สคบ. หวั่น นักศึกษาจบใหม่ผ่อนโครงการรถคันแรกไม่รอด เตรียมประสานทุกหน่วยงานตั้งรับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต พร้อมเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน พบว่า อยากให้รัฐควบคุมการผลิตรถให้มีคุณภาพ
วันนี้ (29 มกราคม) นายจิรชัย มูลทองโร่ย เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับรถคันแรกว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาการรับรถ หรือการผิดสัญญาจากการขายรถยนต์ในโครงการรถยนต์คันแรก เพราะยังอยู่ในระยะเริ่มต้น แต่เชื่อว่าผู้ที่ทำสัญญาเมื่อปลายปี 2555 น่าจะเริ่มได้รับผลกระทบจากการที่บริษัทผลิตรถยนต์ทำไม่ทันต่อความต้องการ ดังนั้นช่วง 6 เดือนหลังจากนี้จะเห็นปัญหาชัดเจนขึ้น
ทั้งนี้ สคบ. ยังได้เตรียมข้อมูลปัญหาที่คาดว่าจะพบระหว่างผู้ประกอบการและผู้บริโภค รวมทั้งข้อเป็นห่วงในโครงการรถคันแรกเพื่อร่วมประชุมกับสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย โดยจะจัดการประชุมในเดือนกุมภาพันธ์แทนการเรียกผู้ประกอบการมาพบ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการ อีกทั้งในสมาคมจะมีตัวแทนจากผู้ประกอบการรถยนต์ครบถ้วนอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม หลังจาก สคบ. ให้มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ศึกษาปัญหาที่อาจเกิดขึ้น พบว่าสิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ ผู้เข้าโครงการรถคันแรกจำนวนหนึ่งเป็นนักศึกษาจบใหม่ยังไม่มีฐานะทางการเงินที่มั่นคงมากพอ ในเดือนแรก ๆ อาจจะยังมีกำลังส่งได้ แต่หลังจากนั้นเกรงว่าจะเริ่มผิดชำระเงิน
สำหรับโครงการวิจัย การศึกษาเชิงสำรวจปัญหาสังคมบริโภคนิยม กรณีปัญหาจากการซื้อรถยนต์มือหนึ่ง โดยคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต สุ่มจากกลุ่มตัวอย่าง 2,000 คนทั่วประเทศ มีประเด็นหลักและผลสรุป ดังนี้
ประเด็นที่ 1 ปัญหาที่พบจากการซื้อรถยนต์มือหนึ่ง พบว่า ไม่พบปัญหา 82.31% พบปัญหา 16.60% แบ่งออกเป็นประเด็น คือ
1. ได้รถช้า ไม่ตรงตามกำหนด 51.92%
2. ปัญหาเรื่องคุณภาพรถ อุปกรณ์เสริมไม่มีคุณภาพหรือไม่ตรงตามที่ตกลงไว้ 24.23%
3. ปัญหาอื่น ๆ เช่น ปัญหาด้านเอกสาร ปัญหาเรื่องประกันภัย 23.85%
ทั้งนี้ แม้ว่าการสำรวจจะพบว่ากว่า 80% ยังไม่พบปัญหา แต่เชื่อว่าหลังจากนี้กลุ่มดังกล่าวจะพบปัญหากว่าครึ่งหนึ่งแน่นอน ดังนั้นจึงควรหามาตรการเพื่อป้องกัน
ประเด็นที่ 2 ปัญหาที่พบจากสัญญาจองรถยนต์มือหนึ่ง คือ ผู้บริโภค 87.81% ให้ความสำคัญกับการอ่านสัญญาอย่างละเอียด ในขณะที่ 10.1% อ่านสัญญาแต่ไม่ละเอียดเท่าที่ควร โดยผู้อ่านละเอียดพบว่า
1. สัญญาไม่ละเอียด ไม่ชัดเจน ไม่เป็นธรรม 60.53%
2. ไม่พบปัญหา 34.21%
3. อื่น ๆ เช่น คุณภาพของรถยนต์ 5.26%
ประเด็นที่ 3 ปัญหาเกี่ยวกับการกำหนดมาตรฐานจำนวนเงินในการจองรถ พบว่า
1. ควรกำหนดมาตรฐานจำนวนเงินในการจองรถ 75.99%
2. ไม่ควรกำหนดมาตรฐานจำนวนเงินในการจองรถ 22.87%
3. ไม่ระบุ 1.14%
ประเด็นที่ 4 เหตุผลที่สำคัญในการซื้อรถยนต์มือหนึ่ง พบว่า
1. คุณภาพรถ และราคาคุ้มค่ากว่ารถมือสอง ประหยัดน้ำมัน 81.07%
2. โปรโมชั่นที่ได้รับ นโยบายรถคันแรก 27.13%
3. อื่น ๆ เช่น เพื่อความสะดวกในชีวิตประจำวัน ศูนย์บริการที่มีคุณภาพ และนำไปประกอบธุรกิจ 12.34%
ทั้งนี้ เมื่อสอบถามว่าต้องการให้ภาครัฐช่วยเหลือเรื่องใด พบว่า ต้องการให้ตรวจสอบควบคุมกำกับการผลิตให้มีคุณภาพ ควบคุมการโฆษณา และควบคุมราคาสูง ถึง 58.82% รองลงมาคือปัญหาราคาน้ำมัน 23.53% และการดูแลการส่งมอบรถให้ตรงเวลา 17.65%
นอกจากนี้ เมื่อถามว่าต้องการให้ สคบ. แก้ไขเรื่องใดมากที่สุด พบว่า ต้องการให้ควบคุมการโฆษณา ตัวแทนขายให้เป็นไปตามกฎระเบียบและข้อตกลงกับลูกค้า 43.25% รองลงมาคือตรวจสอบคุณภาพรถ เข้มงวดกับผู้ประกอบการ ด้านคุณภาพรถ และเร่งรัดการแก้ไขปัญหาให้เร็วขึ้น 40.54% ซึ่งสคบ.จะได้นำผลการสำรวจทั้งหมดมาดำเนินการแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ได้แก่
1. เชิญผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการจำหน่ายรถยนต์มาหารือ เพื่อกำหนดแนวทางในการแก้ไขปัญหาผู้บริโภค กรณีไม่ได้รับรถตามกำหนดสัญญาจอง
2. มอบหมายให้เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ ออกตรวจข้อสัญญาตามประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่องให้ธุรกิจการขายรถยนต์ที่มีการจองเป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พ.ศ. 2551
3. ดำเนินการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั่วไปรับทราบสิทธิผู้บริโภคเกี่ยวกับการซื้อรถยนต์ใหม่ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก