5 วิธีเลือกกระเป๋าสะพายข้างให้เหมาะกับตัวคุณ เลือกกระเป๋าสะพายข้างอย่างไรให้ตรงกับความต้องการใช้งาน
1. ดีไซน์และสีสัน
2. ขนาดและช่องเก็บของ
3. แบบหนังกับแบบผ้าอันไหนดีกว่า ?
กระเป๋าแบบหนังกับแบบผ้านั้นมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน โดยกระเป่าหนังจะมีข้อดีคือความทนทาน เลอะยาก และดูแพงกว่า แต่น้ำหนักจะมากกว่าแบบผ้า ส่วนกระเป๋าผ้านั้นจะมีน้ำหนักเบากว่า แต่ก็ต้องแลกกับความทนทานน้อยกว่าแบบหนัง มีโอกาสเลอะง่ายกว่า สำหรับเรื่องดีไซน์และความสวยงามนั้นขึ้นอยู่กับรสนิยมความชอบของแต่ละคน
4. ลองสะพายดูว่าโอเคไหม
ถ้าเลือกกระเป๋าสะพายข้างแบบที่ต้องการได้แล้ว อย่างน้อยก่อนจ่ายเงินซื้อก็ควรลองสะพายดูสักหน่อย ว่าสะพายแล้วดูโอเคไหม เหมาะกับเราไหม สายสะพายพอดีตัวหรือเปล่า สะพายแล้วเดินรู้สึกสบายคล่องตัวไหม ถ้าเป็นไปได้ลองเอาของใส่ไปพอประมาณให้มีน้ำหนักก็ดี จะได้รู้ว่าเวลาสะพายจริงแล้วจะรู้สึกปวดเมื่อยบริเวณหัวไหล่ไหม ถ้าลองสะพายแล้วรู้สึกโอเค ไม่ตัดขัดอะไร ก็เรียกพนักงานมาคิดเงินได้เลย
5. ซื้อใบเดียวใช้ได้ทุกสถานการณ์ก็ดีนะ
สำหรับใครที่อยากประหยัด ซื้อใบเดียวสะพายไปได้ทุกที่ทุกสถานการณ์ ไม่ต้องเสียเงินซื้อกระเป๋าหลายใบ การเลือกกระเป๋าสีพื้น ๆ อย่างสีดำก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดี เนื่องจากเป็นสีที่สามารถเข้ากันได้กับเสื้อผ้าหลากหลายสไตล์ ส่วนเรื่องขนาดของกระเป๋านั้นก็เลือกขนาดที่สามารถใส่ของที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่เราต้องการจะใส่ได้เลย
นอกจาก 5 ข้อที่กล่าวข้างต้นแล้ว ก็อาจมีปัจจัยอื่น ๆ ในการตัดสินใจเลือกซื้อกระเป๋าสะพายข้างอีก เช่น แบรนด์ของกระเป๋า หรือวัสดุหนังแท้หนังเทียม คุณภาพของเนื้อผ้า รวมทั้งความชอบในดีไซน์ของกระเป๋าใบนั้นเป็นพิเศษ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนให้ความสำคัญกับปัจจัยไหนมากเป็นพิเศษนั่นเอง
ข้อมูลจาก modernmanbags, jackgeorges, luggagesniper
ก่อนอื่นเลยควรลองถามตัวเองก่อนว่าจะซื้อกระเป๋าไปทำอะไร สะพายไปไหนบ้าง
เพื่อที่จะได้เลือกดีไซน์และสีสันให้เหมาะกับสถานการณ์ เช่น
ถ้าเอาไว้สะพายไปเรียนหรือทำงานก็อาจเลือกแบบที่ดูเรียบร้อย สีพื้น ๆ เช่น
สีดำ ขาว เทา หรือน้ำตาล อาจเลือกเป็นกระเป๋าแบบหนังแทนกระเป๋าผ้า
เพราะเข้ากับชุดเสื้อเชิ้ต กางเกงผ้ามากกว่า
แต่ถ้าเอาไว้สะพายไปเที่ยวก็อาจเลือกดีไซน์สีสันสวย ๆ เตะตา
เลือกให้เข้ากับเสื้อผ้าที่ใส่เป็นประจำ เอาตามที่ใจชอบได้เลย
สำหรับสีสันนั้นถ้าตัดสินใจไม่ถูกก็ใช้หลักการเลือกสีเดียวกับรองเท้าไปเลยก็ได้
ปัจจัยสำคัญที่จะมองข้ามไปไม่ได้เลยก็คือขนาดของกระเป๋า
ที่จะต้องไม่เล็กและไม่ใหญ่เกินไป
คือไม่เล็กเกินไปที่จะใส่ของที่เราต้องการ เช่น หนังสือ แท็บเล็ต
หรือโน้ตบุ๊ก และไม่ควรเลือกขนาดที่ใหญ่เกินความจำเป็น
เพราะจะทำให้ดูเทอะทะ เกะกะ สะพายแล้วรู้สึกไม่สะดวกไม่คล่องตัว
ส่วนช่องเก็บของช่องซิปต่าง ๆ
นั้นก็เลือกตามชอบและความต้องการได้เลยว่าจะเอาไว้ใส่อะไรบ้าง
3. แบบหนังกับแบบผ้าอันไหนดีกว่า ?
กระเป๋าแบบหนังกับแบบผ้านั้นมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน โดยกระเป่าหนังจะมีข้อดีคือความทนทาน เลอะยาก และดูแพงกว่า แต่น้ำหนักจะมากกว่าแบบผ้า ส่วนกระเป๋าผ้านั้นจะมีน้ำหนักเบากว่า แต่ก็ต้องแลกกับความทนทานน้อยกว่าแบบหนัง มีโอกาสเลอะง่ายกว่า สำหรับเรื่องดีไซน์และความสวยงามนั้นขึ้นอยู่กับรสนิยมความชอบของแต่ละคน
4. ลองสะพายดูว่าโอเคไหม
ภาพจาก Kittis Srak / Shutterstock.com
ถ้าเลือกกระเป๋าสะพายข้างแบบที่ต้องการได้แล้ว อย่างน้อยก่อนจ่ายเงินซื้อก็ควรลองสะพายดูสักหน่อย ว่าสะพายแล้วดูโอเคไหม เหมาะกับเราไหม สายสะพายพอดีตัวหรือเปล่า สะพายแล้วเดินรู้สึกสบายคล่องตัวไหม ถ้าเป็นไปได้ลองเอาของใส่ไปพอประมาณให้มีน้ำหนักก็ดี จะได้รู้ว่าเวลาสะพายจริงแล้วจะรู้สึกปวดเมื่อยบริเวณหัวไหล่ไหม ถ้าลองสะพายแล้วรู้สึกโอเค ไม่ตัดขัดอะไร ก็เรียกพนักงานมาคิดเงินได้เลย
5. ซื้อใบเดียวใช้ได้ทุกสถานการณ์ก็ดีนะ
สำหรับใครที่อยากประหยัด ซื้อใบเดียวสะพายไปได้ทุกที่ทุกสถานการณ์ ไม่ต้องเสียเงินซื้อกระเป๋าหลายใบ การเลือกกระเป๋าสีพื้น ๆ อย่างสีดำก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดี เนื่องจากเป็นสีที่สามารถเข้ากันได้กับเสื้อผ้าหลากหลายสไตล์ ส่วนเรื่องขนาดของกระเป๋านั้นก็เลือกขนาดที่สามารถใส่ของที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่เราต้องการจะใส่ได้เลย
นอกจาก 5 ข้อที่กล่าวข้างต้นแล้ว ก็อาจมีปัจจัยอื่น ๆ ในการตัดสินใจเลือกซื้อกระเป๋าสะพายข้างอีก เช่น แบรนด์ของกระเป๋า หรือวัสดุหนังแท้หนังเทียม คุณภาพของเนื้อผ้า รวมทั้งความชอบในดีไซน์ของกระเป๋าใบนั้นเป็นพิเศษ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนให้ความสำคัญกับปัจจัยไหนมากเป็นพิเศษนั่นเอง
ข้อมูลจาก modernmanbags, jackgeorges, luggagesniper