
เมื่ออายุมากขึ้น สิ่งต่าง ๆ รอบตัวย่อมเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิต สไตล์การแต่งตัว หรือความเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ โดยสิ่งเหล่านี้ก็ควรจะเหมาะกับวัยของตัวเองด้วย ไม่เว้นแม้กระทั่งการเลือกน้ำหอม ควรเลือกกลิ่นให้เหมาะกับช่วงอายุเช่นกัน หากหนุ่ม ๆ คนไหนยังไม่แน่ใจว่าต้องเลือกน้ำหอมกลิ่นแนวไหนมาใช้ งั้นลองมาดูวิธีที่เรานำมาฝากกันก่อนเลยดีกว่าครับ



ผู้ชายที่อยู่ในช่วงอายุระหว่างนี้ นับว่าเป็นช่วงเวลาที่ดี เพราะสามารถเลือกใช้น้ำหอมกลิ่นไหนก็ได้ โดยไม่ต้องกังวลใด ๆ ซึ่งต่างจากวัยทำงานที่ต้องเลือกกลิ่นให้เหมาะกับตัวเองและสภาพแวดล้อมในออฟฟิศ แต่ควรเน้นกลิ่นที่ให้ความหอมสดชื่น ด้วยกลิ่นของเลมอน, มินต์, และเนโรลี ซึ่งเป็นน้ำมันหอมที่สกัดจากดอกส้ม ที่สำคัญ ไม่ควรเลือกกลิ่นที่หวือหวาเกินไป
กลิ่นที่แนะนำ : น้ำหอม Davidoff Cool Water ขนาด 125 มิลลิลิตร ราคา 37 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1,300 บาท) และ Gucci Guilty Pour Homme ราคาขาย 70 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2,450 บาท) สำหรับขนาด 50 มิลลิลิตร



สำหรับช่วงอายุ 21-25 ปี เป็นช่วงเวลาที่หนุ่ม ๆ กำลังเติบโตขึ้นและเริ่มเข้าสู่วัยทำงานแล้ว น้ำหอมที่ใช้ควรเป็นแนวสปอร์ตที่คงความสดชื่น ให้กลิ่นหอม ๆ ที่แสดงถึงความคล่องแคล่ว ความทันสมัย และความมั่นใจในขวดเดียว ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นของเครื่องเทศ ซิตรัส และลาเวนเดอร์
กลิ่นที่แนะนำ : น้ำหอมที่ดูเหมาะกับผู้ชายวัยนี้ อาทิ Prada Luna Rossa Sport ขายในราคา 85 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3,000 บาท) และ Bleu de Chanel ราคา 110 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3,850 บาท) สำหรับขนาดเท่ากันที่ 100 มิลลิลิตร



คุณผู้ชายที่อยู่ในช่วงอายุนี้ เป็นช่วงที่สไตล์การแต่งตัวจะเปลี่ยนไป เพราะมีหน้าที่การงานที่มั่นคง ครั้นจะให้ใช้น้ำหอมกลิ่นฉุน ๆ ก็คงไม่เหมาะนัก
กลิ่นที่แนะนำ : ควรเลือกน้ำหอมที่มีกลิ่นของเปลือกไม้ผสมกับเครื่องเทศ เช่น Guerlain L\'Homme Ideal ซึ่งมีราคาขายอยู่ที่ 90 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3,150 บาท) และ Terre d\'Hermès ในราคา 105 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3,700 บาท) สำหรับขนาด 100 มิลลิลิตร ก็จะช่วยให้ดูเป็นผู้ชายสุขุมมากขึ้นแล้ว



ช่วงอายุ 33-45 ปี เป็นช่วงเวลาเข้าสู่วัยกลางคนสำหรับผู้ชาย แต่แน่นอนว่าหลายคนคงไม่อยากให้ตัวเองดูแก่ไปตามอายุอยู่แล้ว ก็ควรเลือกน้ำหอมที่แสดงถึงความเป็นผู้ใหญ่ที่มีความทันสมัยในตัว ด้วยกลิ่นของไม้กฤษณา กลิ่นหนัง และซิตรัส
กลิ่นที่แนะนำ : น้ำหอมที่มีส่วมผสมของกลิ่นเหล่านี้ เช่น Acqua di Parma Colonia Oud ราคา 185 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 6,500 บาท) และ Tom Ford Oud Wood ราคาขายที่ 300 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 10,500 บาท) ในปริมาณเท่ากันที่ 100 มิลลิลิตร



คุณผู้ชายที่มีอายุ 46 ปีขึ้นไป นอกจากจะต้องแต่งตัวให้เนี้ยบด้วยการใส่สูทผูกไทแล้ว การเลือกกลิ่นของน้ำหอมให้เหมาะก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นเดียวกัน โดยควรเลือกน้ำหอมที่มีกลิ่นคลาสสิกเพื่อให้มีลุคที่ดูสมวัย ทั้งกลิ่นโทแบกโก เปลือกไม้ และโกโก้
กลิ่นที่แนะนำ : มีหลายยี่ห้อ ไม่ว่าจะเป็น Tom Ford Tobacco Vanille ในราคา 220 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 7,700 บาท) และ Kilian Light My Fire ที่มีราคาขาย 285 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 10,000 บาท) สำหรับขนาด 50 มิลลิลิตร
เมื่อได้ทราบอย่างนี้แล้ว หนุ่ม ๆ คนไหนอยากได้น้ำหอมที่ให้กลิ่นที่เหมาะกับวัยของตัวเอง ก็นำเคล็ดลับข้างต้นไปใช้ประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อน้ำหอมได้เลยครับ
ภาพจาก tomford, johnlewis, fragrantica, zinodavidoff, gucci, prada, chanel, guerlain
ข้อมูลจาก
