แชร์ประสบการณ์เปลี่ยนแปลงตัวเอง สร้างกล้ามเนื้อ จากเด็กหนุ่มตัวผอมบาง กินอะไรไม่ได้เลยนอกจากไข่ โดนเพื่อนที่โรงเรียนล้อเป็นประจำ สู่หนุ่มฮอตกล้ามล่ำที่อย่างกับเป็นคนละคนกัน
โดยสมัยเด็กตั้งแต่เรียนอนุบาลเขาเป็นคนที่กินอาหารยากมาก ผักไม่เอา เนื้อสัตว์ก็ไม่ได้ กินอยู่อย่างเดียวคือ เมนูไข่ ถึงขั้นต้องขอให้แม่ครัวโรงเรียนทำเมนูกลางวันพิเศษให้เสมอ เขาจึงกลายเป็นเด็กตัวเล็ก ผอมบางกว่าคนอื่น ๆ ต้องใส่เสื้อตัวใหญ่ ๆ เพื่อปกปิดร่างกายตัวเองไม่ให้ดูน่าเกลียด ถูกเพื่อนล้อสารพัด กินอะไรก็ไม่ได้ กลายเป็นไอ้ขี้แพ้ประจำชั้น แต่เขาก็ทนใช้ชีวิตแบบนั้นจนจบชั้น ม.6
พอผ่านพ้นช่วงมัธยมปลายมาได้ ชีวิตเหมือนได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง เพราะไม่มีใครรู้จักตัวตนเก่าของเขาอีกแล้ว จึงตัดสินใจที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง ลองหัดกินอะไรใหม่ ๆ ดูบ้าง ช่วงแรกกินได้แค่เบอร์เกอร์หมูอย่างเดียว กินผักไม่ได้เลย จากนั้นก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็น ข้าวผัดหมู ข้าวหมูกระเทียม หรืออาหารที่ไม่เผ็ด หลัง ๆ สามารถกินผักต้มที่ไร้กลิ่นและรสชาติไม่ขมได้ ร่างกายเลยพอมีเนื้อมีหนังเหมือนคนปกติขึ้นมาบ้าง
แต่คำว่าไอ้ขี้แพ้ยังฝังลึกอยู่ในใจ พอเข้าสู่วัยทำงานเริ่มมีรายได้เป็นของตัวเอง จึงเลือกไปสมัครฟิตเนส เพราะอยากมีกล้ามใหญ่ ๆ อย่างน้อยก็ขอให้ใส่เสื้อผ้าแล้วดูดี และต้องการลบคำสบประมาทเหล่านั้นให้ได้ แต่เขาต้องทำงานไปด้วย จึงมีเวลาว่างเข้ายิมแค่ วันเสาร์-อาทิตย์ เท่านั้น เลยจัดหนักวันละ 3 ท่า 3 ชั่วโมงเต็ม และมันทำให้เขาได้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย แล้วคนรอบข้างก็แนะนำให้กินเวย์โปรตีนช่วยเพิ่มน้ำหนักและกล้ามเนื้อ เขาก็ลองกินดูในช่วง 4 ปีแรก แต่ไม่ได้ใช้ตลอดเนื่องจากราคาสูงมาก
ช่วง 4 ปีแรก เข้าฟิตเนสแค่ เสาร์-อาทิตย์
เน้นท่าบริหาร อก ไหล่ หลัง ขา หน้าแขน หลังแขนและท้อง เล่นท่าละ 12 ครั้ง จำนวน 4 เซต โดยแต่ละเซตจะเพิ่มน้ำหนักขึ้นเรื่อย ๆ
ช่วง 4 ปีหลัง เข้าฟิตเนส 4-5 วันต่อสัปดาห์
โดยการเล่นแยกส่วนในแต่ละวัน และไม่ว่าวันไหนจะเข้ายิม หรือไม่เข้ายิม ทุก ๆ เช้า จะต้องวิดพื้น 150 ครั้งเสมอ
วิธีการกิน
จะแบ่งเป็น 6 มื้อต่อวัน เช้า กลางวัน เย็น เป็นอาหารมื้อหลัก ส่วนช่วง สาย บ่าย ดึก เป็นมื้อรอง
- อาหารหลักมื้อเช้า กินนมถั่วเหลือง แซนด์วิช ไส้กรอก ไข่ต้ม 2 ฟอง
- ช่วงสายกินนมกับขนมปัง
- กลางวันกินอาหารตามสั่ง ข้าวแกงปกติทั่วไป
- บ่าย ๆ เป็นขนมโตเกียว ไส้กรอก+ไข่ จำนวน 2 ชิ้น
- มื้อเย็นจะเน้นปริมาณ ส่วนใหญ่เป็นพวก สเต๊ก ชาบู และปิ้งย่าง
- ก่อนปิดรอบดึกด้วย ไข่เจียว ไข่ต้ม นม เพื่อไม่ให้ย่อยยากจนเกินไป
จนถึงปัจจุบันหลังจากได้เข้าฟิตเนสมานานกว่า 8 ปี เดิมทีเขาน้ำหนัก 48 กิโลกรัม ตอนนี้เป็น 62 กิโลกรัมแล้ว ร่างกายแข็งแรง กล้ามเนื้อกำยำล่ำสัน หลายคนเห็นยังต้องอิจฉา แม้จะยังไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ แต่เขาก็ภูมิใจในตัวเองในระดับหนึ่ง และจะพัฒนาต่อไปเรื่อย ๆ เพื่อไปให้ถึงฝันที่เขาต้องการ
การมีรูปร่างฟิตและเฟิร์ม ด้วยมัดกล้ามเนื้อแน่น ๆ คงเป็นสิ่งที่ชายหนุ่มทุกคนอยากจะทำให้ได้ และ คุณ OaterALMIGHTY สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ก็ได้เปิดเผยถึงเรื่องราวการฝึกฝนที่ต้องอาศัยความอดทนเป็นเวลาหลายปีจนเปลี่ยนแปลงตัวเอง จากเด็กหนุ่มผอม ๆ ธรรมดามาสู่การเป็นหนุ่มล่ำบึ้ก เรียกว่าแทบจะกลายเป็นคนละคนเลยทีเดียว
โดยสมัยเด็กตั้งแต่เรียนอนุบาลเขาเป็นคนที่กินอาหารยากมาก ผักไม่เอา เนื้อสัตว์ก็ไม่ได้ กินอยู่อย่างเดียวคือ เมนูไข่ ถึงขั้นต้องขอให้แม่ครัวโรงเรียนทำเมนูกลางวันพิเศษให้เสมอ เขาจึงกลายเป็นเด็กตัวเล็ก ผอมบางกว่าคนอื่น ๆ ต้องใส่เสื้อตัวใหญ่ ๆ เพื่อปกปิดร่างกายตัวเองไม่ให้ดูน่าเกลียด ถูกเพื่อนล้อสารพัด กินอะไรก็ไม่ได้ กลายเป็นไอ้ขี้แพ้ประจำชั้น แต่เขาก็ทนใช้ชีวิตแบบนั้นจนจบชั้น ม.6
พอผ่านพ้นช่วงมัธยมปลายมาได้ ชีวิตเหมือนได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง เพราะไม่มีใครรู้จักตัวตนเก่าของเขาอีกแล้ว จึงตัดสินใจที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง ลองหัดกินอะไรใหม่ ๆ ดูบ้าง ช่วงแรกกินได้แค่เบอร์เกอร์หมูอย่างเดียว กินผักไม่ได้เลย จากนั้นก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็น ข้าวผัดหมู ข้าวหมูกระเทียม หรืออาหารที่ไม่เผ็ด หลัง ๆ สามารถกินผักต้มที่ไร้กลิ่นและรสชาติไม่ขมได้ ร่างกายเลยพอมีเนื้อมีหนังเหมือนคนปกติขึ้นมาบ้าง
แต่คำว่าไอ้ขี้แพ้ยังฝังลึกอยู่ในใจ พอเข้าสู่วัยทำงานเริ่มมีรายได้เป็นของตัวเอง จึงเลือกไปสมัครฟิตเนส เพราะอยากมีกล้ามใหญ่ ๆ อย่างน้อยก็ขอให้ใส่เสื้อผ้าแล้วดูดี และต้องการลบคำสบประมาทเหล่านั้นให้ได้ แต่เขาต้องทำงานไปด้วย จึงมีเวลาว่างเข้ายิมแค่ วันเสาร์-อาทิตย์ เท่านั้น เลยจัดหนักวันละ 3 ท่า 3 ชั่วโมงเต็ม และมันทำให้เขาได้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย แล้วคนรอบข้างก็แนะนำให้กินเวย์โปรตีนช่วยเพิ่มน้ำหนักและกล้ามเนื้อ เขาก็ลองกินดูในช่วง 4 ปีแรก แต่ไม่ได้ใช้ตลอดเนื่องจากราคาสูงมาก
เน้นท่าบริหาร อก ไหล่ หลัง ขา หน้าแขน หลังแขนและท้อง เล่นท่าละ 12 ครั้ง จำนวน 4 เซต โดยแต่ละเซตจะเพิ่มน้ำหนักขึ้นเรื่อย ๆ
ช่วง 4 ปีหลัง เข้าฟิตเนส 4-5 วันต่อสัปดาห์
โดยการเล่นแยกส่วนในแต่ละวัน และไม่ว่าวันไหนจะเข้ายิม หรือไม่เข้ายิม ทุก ๆ เช้า จะต้องวิดพื้น 150 ครั้งเสมอ
วิธีการกิน
จะแบ่งเป็น 6 มื้อต่อวัน เช้า กลางวัน เย็น เป็นอาหารมื้อหลัก ส่วนช่วง สาย บ่าย ดึก เป็นมื้อรอง
- อาหารหลักมื้อเช้า กินนมถั่วเหลือง แซนด์วิช ไส้กรอก ไข่ต้ม 2 ฟอง
- ช่วงสายกินนมกับขนมปัง
- กลางวันกินอาหารตามสั่ง ข้าวแกงปกติทั่วไป
- บ่าย ๆ เป็นขนมโตเกียว ไส้กรอก+ไข่ จำนวน 2 ชิ้น
- มื้อเย็นจะเน้นปริมาณ ส่วนใหญ่เป็นพวก สเต๊ก ชาบู และปิ้งย่าง
- ก่อนปิดรอบดึกด้วย ไข่เจียว ไข่ต้ม นม เพื่อไม่ให้ย่อยยากจนเกินไป
จนถึงปัจจุบันหลังจากได้เข้าฟิตเนสมานานกว่า 8 ปี เดิมทีเขาน้ำหนัก 48 กิโลกรัม ตอนนี้เป็น 62 กิโลกรัมแล้ว ร่างกายแข็งแรง กล้ามเนื้อกำยำล่ำสัน หลายคนเห็นยังต้องอิจฉา แม้จะยังไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ แต่เขาก็ภูมิใจในตัวเองในระดับหนึ่ง และจะพัฒนาต่อไปเรื่อย ๆ เพื่อไปให้ถึงฝันที่เขาต้องการ
ทั้งนี้อดีตหนุ่มผอมได้กล่าวทิ้งท้ายสำหรับใครที่อยากเปลี่ยนแปลงตัวเองแบบเขาด้วยว่า “ขอแค่ตั้งเป้าไว้ และสู้ให้สุด อดทนกับมัน แล้วผลที่ออกมา รับรองว่า คุ้มค่าแน่นอน” สำหรับคนทั่วไปอาจจะมองว่ามันง่าย ใคร ๆ ก็สามารถทำได้ แต่กับเขาแล้วที่ตอนเด็ก ๆ เป็นคนผอมแห้ง กินอะไรไม่ได้เลยนอกจากเมนูไข่ กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ต้องใช้ทั้งพลังกาย พลังใจ และความอดทนอย่างมาก แล้วในที่สุดเขาก็พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้วว่าเขาทำได้จริง ๆ ยังไงกระปุกดอทคอมก็ขอขอบคุณเรื่องราวและแรงบันดาลใจดี ๆ จากคุณ OaterALMIGHTY สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ด้วยครับ
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : คุณ OaterALMIGHTY สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม, เฟซบุ๊ก Sarayoot Tangjitpaew