อองตวน ปินโต ประวัตินักมวยหน้าฝรั่ง หัวใจไทย สู่การเป็นนักแสดง เขาคือใคร มีผลงานอะไรมาแล้วบ้าง ไปรู้จักดาราหุ่นแซ่บคนนี้กัน ถ้าพูดถึงนักมวยไทยหมัดหนักที่มีความหล่อแบบสายฝอจนเป็นที่หมายตาของสาว ๆ คงไม่มีใครไม่รู้จัก อองตวน ปินโต อดีตนักมวยชาวฝรั่งเศส ที่หลายคนคุ้นหน้าคุ้นตากันดีจากสังเวียนนักชกรายการดังอย่าง ไทยไฟต์ ก่อนที่ อองตวน ปินโต จะแขวนนวมและหันมาเอาดีในวงการบันเทิง ซึ่งเขาก็พิสูจน์แล้วว่าเอาอยู่ในทุกเส้นทาง แต่สำหรับใครที่อยากรู้จัก อองตวน ปินโต ประวัติของเขาให้มากขึ้น ตามเรามาดูเส้นทางชีวิตจากสังเวียนสู่วงการมายา พร้อมเปิดวาร์ปความฮอตของเขากันเลยประวัติ อองตวน ปินโต อองตวน ปินโต เกิดเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2534 (ค.ศ. 1991) ที่เมืองตูลูส ประเทศฝรั่งเศส ก่อนที่จะย้ายมาอยู่ในประเทศไทยตั้งแต่อายุ 10 ขวบ ที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมความสูง 183 เซนติเมตร อองตวน มีพี่น้อง 3 คน โดยเป็นพี่สาว 1 คน ในขณะที่เขาเป็นบุตรคนกลาง และมีน้องชายเป็นนักมวยไทยเช่นกัน ชื่อว่า วิกเตอร์ ปินโต หรือ ลีโอ สำหรับชื่อในวงการมวยไทยของอองตวน ปินโต คือ อันทวน เซ้งบ๊อกซิ่ง ภายใต้สังกัดค่ายมวย เซ้งบ๊อกซิ่ง ซึ่งเป็นของพ่อเขาเอง ก่อนที่จะได้เซ็นสัญญาเข้าสังกัดไทยไฟต์ในที่สุดอองตวน เส้นทางบนสังเวียน การชกมวยครั้งแรกของ อองตวน ปินโต เริ่มขึ้นตั้งแต่อายุ 11 ขวบ ก่อนที่จะเริ่มชกในสนามมวยลุมพินีตอนอายุ 14 ปี พร้อมกับสร้างสถิติเป็นนักมวยไทยต่างชาติที่ลงแข่งขันด้วยอายุที่น้อยที่สุด และขึ้นชกในสนามมวยราชดำเนินตอนอายุ 15 ปี โดยเขาถูกตั้งฉายาว่า Kid Shark หรือ “ไอ้เด็กฉลาม” ด้วยความโชกโชนบนสังเวียนที่มีไม่ต่างจากนักชกไทยทั่วไป ด้านผลงานการชกมวยของ อองตวน นั้น เขาได้ลงแข่งขันในรายการใหญ่มาแล้วหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็นเวทีลุมพินี, ราชดำเนิน, ทรงชัย, มวยช่อง 5, ช่อง 11, ESPN, เอเชียนแซท, โตโยต้า คัพ รวมทั้งรายการอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งผลงานที่ดูเหมือนจะสร้างชื่อให้กับเขาที่สุดคงจะเป็นการขึ้นสังเวียนใน รายการศึกมวยวิถีไทย เมื่อปี 2555 ที่เขาสามารถเอาชนะ ไทรโยค พุ่มพันธ์ม่วง ด้วยการน็อก ถือว่าสร้างความฮือฮาได้อย่างมหาศาลจากบทบาทการเป็นนักมวยบนเวที สู่วงการบันเทิง หลังจากหันหลังให้วงการหมัดมวย อองตวน ปินโต ก็มาเอาดีในวงการบันเทิงอย่างเต็มตัว ทั้งงานละคร งานภาพยนตร์ งานถ่ายแบบ และงานพิธีกร เขาก็กวาดเรียบ ซึ่งผลงานเด่น ๆ ของเขาก็หนีไม่พ้นพิธีกรหน้าจอ รายการ Rajadamnern World Series รายการ THE FACE MEN THAILAND SEASON 2 และยังเป็นโค้ชของทีมแบล็กแห่งศึก 10 Fight 10 ชกมวยดาราอีกด้วยผ่านศึกดราม่ามาไม่น้อย ก่อนหน้านี้ อองตวน เคยมีกระแสดราม่าหนัก จากการที่ทีมแบล็กของเขามีคะแนนแพ้แบบราบคาบต่อทีมไวท์ในรายการ 10 Fight 10 ทำให้เขาพูดท้าต่อยออกมาในรายการ สร้างความไม่พอใจให้กับคนในแวดวงมวย ค่ายมวย นักมวย รวมทั้งแฟนมวยเป็นอย่างมาก จนทำให้โลกโซเชียลร้อนระอุ แถมน้องชายของอองตวนอย่าง ลีโอ ปินโต ยิ่งสุมเชื้อไฟด้วยการไปขัดแย้งผู้มีบุญคุณอย่าง เสี่ยโบ๊ท ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ ผู้ครอบครองค่ายฝึกมวยไทย “เพชรยินดี” ที่ปลุกปั้น ลีโอ ปินโต ขึ้นมา กลายเป็นชนวนดราม่าลุกลามใหญ่โตในวงการมวย ซึ่งสุดท้ายอองตวนก็ขอโทษที่ทำกิริยาไม่เหมาะสม พร้อมยืนยันว่าตนเองแขวนนวมแล้ว ไม่อยากจะมีเรื่องชกต่อยกับใครอีก ล่าสุด อองตวน ก็เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักอีกครั้ง หลังออกมาโพสต์ว่า “ช่วงนี้มวย กุนขแมร์ คนดูเยอะมาก กระแสมาแรงจริง ๆ” ซึ่งหลายคนมองว่าเหมือนเป็นการสนับสนุน จนเจ้าตัวต้องลบโพสต์ พร้อมชี้แจงว่าไม่ได้มีเจตนาโปรโมตกีฬาดังกล่าวตามที่ทุกคนเข้าใจ และยังคงยืนยันคำเดิมอย่างชัดเจนว่าอยู่เคียงข้างมวยไทยความรักของอดีตนักมวยรูปหล่อ ในด้านความรัก อองตวนก็มีเสน่ห์ร้อนแรงไม่น้อยไปกว่ากระแสข่าว โดยในอดีตเขาเคยศึกษาดูใจกับ หวาย ปัญธิษา ในช่วงที่เธอเป็นนักร้องค่ายกามิกาเซ่ แต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้ไปต่อ เหลือเพียงสถานะเพื่อนที่ดีต่อกันเท่านั้น ต่อมาหนุ่ม อองตวน ก็มาคบหากับ ชิปปี้ ศิรินทร์ ปรีดียานนท์ นักแสดงสังกัดช่อง 3 และมีโมเมนต์หวานฉ่ำออกมาให้เห็น กระทั่งเลิกรากันเมื่อปี 2562 ปิดฉากรัก 5 ปี ตามมาด้วยปมร้อนที่อองตวนสารภาพว่านอกใจ แต่ไม่มีเรื่องคบซ้อนหรือมือที่สาม โดยมีนางงามและนางแบบโดนหางเลขไปด้วยหลายคน หลังจากนั้นนักมวยและนักแสดงหนุ่ม อองตวน ปินโต ก็ครองความโสดมานาน กระทั่งปลายปี 2565 ก็เปิดตัวแฟนใหม่ ผู้คอยอยู่เบื้องหลังแบรนด์กาแฟและทำรายการยูทูบร่วมกัน โดยเป็นสาวสวยนอกวงการชื่อว่า น้ำมนต์ ซึ่งดีกรีความสวยแซ่บนั้นพูดเลยว่าไม่แพ้ใครเลยทีเดียว เรียกได้ว่าเป็นอดีตนักมวยชาวต่างชาติที่ไม่ได้มีดีเพียงความหล่อเท่านั้น แต่ในเรื่องฝีมือหมัดมวยบนเวที รวมถึงฝีมือในวงการบันเทิงของเขานั้นก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าหน้าตาเลย ขอบคุณภาพจาก : Instagram antoine_pinto, mon_ellerya ขอบคุณข้อมูลจาก : เฟซบุ๊ก Antoine Pinto - อองตวน ปินโต, th.wikipedia.org, dailynews.co.th
แสดงความคิดเห็น