เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Nasa
กล้องโทรทรรศน์อวกาศโซโฮ ของนาซา จับภาพหลุมโคโรนาขนาดใหญ่บนดวงอาทิตย์ บริเวณแถบขั้วโลกเหนือ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์คาด หลุมโคโรนาอาจเป็นแหล่งกำเนิดความร้อนในห้วงอวกาศ เตรียมป้องกันผลกระทบจากพายุสุริยะ
เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2556 เว็บไซต์เดลี่เมลของอังกฤษรายงานว่า กล้องโทรทรรศน์อวกาศโซโฮ ที่เกิดขึ้นจากการร่วมมือของนาซา กับองค์การอวกาศยุโรป จับภาพของหลุมโคโรนายักษ์บริเวณขั้วโลกเหนือบนดวงอาทิตย์เอาไว้ ในระหว่างวันที่ 13 และ 18 กรกฎาคม ซึ่งนักวิทยาศาสตร์คาดว่าภาพของหลุมโคโรนาดังกล่าวน่าจะเป็นต้นกำเนิดของความร้อนในห้วงอวกาศ
ทั้งนี้ภาพที่กล้องโทรทรรศน์อวกาศโซโฮจับมาได้นั้น เป็นภาพของหลุมโคโรนา หรือ Coronal Hole เป็นจุดสีดำที่อยู่ในชั้นโคโรนา ชั้นบรรยากาศนอกสุดของดวงอาทิตย์ โดยพื้นที่ดังกล่าวถูกปกคลุมไปด้วยความมืด ส่งผลให้มีอุณหภูมิต่ำกว่าบริเวณรอบ ๆ และมีเส้นสนามแม่เหล็กพุ่งเข้า-ออกอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ คาเรน ฟ็อกซ์ เจ้าหน้าที่ศูนย์การบินอวกาศก็อดดาร์ด ยังกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า หลุมโคโรนานั้นมีตำแหน่งที่ไม่แน่นอน
โดยหลุมโคโรนา เกิดในช่วงที่สนามแม่เหล็กบริเวณเส้นศูนย์สูตรมีอัตราความเร็วในการหมุน เร็วกว่าขั้วของดวงอาทิตย์เล็กน้อย ซึ่งส่วนใหญ่กินเวลาประมาณ 11 ปี โดยเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า โซลาร์แม็กซิมัม (Solar Maximum) หรือ โซลาร์แม็กซ์ ทั้งนี้ทางนาซาทำนายเอาไว้ว่า ปรากฏการณ์ดังกล่าวน่าจะเกิดขึ้นภายในปี 2013 ซึ่งในระหว่างนั้นก็จะมีหลุมโคโรนาบางหลุมที่ยุบตัวลงด้วยเช่นกัน จากนั้นก็จะวนเวียนไปเช่นเดิมตาม วัฏจักรสุริยะ ซึ่งหลุมโคโรนาที่เกิดใหม่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 400,000 ไมล์ หรือราว 643,700 กิโลเมตร ขนาดยาวกว่าเส้นรอบโลกถึง 5 เท่า
ทั้งนี้หนึ่งในภาพที่กล้องโทรทรรศน์อวกาศโซโฮจับมาได้ เป็นภาพของอนุภาคของลมสุริยะที่ปะทุออกมาจากหลุมต่าง ๆ บนดวงอาทิตย์ โดยอนุภาคดังกล่าวมีอัตราการเคลื่อนที่เร็วกว่าบริเวณอื่น ๆ มาก นักวิทยาศาสตร์จึงเตรียมนำภาพดังกล่าวไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสภาพอากาศในห้วงอวกาศ เพื่อใช้ในการคิดค้นวิธีการลดความรุนแรง และป้องกันผลกระทบที่เกิดจากพายุสุริยะต่อไป
