก็จะต้องซื้อ Router และ อุปกรณ์ต่าง ๆ ใหม่ โดยในช่วงแรก ๆ Router ที่รองรับ Wi-Fi 6 จะมีเฉพาะรุ่นระดับบน ๆ ที่มีราคาค่อนข้างสูง
อย่างไรก็ตามตราบใดที่ Wi-Fi 6 ยังไม่เป็นที่แพร่หลาย ก็ยังไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนอุปกรณ์หรือ Router เพื่อให้รองรับ Wi-Fi 6 เนื่องจาก Wi-Fi 4 และ Wi-Fi 5 ที่ใช้กันทั่วไปในปัจจุบันนั้นก็ยังถือว่าเพียงพอต่อความเร็วอินเทอร์เน็ตในประเทศไทยขณะนี้
ข้อมูลจาก makeuseof
Wi-Fi 6 เป็นเทคโนโลยีแบบใหม่ Wi-Fi 802.11ax ที่จะเริ่มนำไปใช้กับอุปกรณ์ต่าง ๆ ในปี 2019 หลังจากที่ Wi-Fi Alliance ได้ประกาศเปลี่ยนวิธีการเรียกเวอร์ชั่น Wi-Fi เป็นตัวเลขแทน (อ่านข่าวเก่า) ซึ่ง Wi-Fi 6 นี้รองรับความเร็วได้มากกว่า สูงสุด 10Gbps สัญญาณแรงกว่า Wi-Fi 5 (802.11ac) ประมาณ 30-40%
นอกจากนี้ Wi-Fi 6 ยังรองรับ MU-MIMO ที่ทำให้ Router
สามารถสื่อสารและตอบสนองกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้เร็วและดีกว่า MIMO ของ Wi-Fi 5
อีกทั้งยังลดปัญหาสัญญาณรบกวนในพื้นที่ที่มีการปล่อยสัญญาณ Wi-Fi
หนาแน่นอีกด้วย
การจะใช้ Wi-Fi 6 ได้นั้น ทั้งตัวอุปกรณ์ที่รับสัญญาณ เช่น มือถือ โน้ตบุ๊ก ทีวี รวมทั้ง Router ซึ่งเป็นตัวส่งสัญญาณจะต้องรองรับ Wi-Fi 6 ด้วย ซึ่งแน่นอนว่าอุปกรณ์และ Router รุ่นเก่าในปัจจุบันนั้นยังไม่รองรับ Wi-Fi 6 แปลว่าถ้าจะใช้ Wi-Fi 6 ก็จะต้องซื้อ Router และ อุปกรณ์ต่าง ๆ ใหม่ โดยในช่วงแรก ๆ Router ที่รองรับ Wi-Fi 6 จะมีเฉพาะรุ่นระดับบน ๆ ที่มีราคาค่อนข้างสูง
อย่างไรก็ตามตราบใดที่ Wi-Fi 6 ยังไม่เป็นที่แพร่หลาย ก็ยังไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนอุปกรณ์หรือ Router เพื่อให้รองรับ Wi-Fi 6 เนื่องจาก Wi-Fi 4 และ Wi-Fi 5 ที่ใช้กันทั่วไปในปัจจุบันนั้นก็ยังถือว่าเพียงพอต่อความเร็วอินเทอร์เน็ตในประเทศไทยขณะนี้
ข้อมูลจาก makeuseof