x close

เริ่มออกกำลังกายยังไงดี...เมื่อคุณรู้สึกว่าตัวเองอ้วนแล้ว

          คำแนะนำสำหรับคนเริ่มต้นออกกำลังกายลดน้ำหนัก และไม่รู้จะเริ่มด้วยวิธีไหนดี หลังปล่อยให้ตัวเองอ้วนมานาน ลองทำตามนี้ได้เลย ออกสตาร์ตดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
          ความจริงแล้ว การออกกำลังกายดูแลสุขภาพ  ไม่ใช่เรื่องยากเลย แค่ควบคุมอาหาร พักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายเท่านั้นเอง เพียงแต่หนุ่ม ๆ หลายคนฉุกคิดไม่ทัน ต้องส่องกระจกแล้วเห็นพุง เห็นเหนียงก่อน ถึงจะตระหนัก ซึ่งบางคนกว่าจะรู้สึกว่าตัวเองอ้วน น้ำหนักก็แทบจะแตะหลักร้อยแล้ว การเริ่มออกกำลังกายในตอนนั้นจึงเป็นเรื่องที่ยากมาก ๆ เพราะเคลื่อนไหวลำบาก เหนื่อยง่าย และไม่คุ้นชินกับการใช้แรง แต่จะปล่อยให้อ้วนต่อไปก็กลัวจะโดนล้อและมีปัญหาอื่น ๆ ตามมา เลยต้องหาทางพาตัวเองไปออกกำลังกายให้ได้

          กระปุกดอทคอมจึงได้หยิบ วิธีปลุกตัวเองให้เริ่มออกกำลังกายสำหรับคนอ้วน มาให้เพื่อน ๆ ทุกคนได้ลองอ่านกันครับ

ทำไมต้องออกกำลังกาย...เมื่อรู้ว่าน้ำหนักขึ้น

          การปล่อยให้น้ำหนักพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ จะเกิดความเสี่ยงต่อโรคร้ายแรง เช่น ความดันโลหิต โรคหัวใจ เบาหวาน ภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน และโรคซึมเศร้า รวมถึงปัญหาสุขภาพต่าง ๆ อย่าง เซ็กส์เสื่อม กระดูกพรุน ไขข้ออักเสบ สมองตอบสนองช้า และรูปร่างไม่สมส่วน ซึ่งจุดประสงค์หลักของการออกกำลังกาย คือ ลดความเสี่ยงด้านสุขภาพ ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น ไม่ใช่การฟิตหุ่นให้กลับมาผอมใส่กางเกงยีนส์ขาเดฟได้อย่างที่หลายคนโฟกัสกัน อันนั้นเป็นแค่ประเด็นรองเท่านั้น

เริ่มยังไงดี...ถ้าไม่เคยออกกำลังกายเลย

          ถ้าถามคนที่เคยมีประสบการณ์ลดน้ำหนักว่า อุปสรรคไหนยากที่สุด ? เดาว่าส่วนใหญ่ต้องตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า การเริ่มต้น มาดูกันดีกว่าว่าควรออกสตาร์ตยังไงให้ง่ายขึ้นและไปต่อได้สำเร็จ

          - ตัดข้ออ้างทั้งหมดทิ้งให้ได้ก่อน

เริ่มต้นออกกำลังกาย

          น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้ เนื่องจากการลดน้ำหนักต้องใช้ทั้ง ความอดทน มุ่งมั่นตั้งใจ มีวินัยสม่ำเสมอ และเวลาที่มากพอสมควร ถ้าคุณยังเอาแต่อ้างโน่น โทษนี่ ไม่มีแรงจูงใจที่จะออกกำลังกาย ก็ควรปล่อยตัวเองให้อ้วนต่อไป เล่นบ้างหยุดบ้างมีแต่เหนื่อยฟรีเปล่า ๆ เก็บเงินและเอาเวลาไปหาหมอแทนละกัน

          - ปรับชีวิตประจำวัน อย่าทำเป็นครั้ง ๆ

          โปรดจำไว้ว่าเป้าหมายของคุณคือ การปรับปรุงชีวิตประจำวันให้ดีขึ้น จนเกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกกับร่างกาย ไม่ใช่ตื่นมาออกกำลังกายเสร็จ ก็กลับไปกินดะ นั่งเล่นเกมทั้งคืน และนอนดึกทุกวันเหมือนเดิม แบบนั้นบอกเลยว่าไร้ประโยชน์

          ลองดูว่ากิจกรรมไร้สาระอันไหนลดได้ก็ลด (ไม่ต้องถึงขั้นเลิก) อะไรออกแรงทำเองได้ก็ทำ เช่น เลือกเดินขึ้นบรรได 2 ชั้น แทนการใช้ลิฟต์, ล้างรถด้วยตัวเอง หรือระยะทางใกล้ ๆ ก็ปั่นจักรยาน แทน ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้ถือเป็นการบริหารร่างกายไปในตัว และทำให้ร่างกายชินกับการออกกำลังกายมากขึ้น

          - ค้นหาสิ่งที่ชอบและเริ่มต้นจากตรงนั้น

เริ่มต้นออกกำลังกาย

          ความไม่ชอบ นี่แหละ เป็นก้อนหินที่ขวางทางให้หลายคนไม่ยอมเริ่มออกกำลังกายสักที ! ลองค้นหาดูว่าตัวเองชอบการออกกำลังกายแบบไหน สนใจกีฬาอะไรมากที่สุด จากนั้นก็ลองเล่นมันซะ สร้างนิสัยตัวเองให้ได้ ไม่ต้องไปฟังคำคนอื่นหรือนั่งหาว่าออกกำลังกายแบบไหนได้ประโยชน์มากที่สุด เอาที่ตัวเองชอบและอยากเล่นดีกว่า แล้วคุณจะสนุกและอยู่กับมันได้นาน จนสุขภาพดีขึ้นแบบไม่รู้ตัว

          - เน้นสิ่งที่คุณทำได้ตอนนี้ อย่าเพิ่งมองอนาคต

          บางคนนึกภาพตอนวิ่งมาราธอน 10 กิโลเมตร ว่ายน้ำเป็นชั่วโมง ๆ โหนบาร์วันละ 50 ครั้ง พอคิดเสร็จก็พูดว่า ยอมแพ้ ตัวเองไม่มีทางทำได้แน่นอน ถูกต้องครับ ! คุณไม่มีวันทำได้อยู่แล้ว เพราะมันเป็นการออกกำลังกายของคนที่ฝึกฝนมาเป็นอย่างดี ไม่ใช่มือใหม่แบบคุณ ฉะนั้นหันมาโฟกัสในสิ่งที่ทำได้ตอนนี้ดีกว่า เริ่มต้นง่าย ๆ เล่นแบบเบา ๆ แต่เน้นความสม่ำเสมอ ให้ร่างกายได้ปรับตัวและพัฒนาขึ้น แล้ววันหนึ่งคุณจะรู้เองว่าสิ่งที่เห็นวันนั้น มันไม่ได้ยากอย่างที่คิด

          - อย่าเล่นคนเดียว

เริ่มต้นออกกำลังกาย

          จริง ๆ มันเริ่มคนเดียว เล่นคนเดียวได้นะไม่ใช่เรื่องแปลก แต่มันอาจจะน่าเบื่อสำหรับบางคน ส่งผลให้ออกกำลังกายได้น้อยกว่าที่ควร แนะนำให้ลองชวนเพื่อนสักคน หรือเข้าร่วมกลุ่มที่เขาเล่นกันเป็นประจำ เพื่อเป็นแรงกระตุ้นให้ตัวเอง เปลี่ยนบรรยากาศให้สนุกขึ้น เวลาเห็นคนอื่นตั้งใจเล่นเราก็จะตั้งใจตาม มีเทคนิคดี ๆ หรือข้อผิดพลาดก็เตือนกัน ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน แบบนี้จะผลักดันให้คุณรู้สึกอยากออกกำลังกายและทำมันได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

การออกกำลังกายที่แนะนำ

          โปรแกรมออกกำลังกายเหล่านี้เหมาะมาก ๆ สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้น หรือคนที่มีน้ำหนักตัวสูง ลองดูว่าคุณสนใจแบบไหน จากนั้นก็ศึกษา เตรียมตัว และเริ่มต้นได้เลย

          - เดินเร็ว – วิ่งจ๊อกกิ้ง

          หนึ่งในการออกกำลังกายที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน เพราะใช้อุปกรณ์น้อยและสามารถทำได้เกือบทุกที่ การเดินเร็วจะมีแรงกระแทกน้อย ใช้แรงไม่มาก แต่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความคล่องตัวได้ดี สำหรับคนไม่เคยออกกำลังกายเลย อย่าเพิ่งไปกังวลเรื่องความเร็วมากนัก เริ่มเดินเร็วให้ได้สัก 10-15 นาทีก่อน แล้วค่อย ๆ ปรับเป็นวิ่งจ๊อกกิ้ง ถ้ารู้สึกเหนื่อย หายใจไม่ทัน ให้เปลี่ยนเป็นเดินสลับวิ่งเหยาะ ๆ แทน พยายามทำให้ได้อย่างน้อย 30-40 นาทีต่อวัน

          - ปั่นจักรยาน

เริ่มต้นออกกำลังกาย

          ทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่พอมีเวลาและสถานที่ให้ปั่น หลายคนใช้วิธีนี้ในการลดน้ำหนัก เพราะเป็นการออกกำลังกายที่สนุก เผาผลาญแคลอรีได้ดี แรงกระแทกน้อย ปั่นเพลินได้เรื่อย ๆ แถมมีกลุ่มหรือสังคมให้เข้าร่วมมากมาย แต่ต้องศึกษาเรื่องจักรยานให้มาก ๆ แล้วเลือกประเภทให้เข้ากับตัวเองด้วย ซึ่งจะช่วยให้การปั่นมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

          -  วิ่งในน้ำ – ว่ายน้ำ

          น่าจะเป็นกิจกรรมที่หลายคนชื่นชอบและมีประโยชน์ต่อร่างกายมาก ๆ ใครที่ว่ายน้ำเป็นอยู่แล้วก็วอร์มอัพแล้วจัดเลยครับไม่ต้องรีรอ ส่วนคนไม่เคยลงสระมาก่อนควรหาเทรนเนอร์มืออาชีพช่วยสอน ลองหัดเดิน วิ่ง ลอยตัวในน้ำ ก่อนในช่วงแรก แค่นี้ก็เผาผลาญแคลอรีและเพิ่มความอึดได้มากแล้ว

          - สเตรทช์ เทรนนิ่ง (Strength Training)

เริ่มต้นออกกำลังกาย

          การออกกำลังกายที่เน้นบริหารในส่วนของกล้ามเนื้อ ฟังดูเหมือนจะเหมาะกับคนเล่นกล้ามมากกว่า แต่ความจริงมันสามารถปรับใช้สำหรับคนทั่วไป เพื่อรีดไขมันส่วนเกินและลดน้ำหนักได้ แถมยังได้ความแข็งแรงเป็นของแถมอีกด้วย ลองหาคลิปสอนในยูทูบแบบฉบับมือใหม่แล้วใช้ทำตามที่บ้านได้เลย สำหรับใครที่ทำ คาร์ดิโอ (Cardio) ไหว แนะนำให้ทำไปด้วยเลยครับ

          ไม่มีคำพูดไหน ตอบได้ดีเท่าคุณลงมือทำลองสัมผัสมันด้วยตัวเอง เชื่อเถอะครับมันไม่ยากและเหนื่อยอย่างที่คิดหรอก คนอื่นทำได้คุณก็ต้องทำได้ ขอแค่กล้าที่จะก้าวออกมาจากจุดเดิม แล้วผลลัพธ์ที่ได้จะทำให้คุณรู้ว่ามันคุ้มค่าแค่ไหนที่ได้ลอง


ข้อมูลจาก : lifehacker.com, verywellfit.com

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เริ่มออกกำลังกายยังไงดี...เมื่อคุณรู้สึกว่าตัวเองอ้วนแล้ว อัปเดตล่าสุด 11 ตุลาคม 2561 เวลา 10:15:05 133,237 อ่าน
TOP