ชนาธิป สรงกระสินธ์ ประวัติเรื่องราวน่าสนใจของเจ้าของฉายา เมสซี่เจ กองกลางตัวเก่งทีมชาติไทย ผู้สร้างประวัติศาสตร์ให้กับวงการฟุตบอลบ้านเรา

ภาพจาก : Instagram jaychanathip
ชนาธิป สรงกระสินธ์ นักฟุตบอลร่างเล็กลีลาเหลือร้าย เจ้าของฉายา เมสซี่เจ ซึ่งบอกเลยว่ามีดีเกินตัว โดยเป็นผู้เล่นคนสำคัญที่พาทีมชาติไทยชุดใหญ่คว้าแชมป์ต่าง ๆ จนกลับมาเป็นเจ้าอาเซียนอีกครั้ง ทั้งยังเป็นคนที่สร้างประวัติศาสตร์ต่าง ๆ ให้กับวงการฟุตบอลไทยอีกด้วย และนอกจากเรื่องราวด้านกีฬาที่เป็นที่สนใจแล้ว ชีวิตส่วนตัวของ เจ ชนาธิป ก็เป็นที่จับตามองเช่นกัน กระปุกดอทคอมจึงขอนำเรื่องราวน่าสนใจของ เมสซี่เจ ชนาธิป มาให้รู้จักกันมากขึ้นครับ
1. เจ ชนาธิป ประวัติ
2. เจ ชนาธิป กับเส้นทางการเป็นนักฟุตบอล

ภาพจาก : Instagram jaychanathip
3. เจ ชนาธิป เล็กพริกขี้หนู
ด้วยความสูงแค่ 158 เซนติเมตร เจ ชนาธิป เคยถูกปฏิเสธร่วมทีมทีโอที เอฟซี ด้วยเหตุผลว่าตัวเล็กไป แต่สุดท้ายก็ได้เข้าทีมเยาวชนของสโมสรดังแห่งลีกไทยอย่าง บีอีซี เทโรศาสน และสร้างผลงานเพียบ โดยเขาได้แจ้งเกิดในวงการบอลไทยในลีกซูซูกิ คัพ 2012 ด้วยวัย 19 ปี กับตำแหน่งปีกซ้าย โชว์ฟอร์มการเล่นได้อย่างน่าประทับใจ และพาทีมชาติไทยทวงบัลลังก์แชมป์ในรายการเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014 ได้สำเร็จ รวมถึงนำทีมชาติคว้าแชมป์อีกครั้งในเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016 ทั้งยังเป็นนักเตะอาเซียนคนแรกในประวัติศาสตร์ที่สามารถคว้าตำแหน่ง MPV หรือผู้เล่นยอดเยี่ยม ในการแข่งขันเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ได้ติดกัน 2 สมัยซ้อน จากการโชว์ลีลาอันน่าประทับใจได้ตลอดการแข่งขันทั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมา
4. ฉายา “เมสซี่เจ” นี้มีที่มา
ด้วยการมีรูปร่างที่เล็กแต่มีทักษะฟุตบอลที่ดี มีความคล่องแคล่วปราดเปรียว มีความเข้าใจเกมสูง ชนาธิปจึงได้รับฉายาว่า เมสซี่เจ ตามชื่อของลิโอเนล เมสซี่ นักฟุตบอลชาวอาร์เจนตินา เลยเอาชื่อ เมสซี่+เจ กลายเป็น เมสซี่เจ แต่เอาเข้าจริง ๆ เจเคยให้สัมภาษณ์ว่าไม่ค่อยชอบให้คนเรียกเขาว่าเมสซี่เจเท่าไร เพราะเขาก็มีชื่อจริง ๆ ของตัวเอง และลีลาการเล่น การคิด และทำ ก็เป็นแบบ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ต่างหาก แต่อย่างน้อยก็ยินดีที่มันเป็นชื่อที่เรียกด้วยความชื่นชมยกย่อง
5. เจ ชนาธิป ต้องฝึกเล่นเท้าซ้าย
ด้วยความที่เดิมเป็นคนถนัดขวาและใช้เท้าขวาเล่นฟุตบอลเป็นหลัก เขาจึงถูกปลูกฝังให้ฝึกเท้าซ้ายเพื่อให้มีคุณภาพเทียบเท่ากับเท้าข้างขวา เนื่องจากมองว่าถ้าสามารถหนีคู่แข่งได้หลายทิศทางทั้งเท้าซ้ายและขวาจะได้ประโยชน์กว่าจากการเล่นฟุตบอลที่เท้าถนัดข้างเดียว และเมื่อประกอบกับการเคลื่อนไหวแบบ 360 องศา และการฝึกฝนในด้านต่าง ๆ เพิ่มเติม ทำให้ฝีแข้งของเจเรียกว่าหาตัวจับได้ยากเลยทีเดียว
6. เจ ชนาธิป แข้งไทยคนแรกที่ได้เล่นในเจลีก
เจเปิดตัวกับคอนซาโดเล ซัปโปโร ในวันที่ 19 ธันวาคม 2559 ในสัญญายืมตัวจากเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด โดยเขาได้ย้ายไปเล่นเจลีกเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2560 และเริ่มเข้าร่วมทีมตั้งแต่ลีก 2 ของฤดูกาล ซึ่งถือว่าเป็นลีกที่ดีที่สุดในเอเชียเลยก็ว่าได้ อีกทั้งเจยังสามารถคว้าตำแหน่ง MVP ของสโมสรประจำฤดูกาล 2018 ไปครอง โดยได้ผลคะแนนโหวตมาเป็นอันดับ 1 และหลังจากที่สโมสรยืมตัวเจไปเป็นเวลา 1 ปีครึ่ง ก็ได้เซ็นสัญญาเป็นนักเตะถาวรในสโมสรเมื่อปี 2562
7. ย้ายไปฟรอนตาเล่ด้วยค่าตัวมหาศาล
หลังจากที่เล่นให้คอนซาโดเล ซัปโปโร เป็นเวลา 4 ปี เจตัดสินใจย้ายสโมสรโดยไปเล่นให้กับทีม คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ แชมป์ลีกสูงสุดญี่ปุ่น 4 สมัย ด้วยค่าตัวสูงสุดถึง 130 ล้านบาท กลายเป็นข่าวใหญ่ที่แสดงถึงความสำเร็จของแข้งไทยคนนี้ โดยก่อนหน้านี้ที่เขาเตะให้กับซัปโปโร เขาก็ยังทำรายได้สูงสุดถึงปีละ 11,586,295 บาทอีกด้วย

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Kawasaki Frontale
8. เจ ชนาธิป ได้รับความนิยมในญี่ปุ่น
หลังจากย้ายไปเล่นให้คอนซาโดเล ซัปโปโร อย่างเป็นทางการ แฮชแท็ก #チャナティップ และ #chanathip ติดเทรนด์ 1 ใน 20 คำ ที่คนประเทศญี่ปุ่นแฮชแท็กกันมากที่สุด แสดงให้เห็นว่าชาวญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับการย้ายทีมของ เจ ชนาธิป เป็นอย่างมาก และเขายังได้รับการโหวตให้ติดทีมยอดเยี่ยมแห่งเจลีกในฤดูกาล 2018 อีกด้วย นอกจากนี้เขายังได้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้กับ มิซูโน่ (Mizuno) บริษัทเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬารายใหญ่ของประเทศญี่ปุ่น โดยรองเท้าสตั๊ดที่หนุ่มเจได้รับเลือกให้ใส่คือรุ่น เรบิวลา วี วัน (Rebula V1)

ภาพจาก : Instagram jaychanathip
9. เปลี่ยนสาขาเรียน เพื่ออนาคตด้านกีฬา
แม้จะต้องทำงานที่ต่างประเทศ แต่ เจ ชนาธิป ก็ยังคงมองว่าการศึกษาเป็นเรื่องสำคัญ โดยก่อนหน้านี้เจเคยศึกษาที่คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในฐานะนักกีฬาช้างเผือก ก่อนเจ้าตัวจะตัดสินใจเปลี่ยนคณะเพราะรู้ดีว่าหากเรียนรัฐศาสตร์โอกาสจบยาก โดยเลือกเรียนคณะสหเวชศาสตร์ สาขาบริหารจัดการการกีฬา แทน และใช้วิธีเรียนแบบออนไลน์ จนสำเร็จการศึกษาภายในเวลาประมาณ 5 ปี
10. เจ ชนาธิป เคยเป็นตำรวจ
สมัยที่ยังค้าแข้งอยู่ที่ไทย เจ ชนาธิป เคยเข้ารับการฝึกอบรมที่ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 7 และได้รับการบรรจุเป็นตำรวจ โดยยศสุดท้ายก่อนตัดสินใจลาออกคือ สิบตำรวจตรี ทั้งนี้ เจได้ลาออกในปี 2560 เนื่องจากตัดสินใจไปเล่นให้กับเจลีกเต็มตัวนั่นเอง
ก่อนหน้านี้ที่เราเคยได้เห็นข่าวโด่งดังคือ เจเคยคบหาดูใจกับ เมย์ พิชญ์นาฏ
สาขากร ดาราสาวชื่อดัง โดยเปิดตัวต่อสาธารณชนหลังจบการแข่งขัน เอเอฟเอฟ
ซูซูกิ คัพ 2016 แม้เจจะมีอายุน้อยกว่าเมย์ถึง 12 ปี แต่ก็ฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ
มาด้วยกันมากมาย แต่สุดท้ายความรักก็ถึงทางตัน
ทำให้ต้องเลิกรากันไปในช่วงต้นปี 2018
หลังจากนั้นก็ดูเหมือนว่าข่าวคราวความรักของเจจะเงียบไป
เนื่องจากเขามุ่งมั่นในการทำงานมากกว่า
จนล่าสุดมีข่าวว่าเขาซุ่มคบกับไฮโซสาว ชัญญ่า ทามาดะ
เนื่องจากมีภาพคู่กันออกมาให้เห็น
ซึ่งภายหลังสาวชัญญ่าออกมาบอกแล้วว่าไม่มีอะไรในกอไผ่ เป็นเพียงแค่เพื่อนและถ่ายภาพด้วยกันเท่านั้น

ภาพจาก : Instagram jaychanathip

ภาพจาก : Instagram chanyatamada
เรื่องราวของ เจ ชนาธิป ทำให้เราเห็นได้ว่าเขาเป็นคนที่มีความมุ่งมั่นและพัฒนาฝีมือของตัวเองอย่างจริงจัง และคว้าทุกโอกาสที่เข้ามา จนประสบความสำเร็จในวงการฟุตบอลอย่างสูง น่าชื่นชมจริง ๆ ครับ

ภาพจาก : Instagram jaychanathip

ภาพจาก : Instagram jaychanathip

ภาพจาก : Instagram jaychanathip

ภาพจาก : Instagram jaychanathip

ภาพจาก : Instagram jaychanathip

ภาพจาก : Instagram jaychanathip
ขอบคุณภาพจาก : Instagram jaychanathip, chanyatamada, เฟซบุ๊ก Kawasaki Frontale