เรียบเรียบข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก facebook andymurrayofficial
เมื่อเอ่ยถึงนักเทนนิสชายที่ประสบความสำเร็จในปัจจุบัน หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของ แอนดี้ เมอร์เรย์ (Andy Murray) ยอดนักเทนนิสอันดับ 2 ของโลกชาวสกอตแลนด์ ด้วยลีลาพลิ้วไหวในการหวดแร็คเก็ต และผลงานที่ยอดเยี่ยมอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี เขาจึงเป็นขวัญใจของใครหลายคนได้แบบสบาย ๆ
แน่นอนว่านักกีฬาระดับมืออาชีพอย่างเมอร์เรย์นั้นจำเป็นต้องดูแลร่างกายอย่างเข้มงวด ทั้งเรื่องวินัยการซ้อมและอาหารที่รับประทาน ซึ่งนักกีฬาหรือบรรดานักเพาะกายหลายคนคงเลือกทานอาหารประเภทเนื้อแดง นม หรือไข่เป็นโปรตีนหลักในการสร้างกล้ามเนื้อ แต่เชื่อหรือไม่ว่า...เคล็ดลับความแข็งแกร่งของยอดนักเทนนิสรายนี้ กลับเป็นอาหารญี่ปุ่นขนาดชิ้นพอดีคำอย่าง ซูชิ นั่นเอง
แอนดี้ เมอร์เรย์ ชื่นชอบซูชิถึงขั้นคลั่งไคล้เลยทีเดียว เพราะเขาสามารถทานซูชิได้มากถึง 50 ชิ้นภายในมื้อเดียว และยังเป็นอาหารที่เขาเลือกทานเป็นอันดับแรกหลังจบการแข่งขันในแต่ละแมทช์ ซึ่งทีมงานของเขาจะไปเสาะหาร้านซูชิขึ้นชื่อในแต่ละที่ที่เขาเดินทางไปแข่งขัน เพื่อเตรียมไว้ให้ รวมถึงในการแข่งขันเทนนิสวิมเบิลดันปี 2013 ทีมงานของเมอร์เรย์จะนำกล่องเก็บความเย็นที่ภายในบรรจุซูชิมาให้ทานหลังจากจบการแข่งขัน ซึ่งต่อให้แมทช์นั้นแข่งกันดุเดือดลากยาวไปจนดึกแค่ไหน ก็มั่นใจได้ว่ามีอาหารจานโปรดพร้อมเสิร์ฟให้เจ้าตัวแน่ ๆ
เช่นเดียวกับนักกีฬาทั่วไป เมอร์เรย์เองก็ต้องวางแผนการรับประทานอาหารให้พอเหมาะ ควบคู่ไปกับการการออกกำลังเผาผลาญไขมันส่วนเกิน โดยในแต่ละวันจะแบ่งอาหารออกเป็น 6 มื้อ สลับระหว่างมื้อหลักและมื้อย่อย ซึ่งสิ่งที่เลือกทานนั้นประกอบไปด้วย เนื้อแดง พาสต้า และข้าว ส่วนอาหารเช้าถือว่าเบาที่สุด มีโยเกิร์ต เบเกิลเนยถั่ว พร้อมกับเครื่องดื่มโปรตีนเชคไว้ให้เขา โดยรวม ๆ แล้ววันนึงเมอร์เรย์ต้องทานอาหารเพิ่มพลังงานมากถึง 6,000 แคลอรี่ น้ำ 6 ลิตร และยังต้องหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ อาหารปรุงแต่งมาก ๆ และอาหารที่มีน้ำตาลสูงอีกด้วย ทั้งนี้ อาหารทั้งหมดที่เขาทานเข้าไปจะถูกเผาผลาญในการฝึกระหว่างวัน ประกอบด้วยการตีเทนนิส, ทำโยคะร้อน, การฝึกความยืดหยุ่นและการเล่นเวท
นิโน เซอเวอริโน โค้ชของเมอร์เรย์กล่าวว่า เมอร์เรย์ถือเป็นนักเทนนิสร่างใหญ่ซึ่งร่างกายจะรับภาระหนักหน่วงทุกครั้งที่ย่างก้าว และเพื่อซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ เขาจึงต้องการสารอาหารมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในซูชิที่มีเนื้อปลาและข้าว ทั้งสองอย่างนี้มี โปรตีนและคาร์โบไฮเดรตชั้นดีที่ช่วยฟื้นฟูร่างกาย ไกลโคเจนที่ช่วยในเรื่องการทำงานของตับ สาหร่ายที่ใช้ห่อข้าวก็ประกอบด้วยไอโอดีน รวมไปถึงเนื้อปลาที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 ซึ่งเป็นกรดไขมันชั้นดีที่บำรุงหัวใจอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ซูชิบางชนิดก็ส่งผลเสียต่อร่างกายด้วยเหมือนกัน เช่น บรรดาข้าวห่อสาหร่ายที่มักสอดไส้มายองเนสมากเกินไป หรือโชยุที่เพิ่มรสชาติของซูชิเองก็มีระดับความเค็มสูง หากทานมากเกินไปก็ส่งผลต่อไตไม่น้อย ซึ่งทางที่ดีควรเลือกทานด้วยเหมือนกัน
เห็นอย่างนี้แล้ว หนุ่ม ๆ ที่รักสุขภาพคงเต็มใจบรรจุเมนูแสนอร่อยอย่างซูชิ มาเป็นอีกหนึ่งอาหารจานโปรดแบบเดียวกับยอดนักเทนนิสผู้นี้ได้เลย แล้วหากออกกำลังฟิตร่างกายควบคู่กันไปด้วย คุณก็อาจมีรูปร่างที่ดีเหมือนเขาก็ได้ครับ
