ดร.ก้องภพ อยู่เย็น วิศวกรคนเก่ง แห่งนาซา

          ซึ่งจุดเริ่มต้นของการทำงาน ดร.ก้องภพ เริ่มจากการได้งานที่ เอล.ซี. คอมมูนิเคชั่น โดยดูแลระบบอิเล็กทรอนิกส์ของหุ่นยนต์โซนาร์ตรวจจับเรือดำน้ำ อยู่เป็นเวลา 7 เดือน และเมื่อได้รับการตอบรับเข้าศึกษาปริญญาโท จากมหาวิทยาลัยจอร์เจียเทค (สถาบันเทคโนโลยีจอร์เจีย เมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย) พร้อมกับทุนจากเท็กซัส อินสตรูเมนต์ ดร.ก้องภพจึงตัดสินใจไปเรียนต่อ โดยแบ่งเป็นการเรียน 2 เทอม ทำงานกับเท็กซัส อินสตรูเมนต์ 2 เทอม และกลับมาเรียนต่ออีก 1 เทอมก็จบหลักสูตร แต่เขากลับรู้สึกเบื่อ เพราะงานที่ทำอยู่เป็นงานออกแบบวงจรในโทรศัพท์มือถือ ซึ่งมีระยะการทำงานสั้น ทำให้ต้องคิดแบบสั้น ๆ ไม่ท้าทาย เขาจึงตัดสินใจเรียนต่อปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยเดิม

          ในช่วงที่ ดร.ก้องภพ กำลังศึกษาต่อปริญญาเอก องค์การนาซามาเปิดซุ้มรับสมัครงานอยู่ในมหาวิทยาลัยพอดี เขาจึงตัดสินใจสมัครเพื่อเป็นนักศึกษาฝึกงาน และก็ได้รับการตอบรับให้ฝึกงานเป็นเวลา 3 เดือน ซึ่งในการฝึกงานกับองค์การนาซา ดร.ก้องภพ มีหน้าที่ดูแลโมเดลการทรงตัวของกล้องฮับเบิลที่มีปัญหาเรื่องพิกัด จนกระทั่งจบระยะเวลา 3 เดือน

          ปีต่อมา ดร.ก้องภพ จึงเริ่มสมัครงานไว้หลายแห่ง หนึ่งในนั้นมีองค์การนาซา และมีองค์กรใหญ่ ๆ ตอบรับเขาเข้าทำงานด้วย แต่เขาตัดสินใจเลือกองค์การนาซา เนื่องจากตั้งอยู่ในรัฐแมริแลนด์ ซึ่งใกล้กับมหาวิทยาลัยจอร์เจีย ที่แฟนสาวของเขาเรียนอยู่ ทั้งนี้ ดร.ก้องภพ เชื่อว่าเด็กไทยหลายคนมีความสามารถเทียบเท่ากับต่างชาติ เพียงแต่ขาดโอกาส ส่วนการที่เขาได้ทำงานกับนาซาอาจเป็นเพราะเขาถือ 2 สัญชาติก็เป็นได้


          ในระหว่างทำงานกับองค์การนาซา ดร.ก้องภพ อยู่เย็น มีผลงานที่จดสิทธิบัตรในนามองค์การนาซา คือ “ฟิลเตอร์ CMB Pol เครื่องกำจัดสัญญาณรบกวนที่มีความถี่กว้าง และอัตราสูญเสียต่ำ” ซึ่งสามารถลดทอนสัญญาณได้ 9-12 เท่า เพื่อใช้ในการเซ็นเซอร์กล้องดูดาวให้มีอัตราการรั่วของสัญญาณน้อยที่สุด

          หากถามว่าการเข้าไปทำงานกับองค์การนาซา ซึ่งเป็นองค์กรใหญ่ที่ศึกษาเกี่ยวกับอวกาศ จะต้องมีคุณสมบัติอย่างไร ดร.ก้องภพ บอกว่าขึ้นอยู่กับความถนัดของผู้สมัคร ว่าจะตรงกับความต้องการขององค์กรหรือไม่ และยังต้องเขียนประวัติย้อนหลังไปอีก 5 ปีด้วย โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นการเข้าไปฝึกงานก่อน มากกว่าการไปสมัครเข้าทำงานโดยตรง

          ส่วนคนเอเชียที่ทำงานอยู่ในองค์การนาซา ดร.ก้องภพ บอกว่า มีอยู่ประมาณ 15% และทางองค์การนาซาไม่ได้มีข้อจำกัดเรื่องอายุ เพราะเขาเองขณะที่เข้าไปฝึกงาน ก็มีอายุเพียงแค่ 26 ปีเท่านั้น ซึ่งในองค์กรก็ไม่ได้มีการแบ่งสีผิว ชาติ ศาสนา ด้วย แต่จะแบ่งระดับการทำงานเป็น 12 ระดับ เกินจากนั้นจะเป็นผู้บริหาร หรือผู้คุมวิศวกรอีกที ซึ่ง ดร.ก้องภพ ทำงานเกินระดับ 12 แล้ว โดยเขาต้องเขียนแผนงานเพื่อหาเงินมาลงทุน และทำงานร่วมกับนักวิทยาศาสตร์ในการคิดค้นอุปกรณ์ใหม่ ๆ

          สำหรับเรื่องครอบครัว ดร.ก้องภพ แต่งงานกับ คุณมนิสา พิพัฒนสุนทร ซึ่งคบหากันมาตั้งแต่สมัยเรียนปริญญาตรี ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปัจจุบัน ดร.ก้องภพ ยังคงมีข้อมูลเกี่ยวกับอวกาศและปรากฏการณ์ต่าง ๆ มาแชร์ข่าวสารผ่านทาง เฟซบุ๊ก ก้องภพ อยู่เย็น เป็นประจำ

          เรียกว่าเป็นคนไทยที่มีความรู้ความสามารถ และน่ายกย่องชื่นชมจริง ๆ สำหรับ ดร.ก้องภพ อยู่เย็น ซึ่งเขายังเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับเด็กไทย ที่ยังคงมองเห็นเรื่องอวกาศเป็นเรื่องไกลตัว เชื่อเถอะว่าขอเพียงแค่เชื่อมั่นในความสามารถของตนเอง เราก็สามารถทำเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้เหมือนกันนะครับ