8 วิธีปรับแต่งให้ Windows 10 ทำงานได้เร็วขึ้น แก้ปัญหาเครื่องช้าเครื่องอืดให้หมดไป
ปัจจุบันเริ่มมีผู้ใช้ Windows 10 กันมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งความจริงแล้ว Windows 10 ถือว่าเป็นระบบปฏิบัติการที่ค่อนข้างเสถียรและทำงานได้เร็ว แต่ก็อาจมีบางคนที่ใช้คอมพิวเตอร์เก่า สเปคต่ำ หรือบางคนอาจใช้เครื่องสเปคแรงแต่กลับรู้สึกว่าเครื่องช้า ไม่ทันใจ ซึ่งมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย โดยในวันนี้ทางเว็บไซต์ Make use of ก็ได้นำสารพัดวิธีที่จะช่วยให้ Windows 10 นั้นทำงานได้เร็วขึ้นมาแนะนำกัน
1. เปิด Game Mode
เข้าไปที่ Settings > Gaming > Game Mode
แล้วเลือกเปิด ถึงแม้ว่าหลัก ๆ มันจะช่วยให้เครื่องทำงานเร็วขึ้นเฉพาะในการเล่นเกมเท่านั้น แต่สำหรับผู้ที่ใช้งานโปรแกรมหนัก ๆ
โดยเฉพาะโปรแกรมที่ใช้จีพียูในการประมวลผล เช่น โปรแกรมตัดต่อวิดีโอ
การเปิด Game Mode ก็อาจช่วยได้บ้างไม่มากก็น้อย
2. ปิด Visual Effects
เข้าไปที่
System > Advanced system settings > Advanced > Performance
> Settings จากนั้นให้เลือก Adjust for best performance เพื่อปิด
Visual Effects ทั้งหมด ซึ่งจะช่วยให้เครื่องทำงานได้ลื่นไหลขึ้น
แต่ก็ต้องแลกกับความสวยงามวิ้งวับที่น้อยลง3. ตั้งค่า Power Options
หากเข้าไปที่
Control Panel > Power Options จะพบว่ามีให้เลือกได้ 3 โหมด ได้แก่
Balanced, High performance และ Power saver ซึ่งการเลือก High performance
นั้นจะทำให้เครื่องทำงานด้วยทรัพยากรสูงสุด
ส่งผลให้ทำงานได้เร็วและลื่นขึ้น
แต่ก็ต้องแลกด้วยการเปลืองไฟหรือแบตเตอรี่หมดเร็ว
4. ปิด Startup Programs
มีโปรแกรมจำนวนมากที่ถูกเปิดทิ้งแบบ
Startup ไว้ตลอดเวลาตั้งแต่ตอนติดตั้ง
ซึ่งหลายโปรแกรมก็ไม่ค่อยได้ใช้งานเป็นประจำ
และก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องตั้งไว้ให้ Startup ทุกครั้งที่เปิดเครื่อง
โดยสามารถเข้าไปเลือกปิดได้ด้วยการกด Ctrl + Alt + Delete แล้วเลือก Task
Manager > Startup
5. แก้ปัญหาอินเทอร์เน็ตช้า
ในบางกรณีความช้าของคอมพิวเตอร์อาจเกิดจากอินเทอร์เน็ตช้าหรือมีปัญหา
เช่น เปิดเว็บช้า ดาวน์โหลดไฟล์ช้า ซึ่งถ้าใช้อินเทอร์เน็ตแบบ Wi-Fi
ก็ควรลองเช็กว่า Channel ที่ใช้อยู่นั้นชนกับของคนอื่นหรือไม่ อยู่ห่างจาก
Router หรือไม่ หรือไม่ก็อาจมีปัญหาที่ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตเอง
ในกรณีที่ Wi-Fi มีปัญหา ผู้ใช้อาจเลือกเปลี่ยนไปใช้สาย Lan หรืออุปกรณ์
Power Line แทนถ้าสามารถทำได้
6. ตั้งค่า Windows Update
เปิด
Start Menu แล้วพิมพ์ค้นหา Windows Update settings จากนั้นให้เลือก
Update settings > Change active hours
เพื่อตั้งเวลาการอัปเดทให้เป็นช่วงที่เราไม่ค่อยใช้งาน
เพื่อไม่ให้การอัปเดทมากระทบการใช้งานของเรา
นอกจากนี้ก็ให้เข้าไปที่
Windows Settings (Windows Key + I) > Network & Internet >
Wi-Fi จากนั้นเลือกอินเทอร์เน็ตที่ใช้งานอยู่ แล้วเข้าไปที่ Metered
connection เพื่อปรับให้เป็น On เพื่อไม่ให้การอัปเดท Windows
ดึงแบนวิธอินเทอร์เน็ตจากการดาวน์โหลดอัปเดท
ซึ่งมันจะเลือกดาวน์โหลดอัปเดทเฉพาะส่วนที่จำเป็นเท่านั้น เช่น
การอัปเดทระบบความปลอดภัย
7. ใช้โปรแกรมเสริมช่วย
โปรแกรมบางอย่างก็สามารถช่วยให้คอมพิวเตอร์ทำงานเร็วขึ้นได้
เช่น โปรแกรม RAM Disk สำหรับสร้าง Drive โดยใช้พื้นที่จาก RAM
ซึ่งจะทำงานได้เร็วกว่าฮาร์ดดิสก์, โปรแกรมสแกนมัลแวร์ต่าง ๆ
เพื่อกำจัดมัลแวร์ซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้เครื่องช้า และโปรแกรม Registry
Cleaner ที่จะช่วยล้าง Registry และไฟล์ขยะที่ไม่จำเป็นออกไป8 ใช้โปรแกรมเบา ๆ ทดแทนโปรแกรมเดิม หลายโปรแกรมที่ใช้อยู่นั้นอาจเป็นโปรแกรมที่หนักเครื่องเกินความจำเป็น
ซึ่งแท้จริงแล้วยังมีโปรแกรมอื่น ๆ
ที่เบาและทำงานได้เร็วกว่าและสามารถใช้งานแทนกันได้ เช่น โปรแกรม Sumatra
PDF ที่ใช้สำหรับเปิดไฟล์ PDF, โปรแกรม VLC Player
สำหรับเล่นเพลงและวิดีโอ, โปรแกรม Chrome สำหรับการเปิดเว็บไซต์ และโปรแกรม
qBittorrent สำหรับโหลดบิท
ภาพจาก
makeuseof