เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
สคบ. สั่งเข้ม ใบจองรถคันแรกต้องละเอียด ชี้ไม่งั้นเป็นการหลอกลวงผู้บริโภค หากผู้บริโภคพบว่าใบจองลงรายละเอียดไม่ชัดเจน ร้องเรียน สคบ. ได้ทันที
วันนี้ (7 ธันวาคม) นายจิรชัย มูลทองโร่ย เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ทาง สคบ. ได้ทำหนังสือถึงผู้ประกอบการทุกค่ายพิจารณาการออกใบจองรถยนต์ใหม่ให้ลูกค้า โดยให้แสดงรายละเอียดให้ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเวลาการผลิตรถ, ขนาดของเครื่องยนต์ และกำหนดเวลาส่งมอบรถ พร้อมทั้งสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับ ทั้งนี้ เนื่องจาก สคบ. ได้เข้าไปตรวจสอบค่ายรถ พบว่ามีค่ายรถยนต์บางค่ายไม่แสดงรายละเอียดให้ครบถ้วน เพราะฉะนั้นจะถือว่าเป็นการเข้าข่ายผู้บริโภคได้
เลขาธิการฯ สคบ. กล่าวต่อว่า สำหรับการจองรถที่มีจำนวนมากในขณะนี้ เมื่อตรวจสอบเห็นว่าไม่มีรายละเอียดให้ผู้บริโภคเลย ทั้ง ๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ และเป็นสิทธิของผู้บริโภค ซึ่งค่ายรถบางค่ายก็กะเอาแค่ขายใบจองไปก่อน แต่ยอดการผลิตจะทำเมื่อไรก็ยังไม่รู้ ดังนั้น จึงต้องออกมาแจ้งเตือนก่อน เพราะใกล้จะสิ้นสุดโครงการดังกล่าวแล้ว ส่วนผู้ที่จองไปแล้วนั้น หากพบว่าการจองไม่ละเอียดชัดเจน ก็สามารถแจ้ง สคบ. เพื่อสอบถามถึงค่ายรถนั้น ๆ ได้
อย่างไรก็ตาม ทาง สคบ. ได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับรถยนต์ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2554 - 15 สิงหาคม 2555 ทั้งสิ้น 889 เรื่อง โดยระบุได้ดังนี้
ขอเงินจองคืนเนื่องจากไม่ได้รถยนต์ 100 รายการ ขอเงินจองคืนเนื่องจากไม่เป็นไปตามที่ระบุไว้ในสัญญา 69 รายการ ยกเลิกสัญญาและขอเงินคืน 53 รายการ ชำรุด 231 รายการ คืนรถ ค้างค่างวด 91 รายการ ยึดรถคืน 40 รายการ ขอชดใช้ค่าเสียหาย 38 รายการ ค่าปรับสูง 31 รายการ ตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่ 31 รายการ ขอคำปรึกษา 30 รายการขณะที่ สุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (เครดิตบูโร) เปิดเผยว่า ปริมาณการเรียกดูข้อมูลเครดิตของสมาชิกในปี 2555 ผ่านเครดิตบูโรมีปริมาณที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ มีจำนวนเรียกดูแล้วกว่า 17.5 ล้านครั้ง จากปีก่อนทั้งปี 19 ล้านครั้ง ส่วนบัญชีสินเชื่อเช่าซื้อ 9 เดือนแรก มีปริมาณบัญชีใหม่อยู่ที่ 1.6 ล้านบัญชี จากไตรมาสแรกที่มีประมาณ 5 แสนบัญชี
นายสุรพล กล่าวต่อว่า สำหรับสถานะในการชำระหนี้ของสินเชื่อส่วนบุคคลช่วง 9 เดือนแรก พบว่ามีปริมาณหนี้เสียที่มีการค้างชำระเกิน 90 วันเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันสินเชื่อส่วนบุคคลรวมมี 12 ล้านบัญชี และเป็นเอ็นพีแอลแล้ว 1 ล้านบัญชี เพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อนหน้า
ส่วนลูกค้าในกลุ่มเช่าซื้อรถยนต์ที่มีการเติบโตสูงจากนโยบายรถคันแรกนั้น ตนยังไม่เห็นความผิดปกติ แต่ต้องจับตาดูในช่วง 12 เดือนข้างหน้าว่า จะมีสัญญาณอย่างไรหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ตนเป็นห่วงปัจจัยเรื่องค่าครองชีพที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อการชำระหนี้ในอนาคตได้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
