x close

วีรชัย พลาศรัย ประวัติ ท่านทูตวีรชัย หัวหน้าทีมสู้คดีเขาพระวิหาร



วีรชัย พลาศรัย

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ไทยพีบีเอส

           หลังจากศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) ได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2556 โดยให้ประเทศไทยกับกัมพูชาไปตกลงเรื่องพื้นที่พิพาท 4.6 ตารางกิโลเมตรกันเอง ก็ทำให้ชาวไทยต้องรอลุ้นกันตัวโก่งว่า การเจรจากันในอนาคตจะจบลงเช่นไร แล้วประเทศไทยจะต้องเสียพื้นที่ส่วนใดส่วนหนึ่งเพิ่มหรือไม่ เพราะจนถึงขณะนี้ข้อมูลจากหลายฝ่ายที่ออกมาวิเคราะห์แสดงความคิดเห็นก็ยังไม่ตรงกัน บ้างก็ว่าไม่น่าจะเสียดินแดนเพิ่ม แต่บ้างก็ว่าต้องเสียพื้นที่บางส่วนเพิ่มแน่นอน
 
          อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่า ทีมทนายไทยที่ไปสู้ศึกที่ศาลโลกทุกคนต่างทำหน้าที่กันอย่างเต็มที่ เพราะทุกท่านเตรียมข้อมูลกันมาอย่างดี และให้ข้อมูลครบถ้วน หนักแน่น โดยเฉพาะ
นายวีรชัย พลาศรัย ซึ่งเป็นคนไทยเพียงคนเดียวที่ขึ้นเวทีให้ถ้อยแถลงต่อศาลโลก เมื่อวันที่ 15-19 เมษายน 2556 ก็ได้รับคำชมจากชาวเน็ตเป็นการใหญ่ ขณะที่สื่อมวลชนก็มอบฉายาสั้น ๆ ให้ท่านว่า "ทั่นทูตแสบ"

           หากยังจำกันได้ ดร.วีรชัย พลาศรัย ผู้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องการต่อสู้คดีปราสาทเขาพระวิหารมาตั้งแต่ที่ประเทศกัมพูชา เริ่มเดินหน้าเรื่องนี้ต่อยูเนสโก เพื่อดันเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก โดยมีผลกระโยชน์แอบแฝงนั่นก็คือหวังฮุบดินแดน 4.6 ตารางกิโลเมตร ซึ่งเป็นพื้นที่พิพาทนั่นเอง

ทูตวีรชัย ย้ำชัดไทยไม่เสียดินแดน 4.6 ตร.กม. แต่ไม่ได้ฟันธงเขตแดน

           ส่วนในศึกดินแดนครานี้ ดร.วีรชัย เตรียมความพร้อมมาเป็นอย่างดี ถือเป็นกระบี่มือ 1 ในการให้ถ้อยแถลงในครั้งนี้เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการยืนยันว่า ประเทศไทยได้ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลโลกเมื่อปี 2505 แล้ว และทางกัมพูชาก็พอใจกับคำสั่งดังกล่าว แต่ก็เพิ่งจะมามีปัญหา เมื่อทางกัมพูชาอยากจะนำปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก โดยขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติของประเทศกัมพูชาแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ชอบธรรม และทำให้กระทบต่ออธิปไตยของประเทศไทย

           นอกจากนี้ ดร.วีรชัย พลาศรัย ยังพูดถึงกัมพูชาอีกว่า ทางกัมพูชาพยายามจะนำแผนที่ภาคผนวกมาอ้างอิง ซึ่งแผนที่นั้นไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กันพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร ที่กำลังเป็นข้อพิพาทอยู่เลย หนำซ้ำยังปลอมแปลงเอกสารและนำเอกสารที่ไม่ถูกต้องมายื่นต่อศาลโลกอีก ... ถือว่าเป็นเล่ห์เหลี่ยมที่ ดร.วีรชัย ต้องหาหลักฐานมามัดทางกัมพูชาให้แน่น แล้วนำมาเปิดเผยโต้ง ๆ ต่อศาลโลก  อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้าที่จะขึ้นให้ถ้อยแถลงต่อศาลโลก ดร.วีระชัย ระบุว่า "สู้เต็มที่" แต่พอหลังจากที่ขึ้นเวทีแล้ว ก็ระบุสั้น ๆ อีกคำหนึ่งว่า "สนุกแน่"

           หากพูดถึงประวัติของ ดร.วีรชัย นั้น ท่านทูตเกิดเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2503 จบการศึกษาระดับปริญญาตรี และปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยปารีส (นองแตร์) และปริญญาเอกจากซอร์บอนน์ ประเทศฝรั่งเศส เริ่มต้นการทำงานด้วยการเป็นเลขานุการตรี กองแอฟริกาและกลุ่มอาหรับ ต่อจากนั้นก็ไต่เต้ามาเป็นอธิบดีกรมการเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ก่อนที่จะโยกเป็นอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย เป็นผู้เจรจาเรื่องเขาพระวิหาร และเป็นผู้ดูแลกรมที่เก็บเอกสารสำคัญระดับชาติ

           นอกจากนี้ มีรายงานระบุว่า ในช่วงที่ ดร.วีรชัย พลาศรัย ทำหน้าที่ดูแลเอกสารสำคัญระดับชาตินั้น ได้ขัดขืนคำสั่งจากผู้มีอำนาจที่ขอเอกสารลับของคนแดนไกล แต่ในเมื่อเอกสารลับมันยิ่งใหญ่ระดับชาติ จึงไม่สามารถให้ได้ เพราะขัดจรรยาบรรณต่อหน้าที่การงาน จึงทำให้ ดร.วีรชัย พลาศรัย ถูกพายุทางการเมืองถาโถมไปพักใหญ่เลยทีเดียว จนถูกย้ายให้ไปเป็นทูตประจำกระทรวงแทน

           แต่หลังจาก พรรคประชาธิปัตย์ขึ้นเป็นรัฐบาล ดร.วีรชัย พลาศรัย ก็ได้กลับสู่กรมสนธิสัญญาฯ และรับผิดชอบคดีเขาพระวิหารเช่นเดิม อีกทั้งยังได้รับโปรดเกล้าให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮก เป็น 1 ใน 9 ของผู้ได้รับรางวัลเกียรติคุณจากงานราชการ ครุฑทองคำ ประจำปี 2553-2554 ด้วย แถมยังได้รับรางวัล "ผู้เป็นกลางทางการเมือง" โดยปฏิบัติงานโดยยึดประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ เป็นแบบอย่างแก่ข้าราชการทั้งหลาย เรียกได้ว่า ดร.วีรชัย พลาศรัย เป็นข้าราชการที่ตรงเถร ยอมหัก แต่ไม่ยอมงอ ไม่ว่าใครหน้าไหนนั่นเอง


วีรชัย พลาศรัย


ประวัติ ดร.วีรชัย พลาศรัย

           ชื่อ-สกุล : วีรชัย พลาศรัย

           เกิดเมื่อวันที่ :
9 มิถุนายน พ.ศ. 2503

           สมรสกับ นางอลิซาเบธ พลาศรัย


การศึกษา :

           มัธยมศึกษา โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

           หลักสูตรป้องกันราชอาณาจักรภาครัฐร่วมเอกชน (ปรอ.20)

           ปริญญาตรี และปริญญาโท จากมหาวิทยาลัยปารีส (นองแตร์)

           ปริญญาเอก จากมหาวิทยาลัยซอร์บอนน์ ฝรั่งเศส


ตำแหน่งปัจจุบัน :

           26 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 : เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ (กรุงเฮก)


การทำงาน และตำแหน่งหน้าที่ :

           1 เมษายน พ.ศ. 2547 : รองอธิบดีกรมเศรษฐกิจ

           3 มีนาคม พ.ศ. 2549 : อธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ

           15 กันยายน พ.ศ. 2550 : อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย

           28 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 : เอกอัครราชทูตประจำกระทรวง (แทนนายธนาธิป อุปัติศฤงค์ )

           19 สิงหาคม พ.ศ. 2551 : อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย (นักบริหาร 10) (แทนกฤต ไกรจิตติ)

           26 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 : เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ (กรุงเฮก)


ตำแหน่งอื่น ๆ :

           14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550 : กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการประสานงานและกระชับความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
วีรชัย พลาศรัย ประวัติ ท่านทูตวีรชัย หัวหน้าทีมสู้คดีเขาพระวิหาร อัปเดตล่าสุด 15 พฤศจิกายน 2556 เวลา 11:30:09 1,831 อ่าน
TOP