
เพชร นพรัตน์ ประเสริฐสุข

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Instagram petch_nopparat, เฟซบุ๊ก นพรัตน์ ประเสริฐสุข เพชร Fanpage
เพชร นพรัตน์ ประเสริฐสุข ประวัติพระเอกยอพระกลิ่น 2557 ที่กำลังมาแรง กับเส้นทางชีวิตที่ได้ไม่โรยด้วยกลีบกุหลาบ
ตอนนี้ใครที่เป็นแฟนละครจักร ๆ วงศ์ ๆ ทางช่อง 7 คงจะคุ้นหน้าคุ้นตากับ เพชร นพรัตน์ ประเสริฐสุข พระเอกยอพระกลิ่น เวอร์ชั่น 2557 ที่กำลังออกอากาศทุกเช้าวันเสาร์-อาทิตย์ กันเป็นอย่างดี และเชื่อว่าคงมีหลาย ๆ คนที่อยากทำความรู้จักกับ เพชร นพรัตน์ ให้มากขึ้น กระปุกดอทคอมก็ไม่รอช้า ขอนำประวัติ เพชร นพรัตน์ ประเสริฐสุข พระเอกยอพระกลิ่น มาฝากกันค่ะ
นพรัตน์ ประเสริฐสุข ชื่อเล่น เพชร เกิดวันที่ 10 ตุลาคม ชีวิตส่วนตัวของเขาไม่ได้สวยงามเหมือนกลีบกุหลาบอย่างที่หลาย ๆ คนคิด ด้วยความที่ครอบครัวของเพชร นพรัตน์ มีฐานะยากจน ทำให้เพชร นพรัตน์ ประเสริฐสุข ถูกนำมาฝากไว้กับหลวงน้าภควัตร ที่วัดใหม่ยายนุ้ย และได้เข้าเรียนหนังสือ แต่เรียนได้เพียงแค่ชั้น ป.3 เพชร นพรัตน์ ก็ต้องดรอปเรียน เนื่องจากทางครอบครัวไม่มีเงินที่จะส่งเสียให้เรียนต่อได้ ก่อนที่ต่อมาญาติ ๆ ของเพชร นพรัตน์ จะได้พาเจ้าตัวไปสมัครเข้าโรงเรียนแห่งใหม่ คือ โรงเรียนวัดบางสะแกใน พร้อมฝากให้เพชร นพรัตน์ เป็นเด็กวัด โดยให้อยู่ในความดูแลของพระอาจารย์ดุสิต ซึ่งนอกจากการช่วยงานที่วัดบางสะแกในแล้ว เพชร นพรัตน์ ก็ยังกลับไปช่วยงานหลวงน้าภควัตรที่วัดใหม่ยายนุ้ยอย่างสม่ำเสมอ
ต่อมาเมื่อ เพชร นพรัตน์ เรียนอยู่ในชั้น ป.4 ครอบครัวของเพชร นพรัตน์ ต้องเผชิญมรสุมครั้งใหญ่ หลังจากพ่อของเพชรเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง ทำให้ที่บ้านขาดเสาหลักไปทันที แต่ด้วยความโชคดีที่มีอาจารย์แน่งน้อย โรจน์วันทนา เข้ามาให้ความช่วยเหลือ ทำให้เพชร นพรัตน์ ได้กลับมาเรียนต่ออีกครั้ง จนจบการศึกษาระดับประถมศึกษาที่โรงเรียนวัดบางสะแกใน
ช่วงที่เพชร นพรัตน์ เรียนต่อในระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนวัดราชโอรส เพชร นพรัตน์ ก็ไม่เคยปล่อยเวลาว่างให้เปล่าประโยชน์ ด้วยการหางานพิเศษทำ ทั้งงานจับกังในโรงงานน้ำแข็ง งานเดินสายเคเบิลที่คลองเตย การไปช่วยขายของเล่นที่พิพิธภัณฑ์ วิทยาศาสตร์และงานอื่น ๆ อีกสารพัด เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของแม่ รวมถึงการเป็นเด็กเสิร์ฟที่ ร้านอาหารบ้านการะเกด ด้วยความที่เพชรเป็นเด็กอัธยาศัยดี ทำให้ลูกค้าที่มาใช้บริการให้ความเอ็นดู จึงทำให้เพชรได้รับทิปเยอะอยู่บ่อย ๆ ซึ่งรายได้ประจำและทิปที่ได้รับมานั้น ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายภายในครอบครัวเป็นอย่างดี แต่ในเวลาต่อมา เพื่อนร่วมงานเกิดไม่พอใจที่เพชร นพรัตน์ ได้รับทิปเยอะกว่าใคร จึงหาเรื่องส่งเพชร นพรัตน์ ไปทำงานอยู่ที่ด้านหลังของร้านอาหารแทน ทำให้รายได้ที่เคยมีขาดหายไป จนสุดท้ายเมื่อจบชั้น ม.3 เพชร นพรัตน์ ก็ตัดสินใจเรียนสายอาชีพที่วิทยาลัยเทคโนโลยีพระนครพณิชยการแทน และด้วยเกรดเฉลี่ยที่ดี ทำให้เพชร นพรัตน์ ได้เรียนฟรี
ในช่วงที่เรียนอยู่ที่วิทยาลัยเทคโนโลยีพระนครพณิชยการ เพชร นพรัตน์ ก็ยังได้รับความช่วยเหลือเรื่องการเรียนและการเงินจากอาจารย์ประกาศ ปาวา ทองสว่าง (ปัจจุบันได้ย้ายไปสอนที่วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม) และเมื่อขึ้น ปวช. ชั้นปีที่ 1 ก็มีคนมาทาบทามให้เพชร นพรัตน์ เข้าประกวด Cool and Cute Thailand by Gpad ซึ่งเพชร นพรัตน์ ก็สามารถฝ่าฟันจนเข้ารอบระดับประเทศได้สำเร็จ แต่ด้วยความที่ไม่มีประสบการณ์และน้ำหนักตัวที่มากเกิน ทำให้เพชรตกรอบในที่สุด

และไม่ใช่เพียงแค่เรื่องการตกรอบในการเข้าประกวด Cool and Cute Thailand by Gpad ที่ทำให้เพชร นพรัตน์ ต้องทุกข์ใจ เพราะวันนั้นนอกจากไม่ได้เงินรางวัลกลับไปแล้ว น้องของเพชร นพรัตน์ ยังต้องลางาน เพื่อมางานประกวดเป็นเพื่อนเพชรด้วย ทำให้ทั้ง 2 คนพี่น้องมีเงินเหลือกลับบ้านเพียง 70 บาท แต่เหมือนโชคยังเข้าข้างเพชร นพรัตน์ อยู่ เพราะรุ่นพี่ที่เข้าประกวดด้วยกันได้ให้เงินเพชร นพรัตน์ จำนวน 800 บาท เพื่อนำกลับไปให้แม่ ทำให้ครอบครัวของเพชร สามารถใช้ชีวิตผ่านพ้นมาได้อีก 1 สัปดาห์
ด้วยความที่เพชร นพรัตน์ มีความรักในการแสดง ประกอบกับมีโอกาสได้ช่วยเล่นละครธรรมะให้กับทางวัดอยู่บ่อย ๆ และบางครั้งเพชรก็ได้ช่วยคิดเรื่องการแสดงต่าง ๆ ให้ทางวัด จนมาวันหนึ่งได้มีโมเดลลิ่งเข้ามาชักชวนให้เพชร นพรัตน์ ไปทำงานด้วย แต่ปรากฏว่า เป็นโมเดลลิ่งปลอมที่หวังหลอกเพชร นพรัตน์ ไปทำงานไม่ดี แต่โชคยังดีที่มีคนมาช่วยเขาไว้ได้ทัน
หลังจากนั้นไม่นาน เพชร นพรัตน์ ก็ได้มีโอกาสพบกับพี่ตุ้ม คุณอาของโบ๊ท ธารา ทิพา นักแสดงช่อง 3 โดยพี่ตุ้มได้ช่วยให้คำแนะนำในเรื่องต่าง ๆ เพื่อให้เพชรนำไปปรับปรุงและไปเรียนรู้เพิ่มเติม จนในที่สุดก็สามารถเข้าสู่วงการบันเทิงได้ ด้วยการรับบทตัวประกอบ จึงทำให้ได้มีโอกาสเรียนการแสดงกับนักแสดงรุ่นเก่าคนหนึ่ง ก่อนที่เพชร นพรัตน์ จะได้ไปเรียนรู้เรื่องการแสดงอย่างเต็มรูปแบบกับคุณ โจ Jos Fineart หลังจากนั้นเขาก็เริ่มหันมาดูแลตัวเองมากขึ้น แต่อย่างไรก็ยังคงไม่ทิ้งเรื่องการเรียนและการทำงานพิเศษเพื่อดูแลครอบครัว
และแล้วโอกาสที่เพชร นพรัตน์ จะได้ใช้ความรู้ที่ร่ำเรีย นมาเกี่ยวกับการแสดงก็มาถึง เมื่อผู้กำกับภาพยนตร์ Timeline เพราะรักไม่สิ้นสุด ได้มาทาบทามให้เพชร นพรัตน์ ลองไปเล่นภาพยนตร์เรื่องนี้ แม้ว่าในตอนนั้นชื่อของเพชร นพรัตน์ จะยังไม่ได้เป็นที่รู้จักมากนัก แต่ก็ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นในการเข้าสู่วงการบันเทิงของเพชร
หลังจากนั้น เพชร นพรัตน์ ยังได้มีโอกาสเล่นภาพยนตร์อีกเรื่องหนึ่ง แต่ด้วยความที่เพชร นพรัตน์ ไม่ได้เซ็นสัญญาว่าจ้างตั้งแต่แรก ทำให้ไม่ได้ค่าตัว ทั้งยังถูกหนึ่งในผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ต่อว่า จนถึงขั้นขว้างรองเท้าใส่หน้าเพชร และเรื่องไม่ได้จบเพียงเท่านี้ เพราะต่อมาผู้กำกับภาพยนตร์คนดังกล่าว ยังคอยตามกีดกันไม่ให้เพชร นพรัตน์ ได้รับงานแสดงจากที่อื่นอีก สุดท้ายพี่ตุ้มซึ่งได้ทราบเรื่องมาโดยตลอด ก็ตัดสินใจพาเพชร นพรัตน์ ไปหาผู้ใหญ่ในบริษัท สามเศียร จำกัด และนั่นเองที่ทำให้เราได้รู้จักกับ เพชร นพรัตน์ ประเสริฐสุข ในฐานะของพระเอกยอพระกลิ่น


ชื่อ-นามสกุล : นพรัตน์ ประเสริฐสุข
ชื่อเล่น : เพชร (Petch)
เกิดเมื่อ : 10 ตุลาคม
การศึกษา :




ผลงานที่ผ่านมา :

















ขอขอบคุณข้อมูลจาก
เฟซบุ๊ก Petch Nopparat Praseartsuk, อ.แน่งน้อย โรจน์วัฒนา, พระอาจารย์ดุสิต, น้องพิน, น้องนัด, น้องนน