วิธีแก้เท้าเหม็น ทำยังไง แนะนำ 5 วิธีกำจัดกลิ่นเท้าและกลิ่นไม่พึงประสงค์อย่างมีประสิทธิภาพ เคล็ดไม่ลับที่คนมีกลิ่นเท้าควรอ่าน
1. ล้างเท้าให้สะอาดและไม่ปล่อยให้เท้าอับชื้น
วิธีป้องกันกลิ่นเท้าที่ดีที่สุดคือต้องดูแลให้เท้าแห้งสะอาดอยู่เสมอ แนะนำให้หมั่นตัดเล็บและขัดผิวเท้าเป็นประจำ เพื่อไม่ให้เป็นที่สะสมของแบคทีเรีย สาเหตุของการเกิดกลิ่น ล้างเท้าด้วยน้ำอุ่นทุกวัน พร้อมใช้สบู่ขัดให้ทั่วเท้า ตั้งแต่ซอกนิ้วไปจนถึงบริเวณเหนือตาตุ่ม เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกให้สิ้นซาก เมื่อล้างเสร็จแล้วก็ไม่ควรปล่อยให้เท้าเปียกเป็นเวลานาน ๆ รีบหาผ้าขนหนูสะอาด ๆ มาเช็ดเท้าให้แห้ง จากนั้นทาแป้งที่ช่วยป้องกันเชื้อราปิดท้ายด้วย
2. ใส่ถุงเท้าเสมอ ถ้าเป็นไปได้
คนที่ไม่ชอบใส่ถุงเท้าอาจจะต้องเปลี่ยนความคิดใหม่แล้วล่ะ ถ้าไม่อยากให้เท้ามีกลิ่นไม่พึงประสงค์ เนื่องจากถุงเท้าที่ใส่สามารถช่วยดูดซับเหงื่อที่ร่างกายผลิตออกมาได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าคุณใส่ชุดที่ไม่ควรใส่ร่วมกับถุงเท้า แนะนำให้ทาผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อบริเวณฝ่าเท้าและง่ามนิ้วเสมอเพื่อป้องกันความอับชื้น
3. ดูแลจัดเก็บรองเท้าให้เรียบร้อยและไม่ใส่คู่เดิมติดต่อกัน
ความชื้นเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดแบคทีเรียและกลิ่นเท้า ฉะนั้นอย่าเก็บรองเท้าในที่มืดหรือที่อับอย่างเด็ดขาด ควรเก็บรองเท้าไว้ในที่ที่อากาศถ่ายเทได้ดี อย่าลืมโรยแป้งที่ช่วยป้องกันเชื้อราในรองเท้าทั้งก่อนและหลังสวมใส่เสมอด้วย หลังจากใส่รองเท้าเสร็จก็ควรปล่อยให้รองเท้าแห้งอย่างน้อย 24 ชั่วโมง เพื่อกำจัดความชื้นออกให้หมด หากจำเป็นต้องใส่รองเท้าแบบเดิมติดต่อกันหลายวัน แนะนำให้หาอีกคู่ที่คล้ายกันมาสลับใส่ เพื่อให้แน่ใจว่ารองเท้าทุกคู่มีเวลาให้แห้งก่อนถูกหยิบมาใส่อีกครั้ง
4. ใช้แอลกอฮอล์เช็ดและฉีดสเปรย์ระงับเหงื่อ
ถ้าเกิดเท้าคุณดันมีกลิ่นเหม็นเข้าซะแล้ว วิธีแก้ให้นำผ้าขนหนูชุบแอลกอฮอล์หรือวอดก้าให้ชุ่ม แล้วนำมาเช็ดเท้าให้ทั่วทุกซอกทุกมุมเพื่อฆ่าเชื้อโรคและกำจัดกลิ่น สำหรับใครที่เหงื่อออกมากผิดปกติ แนะนำให้ลองหาสเปรย์ระงับเหงื่อมาฉีดพ่นบริเวณเท้าดู วิธีนี้จะช่วยระงับให้เหงื่อไหลน้อยลงและช่วยกำจัดกลิ่นได้ดีอีกด้วย
หนุ่ม ๆ อย่างเราถ้าไม่อยากให้คนรอบข้างร้องยี้เพราะไม่อยากอยู่ใกล้ นอกจากจะต้องหมั่นอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายแล้ว เรื่องของกลิ่นเท้า ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ควรให้ความสำคัญด้วย เพราะต่อให้หน้าดี หุ่นเป๊ะ แต่งตัวเนี้ยบ แต่ดันเป็นผู้ชายเท้าเหม็นแบบนี้ไม่มีใครอยากเข้าใกล้คุณแน่นอน วันนี้กระปุกดอทคอมจึงได้รวบรวม 5 วิธีแก้เท้าเหม็น มาแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้ลองนำไปใช้กัน รับประกันเลยว่าวิธีเหล่านี้จะช่วยลดกลิ่นเท้าให้เบาลงได้อย่างแน่นอน
เท้าเหม็น เกิดจากอะไร ?
1. การหมักหมมของเหงื่อและแบคทีเรีย
เหงื่อและเชื้อแบคทีเรียต่าง ๆ เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้เท้าเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ โดยเฉพาะในคนที่มีเหงื่อออกเยอะ ชอบเล่นกีฬา หรือทำงานกลางแจ้งเป็นประจำ เมื่อเกิดการหมักหมมก็จะทำให้มีกลิ่นเหม็นติดเท้าได้
2. รองเท้าและถุงเท้าระบายอากาศได้ไม่ดี
การสวมรองเท้าและถุงเท้าที่ระบายอากาศได้ไม่ค่อยดี จะทำให้เท้ามีเหงื่อออกมากขึ้น ซ้ำยังทำให้เกิดความอับชื้น เกิดเชื้อราและแบคทีเรียหมักหมม จนเกิดกลิ่นเหม็นได้ในที่สุด
3. การรับประทานอาหาร
ผู้ที่ชอบรับประทานที่มีรสเผ็ดจัด อาหารที่มีกลิ่นแรง รวมทั้งเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนอย่างเช่น กาแฟ หรือยาบางชนิด จะส่งผลให้มีเหงื่อออกมากกว่าปกติ และนั่นก็ส่งผลให้เกิดกลิ่นเท้าได้เช่นกัน
4. ฮอร์โมนและพันธุกรรม
การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในกายก็สามารถทำให้เท้ามีกลิ่นเหม็นได้เช่นกัน โดยเฉพาะในช่วงวัยรุ่นที่ร่างกายและฮอร์โมนกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลง จึงมีโอกาสที่เท้าจะเหม็นมากกว่าปกติ รวมทั้งพันธุกรรมที่ส่งผลต่อต่อมเหงื่อที่เท้า ทำให้มีภาวะเหงื่อออกมาก
วิธีแก้เท้าเหม็น
วิธีป้องกันกลิ่นเท้าที่ดีที่สุดคือต้องดูแลให้เท้าแห้งสะอาดอยู่เสมอ แนะนำให้หมั่นตัดเล็บและขัดผิวเท้าเป็นประจำ เพื่อไม่ให้เป็นที่สะสมของแบคทีเรีย สาเหตุของการเกิดกลิ่น ล้างเท้าด้วยน้ำอุ่นทุกวัน พร้อมใช้สบู่ขัดให้ทั่วเท้า ตั้งแต่ซอกนิ้วไปจนถึงบริเวณเหนือตาตุ่ม เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกให้สิ้นซาก เมื่อล้างเสร็จแล้วก็ไม่ควรปล่อยให้เท้าเปียกเป็นเวลานาน ๆ รีบหาผ้าขนหนูสะอาด ๆ มาเช็ดเท้าให้แห้ง จากนั้นทาแป้งที่ช่วยป้องกันเชื้อราปิดท้ายด้วย
2. ใส่ถุงเท้าเสมอ ถ้าเป็นไปได้
คนที่ไม่ชอบใส่ถุงเท้าอาจจะต้องเปลี่ยนความคิดใหม่แล้วล่ะ ถ้าไม่อยากให้เท้ามีกลิ่นไม่พึงประสงค์ เนื่องจากถุงเท้าที่ใส่สามารถช่วยดูดซับเหงื่อที่ร่างกายผลิตออกมาได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าคุณใส่ชุดที่ไม่ควรใส่ร่วมกับถุงเท้า แนะนำให้ทาผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อบริเวณฝ่าเท้าและง่ามนิ้วเสมอเพื่อป้องกันความอับชื้น
3. ดูแลจัดเก็บรองเท้าให้เรียบร้อยและไม่ใส่คู่เดิมติดต่อกัน
ความชื้นเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดแบคทีเรียและกลิ่นเท้า ฉะนั้นอย่าเก็บรองเท้าในที่มืดหรือที่อับอย่างเด็ดขาด ควรเก็บรองเท้าไว้ในที่ที่อากาศถ่ายเทได้ดี อย่าลืมโรยแป้งที่ช่วยป้องกันเชื้อราในรองเท้าทั้งก่อนและหลังสวมใส่เสมอด้วย หลังจากใส่รองเท้าเสร็จก็ควรปล่อยให้รองเท้าแห้งอย่างน้อย 24 ชั่วโมง เพื่อกำจัดความชื้นออกให้หมด หากจำเป็นต้องใส่รองเท้าแบบเดิมติดต่อกันหลายวัน แนะนำให้หาอีกคู่ที่คล้ายกันมาสลับใส่ เพื่อให้แน่ใจว่ารองเท้าทุกคู่มีเวลาให้แห้งก่อนถูกหยิบมาใส่อีกครั้ง
4. ใช้แอลกอฮอล์เช็ดและฉีดสเปรย์ระงับเหงื่อ
ถ้าเกิดเท้าคุณดันมีกลิ่นเหม็นเข้าซะแล้ว วิธีแก้ให้นำผ้าขนหนูชุบแอลกอฮอล์หรือวอดก้าให้ชุ่ม แล้วนำมาเช็ดเท้าให้ทั่วทุกซอกทุกมุมเพื่อฆ่าเชื้อโรคและกำจัดกลิ่น สำหรับใครที่เหงื่อออกมากผิดปกติ แนะนำให้ลองหาสเปรย์ระงับเหงื่อมาฉีดพ่นบริเวณเท้าดู วิธีนี้จะช่วยระงับให้เหงื่อไหลน้อยลงและช่วยกำจัดกลิ่นได้ดีอีกด้วย
5. แช่เท้าในน้ำเกลือหรือน้ำส้มสายชู
การแช่เท้าในน้ำเกลือ น้ำส้มสายชู รวมทั้งชาหรือเบกกิ้งโซดา สามารถช่วยลดกลิ่นเท้าได้ โดยน้ำเกลือจะช่วยดึงความชื้นออกจากผิวหนัง น้ำส้มสายชูจะช่วยให้เท้าแห้ง ยับยั้งการเกิดแบคทีเรีย ชาจะช่วยกระชับรูขุมขน ทำให้เหงื่อออกน้อยลง ส่วนเบกกิ้งโซดานั้นจะช่วยกำจัดเชื้อราและแบคทีเรียที่เท้า
6. ถ้าเกินเยียวยา ควรรีบไปพบแพทย์
หากลองมาทุกวิธีแล้ว กลิ่นเท้าเจ้ากรรมก็ไม่หายไปสักที แนะนำให้รีบไปพบแพทย์ผิวหนังเลยครับ เพื่อหาสาเหตุและวิธีการแก้ที่ถูกจุดที่สุด รวมทั้งขอคำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์กำจัดกลิ่นต่าง ๆ มาใช้ด้วย จะได้ทราบวิธีแก้และป้องกันในทีเดียวเลย
ใครที่กำลังประสบปัญหาเท้าเหม็นอยู่ละก็ ลองทำตามคำแนะนำข้างต้นดูนะ เผื่อจะช่วยให้ปัญหากลิ่นเท้าหมดไป ส่วนใครที่ยังไม่เจอปัญหาดังกล่าวก็จะได้หลีกเลี่ยงไว้ ไม่งั้นคงไม่มีใครหน้าไหนอยากอยู่ใกล้คุณแน่
ขอบคุณข้อมูลจาก : prevention.com, wikihow.com
6. ถ้าเกินเยียวยา ควรรีบไปพบแพทย์
หากลองมาทุกวิธีแล้ว กลิ่นเท้าเจ้ากรรมก็ไม่หายไปสักที แนะนำให้รีบไปพบแพทย์ผิวหนังเลยครับ เพื่อหาสาเหตุและวิธีการแก้ที่ถูกจุดที่สุด รวมทั้งขอคำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์กำจัดกลิ่นต่าง ๆ มาใช้ด้วย จะได้ทราบวิธีแก้และป้องกันในทีเดียวเลย
ใครที่กำลังประสบปัญหาเท้าเหม็นอยู่ละก็ ลองทำตามคำแนะนำข้างต้นดูนะ เผื่อจะช่วยให้ปัญหากลิ่นเท้าหมดไป ส่วนใครที่ยังไม่เจอปัญหาดังกล่าวก็จะได้หลีกเลี่ยงไว้ ไม่งั้นคงไม่มีใครหน้าไหนอยากอยู่ใกล้คุณแน่
ขอบคุณข้อมูลจาก : prevention.com, wikihow.com