
- หูดข้าวสุก
โรคผิวหนังชนิดหนึ่งที่พบได้บ่อยและพบได้ในผู้ชายทุกวัย โดยมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อไวรัส Molluscum Contagiosum Virus หรือ เอ็มซีวี (MCV) ผ่านการสัมผัสผิวหนังที่ติดเชื้อไวรัสโดยตรง ทางเพศสัมพันธ์ หรือทางสิ่งของที่ใช้ร่วมกัน ซึ่งโรคนี้จะมีผลกับผิวหนังชั้นนอกเท่านั้น ไม่มีการเข้าสู่ร่างกายทางกระแสเลือดหรือระบบประสาทแต่อย่างใด และสามารถหายเองได้ในระยะเวลาประมาณ 2-12 เดือน
ลักษณะของหูดข้าวสุก : จะเป็มตุ่มกลม ๆ สีเหลืองหรือสีเนื้อ ผิวเรียบเป็นมันเงาและมีรอยบุ๋มตรงกลาง บางเม็ดสามารถมองเห็นเม็ดหูดสีขาวข้างในได้ โดยจะมีลักษณะขึ้นเป็นกลุ่มติดกันหลาย ๆ เม็ด ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2-5 มิลลิเมตร
อาการของหูดข้าวสุก : หูดข้าวสุกจะไม่ทำให้คนเป็นรู้สึกเจ็บหรือคัน แต่อาจทำให้ผิวหนังโดยรอบเกิดการอักเสบ บวมแดง ซึ่งอาการเหล่านี้จะหายไปเองงเมื่อรักษาหูดข้าวสุกหาย
วิธีการป้องกันและรักษา : อย่างที่บอกว่าหูดนี้สามารถหายเองได้ แต่ถ้าอาการไม่ดีขึ้นหรือติดเชื้ออย่างอื่นแทรกซ้อนควรรีบพบแพทย์ทันที ส่วนวิธีป้องกันคือ ใส่ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ ทำความสะอาดมือและของใช้ที่ใช้รว่มกับผู้อื่นให้ดี ไม่เกาหรือบีบหูดเพื่อป้องกันการแพร่กระจายไปสู่จุดอื่น ๆ เท่านี้ก็ห่างไกลจะโรคหูดข้าวสุกแล้ว
- เริม
เริมที่อวัยวะเพศ (Gential Herpes) เป็นโรคผิวหนังที่เกิดจากติดเชื้อไวรัส เฮอร์พีส์ ซิมเพล็กซ์ ชนิดที่ 2 (HSV-2) ผ่านการสัมผัสผิวหนัง ทางสิ่งของที่ใช้ร่วมกัน รวมถึงการมีเพศสัมพนธ์แบบไม่ป้องกัน ซึ่งเมื่อเป็นแล้วจะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ เพราะเชื้อยังค้างอยู่ในร่างกาย เมื่อไหร่ที่ภูมิคุ้มกันอ่อนแอลงก็สามารถกลับมาเป็นได้อีก
ลักษณะของเริม : จะเป็นตุ่มพองเล็ก ๆ มีน้ำใส ๆ อยู่ข้างใน คล้ายกับอีสุกอีใส ขนาดประมาณ 2-3 มิลิเมตร ขึ้นมาเป็นกลุ่ม ๆ และผิวหนังโดยรอบจะมีสีแดงชัดมาก
อาการของเริม : ในช่วงแรกจะมีอาการคัน ๆ ก่อน แต่พอผ่านไปสักระยะจะเริ่มมีอาการปวดแสบ บางคนมีอาการปัสสาวะแสบขัดด้วย ในกรณีที่เป็นครั้งแรกจะมีอาการที่รุนแรงมาก ถึงขั้นมีไข้ ร่างกายอ่อนเพลีย และมีอาการปวดแสบแวดร้อนได้เลย ส่วนกรณีเกิดซ้ำอาการจะเบากว่าครั้งแรก
วิธีป้องกันและรักษา : ยังไม่มีวัคซีนที่สามารถรักษาโรคนี้ให้หายขาดได้ หากเกิดเป็นเริมขึ้นมาแพทย์จะทำการจ่ายยาบรรเทาอาการร่วมกับยาต้านเชื้อไวรัส เพื่อลดความรุนแรงของโรคจนกว่าภูมิต้านทานจะแข็งแรง ส่วนวิธีการป้องกัน ควรเริ่มจากงดใช้ของร่วมกันกับผู้อื่น หลีกเลี่ยงการโดนน้ำลายหรือสัมผัสกับผู้ที่ติดเชื้อโดยตรง และส่วมถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์
- โรคหิด
โรคหิด (Scabies) เกิดจาก ตัวหิด (Scabies mite) ปรสิตขนาดเล็กที่ชอบอาศัยอยู่ในผิวหนังของคนและชอบขุดเจาะ กินเซลล์ผิวหนังทำให้เกิดเป็นตุ่มแดง ๆ ขึ้น ซึ่งสามารถติดกันผ่านทางเพศสัมพันธ์ได้ จึงจัดว่าเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อีกชนิดหนึ่ง
ลักษณะของโรคหิด : จะเป็นผื่นหรือตุ่มนูนแดง ๆ ขนาดประมาณ 1-5 มิลลิเมตร บางครั้งอาจจะเป็นโพรงนูนคดเคี้ยวไปมา ซึ่งเกิดจากการเจาะของตัวหิดนั่นเอง
อาการของโรคหิด : คนที่เป็นโรคหิดจะมีอาการคันอย่างมากโดยเฉพาะช่วงกลางคืน และอาจมีอาการแสบจากการเการ่วมด้วย
วิธีป้องกันและรักษา : โรคหิดสามารถรักษาได้ด้วยการทายา หรือครีมรักษาต่าง ๆ โดยส่วนใหญ่จะทาในช่วงกลางคืน เพราะเป็นช่วงที่ตัวหิดตื่นตัวและมีอาการคันมากที่สุด หลังจากตุ่มแดง ๆ เริ่มยุบลงแล้วควรทายาต่อไปอีกสักพัก เพื่อให้มั่นใจว่าหายขาดแล้วจริง ๆ ส่วนวิธีการป้องกันที่สำคัญเลย คือ ทำความสะอาดสิ่งของเครื่องใช้ให้ดี เพราะแม้แต่ฝาชักโครกก็สามารถติดต่อกันได้ งดสัมผัสหรือใกล้ชิดกับผู้ที่เป็นโรค และงดมีเพศสัมพันธ์กับคนที่ไม่ใช้คู่นอน
ลองเช็กกันดูนะครับว่าเป็นโรคข้างต้นหรือเปล่า หากพบว่าใช้ก็ลองนำวิธีรักษาและป้องกันไปใช้ดูได้นะครับ แต่จริง ๆ แล้วตุ่มที่อัณฑะสามารถเป็นได้จากหลายโรค ซึ่งหากพบอาการแปลก ๆ ควรไปพบแพทย์ผิวหนังจะเป็นการดีที่สุด ยังไงก็อย่าลืมนำข้อมูลเหล่านี้ไปบอกคนรอบตัวกันต่อด้วยนะครับ
ข้อมูลจาก : medthai.com, pobpad.com, haamor.com