Nokia Asha 503
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
หากยังจำกันได้เมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว (2013) โนเกียได้เปิดตัว Nokia Asha 501 มือถือรุ่นใหม่ตระกูล Asha ที่มาพร้อมดีไซน์เล็กกะทัดรัด สีสันจัดจ้านโดนใจวัยโจ๋ พร้อมระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุดของโนเกีย Asha Platform ที่มีฟีเจอร์รวมถึงแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ใช้งานเทียบเท่ากับสมาร์ทโฟนราคาแพง ๆ ในตลาดกันเลยทีเดียว และเมื่อเดือนตุลาคมปีเดียวกัน โนเกียก็ได้ส่ง Nokia Asha 503 ภาคต่อของ Asha 501 พร้อมกับการปรับปรุงพัฒนาด้านต่าง ๆ ดีขึ้นกว่าเดิม
สำหรับ Nokia Asha 503 ทางโนเกียตั้งใจให้เป็นสมาร์ทโฟนเครื่องแรกสำหรับผู้เริ่มต้นใช้สมาร์ทโฟน และราคาไม่แพง มาพร้อมฟีเจอร์การใช้งานครบครัน ไม่ว่าจะเป็น กล้องถ่ายภาพ, เกม, เชื่อมต่อกับโซเชียลเน็ตเวิร์กยอดฮิตต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Twitter และแชทสนุกกับเพื่อน ๆ ด้วยแอพฯ LINE และ WhatsApp ไม่น่าเชื่อใช่ไหมล่ะ ว่าสมาร์ทโฟนราคาหลักพันเครื่องนี้จะมีความสามารถคุ้มเกินราคาจริง ๆ วันนี้กระปุกดอทคอมถือโอกาสมารีวิว Nokia Asha 503 มาให้เพื่อน ๆ ได้ชมกัน ถ้าพร้อมแล้วมาติดตามกันเลย
สเปคและดีไซน์ Nokia Asha 503
Nokia Asha 503
ด้านสเปคคร่าว ๆ ของ Nokia Asha 503 มาพร้อมหน้าจอ QVGA ขนาด 3 นิ้ว ความละเอียด 320 x 240 พิกเซล หน้าจอใช้กระจกแบบ Gorilla Glass ป้องกันรอยขีดข่วน แข็งแรงทนทาน, แรม 64MB, มีหน่วยความจำในตัว 4GB และการ์ดหน่วยความจำ microSD สูงสุด 32GB รันอยู่บนระบบปฏิบัติการ Asha Platform เวอร์ชั่น 12.0 และมีกล้องถ่ายภาพด้านหลังความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และแฟลช LED รองรับการเชื่อมต่อ 3.5G (HSPA, HSDPA, HSUPA) ความถี่ 900MHz และ 2100MHz, Wi-Fi, Bluetooth, Micro USB, แบตเตอรี่ 1200mAh รองรับการสนทนานานสูงสุด 17 ชั่วโมง, สแตนบายด์นานสูงสุด 35 วัน และ 20 วัน (สำหรับรุ่น 2 ซิม) ดูรายละเอียดสเปคเพิ่มเติมคลิกที่นี่
ด้านดีไซน์และวัสดุงานประกอบของ Nokia Asha 503 ตัวเครื่องมีให้เลือก 6 สี ได้แก่ สีแดง, สีเขียว, สีเหลือง, สีฟ้า, สีขาว และสีดำ ด้านวัสดุของตัวเครื่องที่ถือว่าเป็นจุดเด่นอีกอย่างของรุ่นนี้ต่างจากรุ่น Asha 501 โดยตัวเครื่องครอบด้วยกรอบพลาสติกใสเพื่อเสริมความแข็งแรง ป้องกันรอยขีดข่วน และสีสันของตัวเครื่องยังโดดเด่นเหมือนเดิม ส่วนอุปกรณ์ภายในกล่องที่แถมมาให้มีที่ชาร์จแบตเตอรี่, แบตเตอรี่, หูฟัง, ใบรับประกัน และคู่มือการใช้งาน
Nokia Asha 503 (ด้านหน้า)
Nokia Asha 503 (ด้านหลัง)
Nokia Asha 503 (ด้านหลัง)
ด้านหน้าของ Nokia Asha 503 ยังคงมีดีไซน์แบบเรียบ ๆ เหมือนรุ่น 501 ด้านบนสุดจะเป็นช่องลำโพง ส่วนด้านล่างจะมีเพียงปุ่มย้อนกลับ (Back) แบบสัมผัสปุ่มเดียวอยู่บนตัวเครื่องด้านหน้า ใช้สำหรับย้อนกลับไปเมนูต่าง ๆ หรือออกจากโปรแกรม ส่วนด้านหลังของตัวเครื่องมีกล้องถ่ายภาพความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED และปุ่มตรงด้านล่างเครื่องเอาไว้สำหรับดันเพื่อถอดฝาหลัง โดยปุ่มดังกล่าวจะมีสีตามตัวเครื่อง หากเราเปลี่ยนฝาหลังเป็นสีอื่น ปุ่มจะยังเป็นสีเดิมอยู่ เพื่อความหลากหลายของสีสัน
Nokia Asha 503 (ด้านซ้าย)
Nokia Asha 503 (ด้านขวา)
ด้านซ้ายของตัวเครื่องไม่มีปุ่ม ส่วนทางด้านขวาของตัวเครื่องมี 3 ปุ่ม ใช้สำหรับเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่มสำหรับปิด-เปิดเครื่อง/ล็อกเครื่อง
Nokia Asha 503 (ด้านบน)
Nokia Asha 503 (ด้านล่าง)
Nokia Asha 503 (ด้านใน)
Nokia Asha 503 (ด้านใน)
ด้านบนของตัวเครื่อง มีพอร์ตการเชื่อมต่อ ประกอบด้วย ช่องเสียบหูฟัง (รูกลมใหญ่), ช่องเสียบ Micro USB สำหรับเชื่อมต่อข้อมูลและชาร์จแบตเตอรี่ ส่วนด้านล่างตัวเครื่องมีช่องเล็ก ๆ ก็คือ ช่องไมโครโฟนสำหรับสนทนานั่นเอง ด้านในของตัวเครื่องดูหนาแน่น แข็งแรงทนทานตามสไตล์โนเกีย มีช่องและพอร์ตต่าง ๆ วางเป็นสัดส่วนชัดเจน มีช่องสำหรับใส่ซิม 2 ซิมการ์ด เป็นแบบ micro SIM ซิมแรกจะอยู่ด้านในตัวเครื่อง ส่วนซิมที่สองจะใส่ด้านข้างของตัวเครื่อง พร้อมฟีเจอร์ Easy Swap เปลี่ยนซิมการ์ดได้ทันที ไม่ต้องรีสตาร์ทเครื่อง และด้านข้างยังมีช่องสำหรับ microSD รองรับสูงสุด 32GB
ตัวอย่างรูปถ่ายจากกล้อง Nokia Asha 503
ซอฟต์แวร์และการใช้งาน Nokia Asha 503
Nokia Asha 503
Nokia Asha 503
สำหรับ Nokia Asha 503 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Asha Platform เวอร์ชั่น 1.1 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นที่ทางโนเกียปรับปรุงและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ จากเวอร์ชั่นก่อน ๆ ไปเยอะพอสมควร ส่วนรูปแบบการใช้งานนั่นเหมือนกับรุ่น Asha 501 ยังคงใช้วิธีการ (Swipe) สไลด์หน้าจอจากซ้ายไปขวา หรือขวาไปซ้ายก็ได้ หน้าจอจะมีแค่ 2 หน้าเท่านั้น คือ หน้ารวมแอพฯ และหน้า Fastlane ที่รวมความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นบน Nokia Asha 503
ส่วนทางด้านแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ทางโนเกียก็ใส่มาพร้อมใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นแอพพิลเคชั่นด้านโซเชียลเน็ตเวิร์ก เช่น Facebook, Twitter รวมถึงการใช้งานด้านอีเมลต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับโปรแกรมแชทยอดฮิตของคนทั่วโลกอย่าง LINE, WeChat, eBuddy และ WhatsApp ทำให้ผู้ใช้สนุกกับการแชทและการแชร์ข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ผ่านเว็บโซเชียลเน็ตเวิร์กได้อย่างง่ายดาย และดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ เพิ่มเติมได้ ด้วยความสามารถทั้งหมดก็ตรงตามคอนเซ็ปต์ของ Nokia Asha 503 รุ่นนี้ "ลุคชิค แชะไว แชร์ได้สะใจกว่าเดิม" สามารถดูรีวิวเพิ่มเติมการใช้งานเดียวกับรุ่น Asha 501 คลิกที่นี่
จุดเด่น
รองรับ 3G
รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด และซิมเดียว
วัสดุที่ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบา แข็งแรงทนทาน และพกพาสะดวก
เปลี่ยนฝาหลังหากเบื่อสีเดิม
รองรับการใช้งานด้านโซเชียลเน็ตเวิร์กและแอพฯ ดัง ๆ เช่น Facebook, Twitter, LINE, WeChat และ WhatsApp
การใช้งานลื่นขึ้นกว่ารุ่น Asha 501 การสัมผัสมีความแม่นยำ และรวดเร็วขึ้น
คีย์บอร์ดมีความแม่นยำขึ้นกว่าเดิม
กล้องถ่ายภาพความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
ราคาถูก
ข้อสังเกต
หน้าจอเล็ก ความละเอียดน้อย
ตัวเครื่องมีพอร์ต Micro USB แต่ในกล่องไม่แถมสาย Micro USB มาให้
อายุการใช้งานแบตเตอรี่น้อยกว่ารุ่น Asha 501 (อาจเป็นเพราะมี 3G)
สรุป Nokia Asha 503 น่าใช้งานหรือไม่ ?
สำหรับ Nokia Asha 503 ถือว่าสมาร์ทโฟนอีกรุ่นที่มีความโดดเด่นมากกว่ารุ่น Asha 501 เพราะรุ่นนี้รองรับ 3G จึงทำให้หลาย ๆ คนหันมาสนใจ Asha 503 มากขึ้นกว่าเดิม ด้วยความสามารถที่ใช้งานได้เทียบเท่าสมาร์ทโฟนราคาแพง ๆ ในตลาดปัจจุบัน อีกทั้งงานประกอบและวัสดุที่ทางโนเกียเลือกใช้วัสดุมีคุณภาพเทียบเท่ากับสมาร์ทโฟนราคาแพง นอกจากนี้ Nokia Asha 503 ยังเหมาะกับคนที่ชอบมือถือน้ำหนักเบาและพกพาสะดวก รวมถึงสีสันของตัวเครื่องที่เป็นเอกลักษณ์โดนใจหลาย ๆ คน หากกำลังมองหาสมาร์ทโฟนที่เน้นการใช้งานใช้งานด้านโซเชียลเน็ตเวิร์กที่กำลังฮิตในปัจจุบัน หรือการใช้งานด้านอื่น ๆ ดูหนัง, ฟังเพลง, เล่นเกม ต้องบอกเลยว่า Nokia Asha 503 สามารถตอบโจทย์จุดนี้ได้ดีกว่าเดิมแน่นอน
สำหรับใครที่สนใจสามารถหาซื้อ Nokia Asha 503 ได้แล้ววันนี้ โดยราคา 2,990 บาท สำหรับรุ่นซิมเดียว และรุ่นสองซิมราคา 3,090 บาท จะวางจำหน่ายกลางเดือนมกราคมนี้ ลองให้ Nokia Asha 503 เป็นสมาร์ทโฟนเครื่องแรกของคุณดูสิ