6 อาการผิดปกติของร่างกายที่ไม่ควรละเลยเป็นอย่างยิ่ง

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          เมื่อเวลาผ่านไปร่างกายของคนเราก็ย่อมร่วงโรยไปตามอายุ จากคนที่เคยแข็งแรงไม่ค่อยเจ็บป่วย ตอนนี้กลับมีอาการแปลก ๆ อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทว่าหนุ่ม ๆ หลายคนก็ไม่ค่อยสนใจเพราะคิดว่าอาการอิดโรยเหล่านั้นเกิดขึ้นจากการทำงานหนัก ถ้าหาเวลาพักผ่อนสักนิดก็คงจะหายเอง แต่จริง ๆ แล้วอาการเหล่านั้นถือเป็นสัญญาณอันตรายเบื้องต้นที่กำลังส่งเสียงเตือนคุณว่าร่างกายต้องได้รับการดูแลอย่างด่วนเลย ส่วนจะมีอาการอย่างไรบ้าง...งั้นลองไปดูกันดีกว่าครับ

 1. น้ำหนักลด

          เมื่อมีคนมาทักว่าผอมลงหรือรู้ว่าตัวเองน้ำหนักลดลง คนส่วนมากมักจะรู้สึกดีใจมากกว่าเสียใจ เพราะคิดว่าเมื่อผอมลงจะช่วยให้ตัวเองดูดีขึ้น ซึ่งจริง ๆ แล้ว หากคุณไม่ได้ออกกำลังกาย และยังคงมีนิสัยการกินเหมือนเดิม แต่น้ำหนักกลับลดลงอย่างรวดเร็วนั้นถือเป็นเรื่องไม่ดีแล้วล่ะ เพราะอาการเหล่านี้เป็นสัญญาณเบื้องต้นว่าคุณอาจจะกำลังเป็นโรคร้าย อาทิ โรคมะเร็ง เบาหวาน หรือต่อมไทรอยด์เป็นพิษ ฉะนั้นหากน้ำหนักของคุณลดลงผิดปกติเช่นนี้ ควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วน


2. หายใจติดขัด

          ลมหายใจเปรียบเสมือนชีวิตของเราที่คอยหล่อเลี้ยงชีวิตของเราให้ดำเนินต่อไป ดังนั้นเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณมีอาการหายใจติด ๆ ขัด ๆ หรือหายใจไม่สะดวก แสดงว่าคุณมีโอกาสเผชิญหน้ากับโรคหอบหืด หรือมีลิ่มเลือดคั่งในปอดอยู่ นอกจากนี้อาจเหมารวมไปถึงอาการเบื้องต้นของโรคหัวใจได้อีกด้วย ซึ่งหากคุณไม่รีบรักษาตั้งแต่ต้นอาการที่ว่าจะรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ในที่สุด

3. ไมเกรน

          อาการปวดหัวแบบเฉียบพลัน ส่วนมากมักเกิดขึ้นบริเวณขมับ รอบดวงตา หน้าผาก และขากรรไกร บางรายอาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียนตามมาด้วย นอกจากนี้ยังมีอาการเห็นแสงแวบเข้ามา หรือรู้สึกว่าตาพร่ามัวในบางระยะ หากมีอาการเหล่านี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งก็ควรหันมาสำรวจพฤติกรรมในชีวิตประจำวันดูบ้าง ว่าทำงานแบบหามรุ่งหามค่ำหรือเครียดมากไปไหม หรือพยายามลดน้ำหนักอย่างเอาเป็นเอาตาย จนลืมใส่ใจขีดจำกัดของตัวเองไปหรือเปล่า เพราะคุณอาจจะหักโหมมากเกินไปจนทำให้อาการไมเกรนกำเริบขึ้นมาก็ได้ นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ เพราะของเหล่านี้จะทำให้อาการทรุดหนักกว่าเดิม

4. ปวดฟัน

          เมื่อพูดถึงหมอฟัน หลาย ๆ คนอาจจะรู้สึกขยาดกับเสียงหวีดจากเครื่องกรอฟัน จนคอยเลี่ยงการนัดหมายกับทันตแพทย์มาโดยตลอด หรือคิดว่าเรื่องในช่องปากไม่ค่อยสำคัญเท่าไหร่ เพราะถึงแม้จะปวดฟันอยู่บ้าง แต่ก็ยังสามารถกินอาหารได้ตามปกติ ทว่าในความเป็นจริงแล้วอาการปวดฟันเหล่านั้น อาจไม่ได้เกิดจากปัญหาภายในช่องปากโดยตรง แต่เป็นผลกระทบจากระบบอื่น ๆ ภายในร่างกาย อย่างเช่น ปัญหาในระบบทางเดินอาหาร หรือกำลังมีปัญหาในระบบการมองเห็นอยู่ก็เป็นได้ อย่าชะล่าใจไปเลยนะ หากมีอาการนี้เกิดขึ้นกับคุณควรรีบไปปรึกษาแพทย์ทันที


5. ท้องเสีย

          จริงอยู่ที่ใคร ๆ ต่างก็มีโอกาสท้องเสียได้ทั้งนั้น หากกินอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ แต่หากคุณมีอาการท้องเสียติดต่อกันนานหลายวัน และทานยาแล้วอาการก็ยังไม่ดีขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วน เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริง เพราะคุณอาจกำลังเผชิญหน้ากับโรคร้ายอื่น ๆ อยู่น่ะสิ ซึ่งส่วนมากสาเหตุของความผิดปกตินั้นเกิดจากเหล่าปรสิตที่สะสมอยู่ในร่างกาย นอกจากนี้ท้องเสียยังเป็นอาการเบื้องต้นของโรคมะเร็ง และถุงน้ำดีผิดปกติได้อีกด้วย

6. ความดันโลหิตสูง

          โรคความดันโลหิตสูงเป็นโรคที่ไม่ค่อยแสดงอาการทางกายมากเท่าไหร่นัก ซึ่งหลายคนก็เป็นโดยไม่รู้ตัว หรือรู้แล้วแต่ก็ปล่อยผ่านไปไม่ได้ใส่ใจเท่าใดนัก เมื่อรู้ตัวอีกทีก็อาจจะสายเกินแก้แล้วก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นหากตอนนี้คุณมีน้ำหนักมาก อ้วนลงพุง นอนหลับไม่เพียงพอ หรือไม่ค่อยออกกำลังกาย ควรปรับเปลี่ยนนิสัยโดยด่วน ก่อนที่จะเกิดโรคแทรกซ้อนอย่างอื่นตามมา เช่น โรคอัมพฤกษ์อัมพาต โรคหลอดเลือดในสมองตีบ และโรคหลอดเลือดในหัวใจตีบ ซึ่งบางครั้งอาจร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยนะ

          ว่ากันมาซะขนาดนี้...ถ้างั้นลองหันมาเช็กความผิดปกติของร่างกายคุณเองดูเสียหน่อยสิว่า มีอาการดังที่กล่าวมาข้างต้นบ้างหรือไม่ ถ้าไม่มีก็ถือเป็นเรื่องที่ดีมาก แต่หากบังเอิญคุณกำลังมีอาการผิดปกติเหล่านี้อยู่ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อขอคำปรึกษาและวิธีการรักษาโดยด่วน ก่อนที่อาการเจ็บป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ จะลุกลามจนกลายเป็นโรคร้ายนะครับ