อาการน่าเป็นห่วง สถิติเผยวัยรุ่นยุคใหม่เลือกที่จะแชตกันมากกว่าคุยต่อหน้า แถมอัตราการถูกคุกคามในโลกออนไลน์สูงขึ้นมาก

เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2561 ได้มีการเปิดเผยสถิติเกี่ยวลักษณะการใช้โซเชียลของวัยรุ่นยุคปัจจุบัน ซึ่งผลโดยรวมออกมาค่อนข้างน่าเป็นห่วง เนื่องจากพบว่าวัยรุ่นในยุคปัจจุบันมีแนวโน้มชอบคุยกันทางแชตมากกว่าการคุยกันต่อหน้ามากขึ้นเรื่อย ๆ แถมยังมีอัตราการถูกคุกคามในโลกออนไลน์สูงขึ้นมากอีกด้วย

เมื่อปี 2012 นั้นมีวัยรุ่นจำนวน 49% ที่เลือกคุยกันแบบต่อหน้ามากกว่า
แต่ล่าสุดปี 2018 มีจำนวนลดลงเหลือ 32% แล้ว
ซึ่งก็หมายความว่าวัยรุ่นส่วนใหญ่เริ่มเลือกที่จะแชตกันแทนการคุยต่อหน้ามากขึ้น
นอกจากนี้ยังมีสถิติที่น่าเป็นห่วงมากคือ อัตราการถูกคุกคามในโลกออนไลน์
(Cyber-Bullying) ของวัยรุ่นสูงขึ้นมาก จากเพียง 5% เมื่อปี 2012
มาตอนนี้พุ่งขึ้นเป็น 35% แล้ว และในขณะเดียวกันก็ยังมีวัยรุ่นจำนวน 33%
ที่บอกว่าอยากให้ผู้ปกครองลดการเล่นมือถือแล้วหันมาสนใจพวกเขามากขึ้นบ้าง
ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นจาก 21% เมื่อเทียบกับปี 2012
นอกจากนี้สถิติยังเผยอีกว่า วัยรุ่น 54% ยอมรับว่าการเล่นโซเชียลทำให้สนใจคนรอบข้างน้อยลง และ 44% ที่บอกว่าพวกเขารู้สึกไม่โอเคเมื่อเห็นเพื่อนก้มหน้าเล่นมือถือขณะสังสรรค์กัน ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเพราะมีวัยรุ่นถึง 55% ที่แทบจะไม่เคยอยู่ห่างจากมือถือขณะออกไปสังสรรค์กับเพื่อน ๆ เลย
อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าวัยรุ่นจะยังคงรู้เสมอว่าการเสพติดโซเชียลนั้นมีผลเสียอย่างไรบ้าง และพวกเขาก็ยอมรับว่าในบางครั้งก็รู้สึกแย่กับโลกโซเชียลจนทำให้อยากย้อนกลับไปยุคที่ไม่มีโซเชียลอยู่เหมือนกัน
ดูเหมือนว่าปัญหานี้จะเป็นปัญหาที่วนเวียนแบบไม่รู้จบ เพราะไม่มีใครชอบเวลาที่เห็นคนรอบข้างเอาแต่ก้มหน้าเล่นมือถือ ในขณะที่ตัวเองก็อาจก้มหน้าเล่นมือถือเวลาอยู่กับคนอื่นบ้างเหมือนกัน และหลายคนก็เริ่มรู้สึกว่าไม่ค่อยอยากจะคุยกันต่อหน้าแล้ว เพราะคุยกันในแชตนั้นง่ายกว่าเยอะ
ภาพและข้อมูลจาก 9to5mac