เอเลียด คิปโชเก (Eliud Kipchoge) นักวิ่งมาราธอนเจ้าของสถิติโลกคนล่าสุด กับเคล็ดลับการฝึกให้ร่างกายแข็งแกร่งเหนือมนุษย์ บอกเลยว่าฝึกหนักมาก !
ป้องกันแชมป์ได้ไม่พอ เอเลียด คิปโชเก ยอดนักวิ่งปอดเหล็ก ชาวเคนยา วัย 33 ปี ยังทำลายสถิติโลกของการวิ่งมาราธอนด้วย หลังลงแข่งขันระดับเมเจอร์ในรายการ เบอร์ลิน มาราธอน 2018 (Berlin Marathon) ที่ประเทศเยอรมนี ระยะทางรวม 42.195 กิโลเมตร และวิ่งเข้าเส้นชัยด้วยเวลา 2 ชั่วโมง 1 นาที 39 วินาที เฉลี่ย 2.53 นาที/กิโลเมตร ทุบสถิติเดิมที่ เดนนิส คิเมตโต้ (Dennis Kimetto) เพื่อนร่วมชาติทำไว้ 2 ชั่วโมง 2 นาที 57 วินาที เมื่อปี 2014 จนได้รับการยกย่องให้เป็นนักวิ่งมาราธอนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลกคนหนึ่งเลย
แต่การไปยืนอยู่จุดเดียวกับ เอเลียด คิปโชเก ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ที่ใครก็ทำได้ เพราะต้องผ่านการฝึกซ้อมมาเป็นอย่างดี และมีร่างกายที่แข็งแรงมาก ๆ ซึ่งก่อนการแข่งขัน เบอร์ลิน มาราธอน ปีที่แล้ว ได้มีการนำโปรแกรมฝึกซ้อมของเขาออกมาเปิดเผย
และนี่คือเคล็ดลับฝึกร่างกายให้แกร่งเหนือมนุษย์แบบ เอเลียด คิปโชเก เจ้าของสถิติโลกมาราธอนคนล่าสุด

ภาพจาก John MACDOUGALL / AFP
ผลงานเด่น : เหรียญทองการแข่งขันวิ่งมาราธอน ระดับเมเจอร์ 7 รายการ และเหรียญเงิน 1 รายการ
เหรียญทอง World Cross Country Championships ปี 2003
เหรียญทอง วิ่ง 5,000 เมตร World Championships ปี 2003 และเหรียญเงินในปี 2007
เหรียญทอง วิ่งมาราธอน Olympic Games ปี 2016
เหรียญเงิน วิ่ง 5,000 เมตร Olympic Games ปี 2008 และเหรียญทองแดง ในปี 2004
เหรียญเงินวิ่ง 5,000 เมตร Commonwealth Games ปี 2010
คงเส้นคงวา
คิปโชเก มีความสม่ำเสมอที่น่าทึ่งมาก ! ก่อนการแข่งขันนักกีฬาทั่วไปจะโหมฝึกหนักประมาณ 2-3 สัปดาห์ จากนั้นก็ค่อย ๆ ลดลงกลับมาซ้อมปกติ เพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นฟูเต็มที่ แต่สำหรับ คิปโชเก ไม่ใช่แบบนั้น นักวิ่งปอดเหล็กใช้วิธีฝึกซ้อมแบบต่อเนื่องและสม่ำเสมอแทน ร่างกายจึงคุ้นชินและปรับตัวได้ดีขึ้น โดยซ้อมวิ่งประมาณ 10 ครั้ง ระยะทางรวม 170-190 กิโลเมตร/สัปดาห์ เป็นประจำ
รักษาระเบียบวินัย
อาเบล คิรุย (Abel Kirui) เพื่อนร่วมทีม เผยว่า "คิปโชเก เป็นคนฉลาดและมีระเบียบวินัย ถ้าบอกว่ากินมื้อเย็น 19.00 น. ก็จะกินหนึ่งทุ่มตรง ถึงเวลานอนก็เข้านอนทันที และตอนเช้าเขามักจะไปถึงโรงยิมเป็นคนแรกเสมอ"
ทุ่มเทอย่างเต็มที่
นักวิ่งชาวเคนยา ทุ่มเทให้กับการฝึกซ้อมทุกวัน ขนาดวันหยุดพักผ่อนประจำสัปดาห์ยังออกไปวิ่งเหยาะ ๆ ในความเร็ว 5-6 กิโลเมตร/ชั่วโมง และต้องครบ 1 ชั่วโมงได้ 18 กิโลเมตรก่อนถึงจะยอมหยุดพัก
การฝึกซ้อมของ คิปโชเก อาจดูหนักเกินสำหรับคนทั่วไป แต่ที่เขาทำได้คงเป็นเพราะผ่านการฝึกอย่างดีมาแล้วกว่า 15 ปี สำหรับคนที่อยากแข็งแกร่งเหนือมนุษย์แบบนักวิ่งเจ้าของสถิติโลกคนล่าสุด แนะนำให้เอาหลักการของ คิปโชเก มาปรับให้เข้ากับตัวเอง แล้วค่อย ๆ พัฒนาขึ้นไปเรื่อย ๆ แต่อย่าเอาโปรแกรมสุดหินนั้นมาใช้ เพราะร่างกายไม่เหมือนกัน อาจเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บรุนแรงได้ เชื่อว่าความมุ่งมั่นตั้งใจสามารถทำให้ทุกคนประสบความสำเร็จแบบ คิปโชเก ได้แน่นอนครับ