เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
หากพูดถึงเรื่องของการขับรถแล้ว ร้อยทั้งร้อยส่วนใหญ่จะตอบไปในทิศทางเดียวกันว่าหากเจอคนขับรถเงอะ ๆ งะ ๆ เมื่อไหร่ ต้องเดาว่าคนขับต้องเป็นผู้หญิงแน่ ๆ เพราะโดยมากผู้หญิงหลายคนอาจไม่ค่อยกล้าตัดสินใจหรือมีความมั่นใจเวลาอยู่หลังพวงมาลัย พวกเธอเลยมักตกเป็นเป้าสายตาอยู่เสมอ จนผู้ชายบางคนก็มั่นใจในทักษะการขับรถของตัวเองมากเกินไป ทั้งที่จริง ๆ แล้วก็ไม่ได้ขับรถดีกว่าพวกเธอสักเท่าไหร่เลย
เว็บไซต์ เดลี่เมล์ ของอังกฤษ รายงานว่า มีผลสำรวจเกี่ยวกับการเข้ารับการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาทักษะการขับรถจากทาง AA Charitable Trust ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องความปลอดภัยทางถนนและสิ่งแวดล้อมในประเทศอังกฤษ เผยข้อมูลที่น่าสนใจให้ทราบว่า มีผู้ชายราว 22 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ที่เข้ารับการฝึกอบรมจากทางหน่วยงาน ทั้งที่เป็นการอบรมฟรี และมีบทเรียนที่ช่วยในเรื่องของพัฒนาการขับรถมากถึง 2,000 คอร์ส ทั้งที่สิ่งต่าง ๆ ที่จะได้รับในการฝึกอบรมนั้นสามารถช่วยลดอุบัติเหตุได้ เพราะถ้านับแค่ในปี 2011 เพียงปีเดียว มีชายที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนมากถึงจำนวน 17,478 ราย ขณะที่ฝ่ายหญิงเสียชีวิตไป 7,544 ราย
ทั้งนี้ นายเอ็ดมุนด์ คิง ผู้อำนวยการของ AA ออกมาแสดงความเห็นว่า เขาไม่อยากให้คนขับรถหลาย ๆ คนอย่ามัวแต่นึกถึงศักดิ์ศรีของตัวเองมากจนเกินไป เพราะการเข้ารับการฝึกอบรมดังกล่าวนั้น ไม่ได้หมายความว่าคุณขับรถแย่ ไม่รู้เรื่องกฎระเบียบจราจร เพียงแต่เป็นการทบทวนและพัฒนาศักยภาพในการใช้ยวดยานบนถนนให้ดีขึ้น เพราะไม่ว่าคุณจะมีใบขับขี่มานานขนาดไหน ก็ไม่สามารถการันตีได้เสมอไปว่าจะขับดี โดยเฉพาะผู้ชาย ซึ่งอาจรู้สึกเสียหน้าเล็ก ๆ หากต้องมาเข้าคอร์สการขับรถแบบนี้ แต่ถ้าเปิดใจลองมาฟังการอบรมดูบ้าง ก็น่าจะช่วยลดความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุทางรถยนต์ได้ไม่มากก็น้อย
ไม่รู้ว่าหลังจากที่ได้อ่านผลสำรวจข้างต้นแล้ว หนุ่ม ๆ ผู้ใช้รถในบ้านเราจะมีความคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้บ้าง ซึ่งถ้ามองแบบเปิดใจดูแล้วก็นับว่าเป็นเรื่องที่มีประโยชน์อยู่ไม่น้อย ไม่จำเป็นว่าจะต้องมีแต่สาว ๆ ที่ควรไปเข้าอมรมหลักสูตรเรื่องการขับรถเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของความรับผิดชอบต่อส่วนรวมที่คนใช้รถใช้ถนนทุกคนพึงมีต่างหากครับ