เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Privacyfix
ในยุคที่โซเชียลเน็ตเวิร์กกำลังเป็นที่นิยมแบบนี้ ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตแทบทุกคนน่าจะเคยใช้บริการโซเชียลเน็ตเวิร์กกันบ้างแน่นอน โดยเฉพาะเฟซบุ๊ก (Facebook) ที่มียอดผู้ใช้งานมากที่สุดในโลก แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ตัวว่า ข้อมูลส่วนตัวที่ลงไว้บนเฟซบุ๊กนั้น อาจถูกนำไปเผยแพร่หรือใช้หาผลประโยชน์ไปโดยที่ไม่รู้ตัวก็ได้ หากไม่ได้กำหนดค่าความเป็นส่วนตัวเอาไว้ ซึ่งหลาย ๆ คนอาจพบกับความยุ่งยากเมื่อต้องการเข้าไปตั้งค่าความเป็นส่วนตัวในเฟซบุ๊ก เนื่องจากมันมีรายละเอียดมากมายและซับซ้อนเหลือเกิน ทำให้ไม่รู้จะเริ่มปรับอะไรตรงไหนยังไงดี วันนี้กระปุกดอทคอมจึงมีโปรแกรมดี ๆ ที่ชื่อว่า Privacyfix มาแนะนำสำหรับคนที่ใช้งานเฟซบุ๊กหรือโซเชียลเน็ตเวิร์กอื่น ๆ ให้สามารถตั้งค่าความเป็นส่วนตัวให้ข้อมูลต่าง ๆ ของเราไม่ถูกเผยแพร่และถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัยได้อย่างสะดวกสบายนั่นเอง
Privacyfix เป็นโปรแกรมเสริม (Extension) สำหรับใช้งานบนเว็บบราวเซอร์ Chrome ที่สามารถช่วยตรวจสอบการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวบัญชีโซเชียลเน็ตเวิร์กอย่างเฟซบุ๊กหรือ Google+ และแจ้งให้เราทราบว่ามีช่องโหว่ส่วนไหนบ้างที่อาจทำให้ข้อมูลรั่วไหลออกไปหรืออาจถูกนำไปใช้หาผลประโยชน์อย่างการโฆษณาได้ โดยมีแยกเป็นหัวข้อต่าง ๆ (ยกตัวอย่างในส่วนของเฟซบุ๊ก) ได้แก่ Your Profile (ข้อมูลส่วนตัวของเรา), Posts & Like (การโพสต์และกดไลค์ของเรา), Off Facebook (การถูกดึงข้อมูลไปใช้นอกเฟซบุ๊ก), Your Apps (แอพฯ ต่าง ๆ บนเฟซบุ๊ก) ซึ่งจะมีปุ่มให้คลิกเพื่อเข้าไปใส่หน้าตั้งค่าของแต่ละหัวข้อได้โดยตรง พร้อมทั้งแนะนำว่าควรปรับแต่งส่วนไหนอย่างไรให้ข้อมูลของเราถูกเก็บอย่างปลอดภัยที่สุด
นอกจากนี้ ยังมีส่วนที่ช่วยรักษาความปลอดภัยในการเข้าแต่ละเว็บไซต์ได้อีกด้วย โดยการแจ้งเตือนว่าเว็บไซต์ใดมีการนำข้อมูลของเราไปใช้งานบ้าง เพื่อที่เราจะได้ตัดสินใจว่าจะเข้าใช้งานเว็บไซต์ดังกล่าวและยินยอมให้สามารถนำข้อมูลของเราไปใช้หรือเผยแพร่ได้หรือไม่ และยังสามารถแสดงผลสรุปให้เราดูได้อีกด้วยว่าที่ผ่านมาเฟซบุ๊กหรือ Google+ มีรายได้จากการนำข้อมูลของเราไปใช้ในการโฆษณาเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ต่อปี รวมทั้งได้ติดตามข้อมูลการเข้าเว็บไซต์ของเราไปทั้งกี่เปอร์เซ็นต์อีกด้วย
สำหรับผู้ที่ต้องการใช้งาน Privacyfix สามารถเข้าไปดาวน์โหลดมาติดตั้งบน Chrome ได้ที่เว็บไซต์ของ Privacyfix หรือ Chrome Web Store เลยครับ และในเว็บไซต์ของ Privacyfix ยังมีระบุไว้อีกว่าในอนาคตจะมีแอพพลิเคชั่นสำหรับ iOS และ Android อีกด้วย
