
การออกกำลังกายถือเป็นการลดน้ำหนักที่ดีอย่างหนึ่ง แต่ไม่ใช่ว่าท่าออกกำลังกายทุกท่าจะช่วยให้น้ำหนักลดลง มีหนุ่ม ๆ จำนวนไม่น้อยเลยที่เข้าใจผิดแบบนี้ เพราะตามหลักแล้วการลดน้ำหนักจะต้องควบคุมอาหาร ออกกำลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอควบคู่กันไป แต่หากควบคุมอาหารอย่างดีก็แล้ว พักผ่อนเต็มที่ก็แล้ว น้ำหนักก็ยังเท่าเดิมอยู่ นั่นแสดงว่าคุณออกกำลังกายในท่าที่ไม่ถูกต้องอยู่นั่นเอง
และนี่คือ 5 ท่ายอดฮิตที่คนมักเข้าใจผิดคิดว่าเป็นท่าที่ใช้ลดน้ำหนัก ลองดูกันครับว่ามีท่าอะไรบ้าง

ท่า Calf Raises หรือเรียกง่าย ๆ คือการยืนบนที่สูงกว่าพื้นปกติด้วยปลายเท้าแล้วพยายามเขย่งตัวขึ้น-ลง หนุ่ม ๆ หลายคนมักเข้าใจผิดว่าเป็นท่าสำหรับลดไขมันที่ขา แต่ความจริงแล้วท่านี้มีไว้สำหรับสร้างกล้ามเนื้อที่บริเวณน่อง ไม่มีผลต่อการลดน้ำหนักแต่อย่างใด

ท่าที่ 2 Side Twists/Waist Twister
การเล่นจานทวิสต์หรือเครื่องหมุนเอว เป็นการปรับสรีระที่บริเวณเอวและหน้าท้องให้ดูสวยงามเท่านั้น ไม่ได้ช่วยเผาผลาญพลังงานหรือลดน้ำหนัก หากเล่นเป็นระยะเวลานานติดต่อกันหลาย ๆ วัน อาจจะส่งผลกระทบต่อกระดูกสันหลังและมีปัญหาปวดที่บริเวณเอวได้

การยกเวท หรือยกดัมเบลหนัก ๆ หลาย ๆ ครั้ง ทำให้ผู้ออกกำลังกายรู้สึกเหนื่อยล้าและคิดว่าเป็นท่าที่เผาผลาญพลังงานได้ดี แต่ความจริงแล้ว Bicep Curls เป็นแค่ท่าบริหารกล้ามเนื้อแขนให้มีรูปร่างที่ใหญ่และสมส่วนเท่านั้น

ท่าที่ 4 Side Leg Raise
การยืนหรือนอนโดยทิ้งขาข้างหนึ่งให้ติดพื้น แล้วกางขาอีกข้างออกแกว่งไปแกว่งมา เป็นท่าที่ช่วยกระชับสะโพกและต้นขา แต่แทบจะไม่ได้ช่วยเรื่องการเผาผลาญพลังงานเลย เพราะเป็นท่าที่ใช้แรงน้อยและขยับเฉพาะส่วน ซึ่งจริง ๆ จัดว่าเป็นท่าวอร์มอัพซะด้วยซ้ำ

ท่าที่ 5 Crunches/Sit up
ท่าสำหรับเสริมสร้างกล้ามเนื้อหน้าท้องเหล่านี้ไม่ได้ช่วยให้ไขมันบริเวณหน้าท้องลดลงเลย และต่อให้เล่นหนักแค่ไหนก็ไม่มีวันได้เห็นกล้ามหน้าท้อง หากหนุ่ม ๆ ไม่กำจัดไขมันในส่วนนั้นออกให้หมดเสียก่อน แนะนำให้เอาเวลาไปเผาผลาญพลังงานเพื่อลดปริมาณไขมันสะสมให้เหลือน้อยที่สุดก่อน แล้วค่อยกลับมาเล่นท่านี้จะดีกว่า
ท่าที่ 1 Burpees
ใช้ฝ่ามือทั้งสองข้างดันพื้นไว้ แล้วทิ้งขาทั้งสองข้างไปด้านหลังเหมือนท่าวิดพื้น งอข้อศอกปล่อยให้หน้าอกลงมาเกือบถึงพื้นแล้วดันตัวขึ้นไปยืนด้วยความรวดเร็วแล้วกระโดดตบก่อนกลับมายืนในท่าปกติ ทำซ้ำประมาณ 8-12 ครั้ง วันละ 3 เซต จะช่วยเผาผลาญพลังงานได้มากเลยทีเดียว
ท่าที่ 2 Explosive Lunges
ท่านี้เริ่มต้นด้วยการย่อตัวพร้อมก้าวขาขวาไปข้างหน้า งอเข่าทำมุม 90 องศา แต่อย่าให้เข่าข้างซ้ายติดพื้น ทิ้งไว้ 1 วินาที หลังจากนั้นกระโดดสลับขากลางอากาศให้ขาซ้ายมาอยู่ด้านหน้าแทน ทำสลับกันแบบนี้จนครบ 1 นาที วันละ 3 เซต รับรองน้ำหนักลดแน่
ท่าที่ 3 Squats
เทรนเนอร์ส่วนใหญ่มักจะแนะนำให้ทำท่านี้ เพราะเป็นท่าที่มีประสิทธิภาพสูงมากในการเผาผลาญพลังงาน ง่าย ๆ แค่เริ่มต้นด้วยการยืนกางขาให้กว้างเท่ากับไหล่ ย่อตัวลงพร้อมงอเข่าให้ต้นขาขนานกับพื้น เหมือนคุณกำลังนั่งเก้าอี้ลมอยู่ จากนั้นดันตัวเองขึ้นกลับสู่สภาพเดิม โดยในช่วงแรกมือทั้งสองข้างอาจจะกางออกหรือกุมไว้ที่ท้ายทอย หากชำนาญแล้วจะถือดัมเบลไว้เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพก็ได้ ทำแค่วันละ 3 เซต เซตละ 15 ครั้งก็เกินพอ
ท่าที่ 4 Mountain Climbers
เริ่มต้นด้วยการตั้งท่าเตรียมวิดพื้น งอเข่าข้างขวาแล้วดันขึ้นมาให้ใกล้หน้าอกมากที่สุดอย่าให้ปลายเท้าติดพื้น หลังจากนั้นดันขาขวากลับไปที่เก่าพร้อมกับดึงเข่าซ้ายให้มาชิดหน้าอกแทน ทำสลับกันไปอย่างต่อเนื่องและค่อย ๆ เพิ่มความเร็วขึ้นเมื่อมีความชำนาญ ทำแค่เพียง 3 เซต เซตละ 1 นาที ก็ช่วยเผาผลาญพลังงานได้เยอะแล้วสำหรับท่านี้
ท่าที่ 5 Jump Rope
สุดยอดท่าคลาสสิก Jump Rope หรือที่ภาษาบ้านเราเรียกว่าท่ากระโดดเชือก เป็นท่าที่นักมวยส่วนใหญ่ใช้เผาผลาญพลังงานเพื่อลดน้ำหนักก่อนขึ้นชก เป็นท่าที่เล่นง่ายแต่มีประสิทธิภาพสูงมาก ซึ่งหลาย ๆ คนมักมองข้ามท่านี้ไป
เท่านี้ก็ทราบกันแล้วนะครับว่าท่าแบบไหนบ้างที่ไม่ช่วยลดน้ำหนัก และท่าแบบไหนที่มีประสิทธิภาพสูง อย่างไรก็ตามการลดน้ำหนักต้องออกกำลังกาย พร้อมกับควบคุมอาหารและพักผ่อนให้เพียงพอด้วยนะครับ เพราะจะทำให้คุณน้ำหนักลดลงและไม่เสียสุขภาพอีกด้วย
ข้อมูลจาก : mensxp.com, fitnessmagazine.com
ภาพจาก : ยูทูบดอทคอม โพสต์โดย CrossFit, Times Living, BananaManaTV, Performance U, Bloom to Fit