เทคนิคง่าย ๆ ในการรับมือกับความเครียดและความล้มเหลว

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

           ในชีวิตของแต่ละคนนั้น...เราเชื่อว่าแทบทุกคนล้วนเคยประสบกับความเครียดและความผิดหวังมาแล้วแทบทั้งนั้น แม้กระทั่งผู้ที่ได้ชื่อว่าประสบความสำเร็จในชีวิต ศิลปินคนดัง หรือเจ้าของธุรกิจพันล้านหลาย ๆ คน ก็ย่อมเคยล้มลุกคลุกคลานกันมาทั้งสิ้น ทว่าอะไรคือกุญแจสำคัญที่ช่วยให้พวกเขาผ่านช่วงเวลาอันย่ำแย่เหล่านั้นจนมีวันนี้ได้ล่ะ?

           หากคุณเป็นหนึ่งในจำนวนคนนับล้านที่กำลังท้อแท้ สิ้นหวัง และมีปัญหาความเครียด จากความล้มเหลวในชีวิตอยู่ล่ะก็ ลองมาดูเทคนิคง่าย ๆ ที่กระปุกดอทคอมนำมาแนะนำให้ทราบกันหน่อยไหมครับ บางทีมันอาจช่วยให้คุณรับมือกับความกังวลที่ก่อตัวอยู่ในจิตใจในขณะนี้ได้ดียิ่งขึ้นนะ

พักความกังวลทิ้งไว้ แล้วไปนอนดีกว่า

           ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อนะว่าการหลับตาทิ้งตัวลงนอนหลับพักผ่อน จะช่วยคลายความวิตกกังลของคุณได้ แต่มันก็เป็นเรื่องจริงนะ ถึงแม้อาจมีหลายคนแย้งขึ้นมาว่าก็เพราะมีปัญหาที่ต้องขบคิดรบกวนจิตใจอยู่นี่แหละที่ทำให้นอนไม่หลับ แล้วถ้าอย่างนั้น ทำไมคุณถึงไม่เลิกแบกความกังวลเอาไว้ก่อนล่ะ? เพราะหลายครั้งที่คนพยายามคิด ๆ ๆ จนหัวแทบแตก แต่คิดยังไงก็คิดไม่ออกซักที ทว่าพอลองตัดสินใจไปนอน ตื่นมาตอนเช้าปรากฏว่าไอเดียต่าง ๆ กลับพรั่งพรูออกมาจากหัวสมองในทันทีทันใด ฉะนั้น เมื่อไหร่ก็ตามที่มีปัญหาคิดไม่ตก ลองพักสมองชั่วคราวด้วยการนอนหลับสิ

พยายามมองอะไรในแง่บวกให้มากขึ้น

           การไม่ยอมรับความจริง, ปฏิเสธความผิดของตัวเอง, จับเจ่าอยู่แต่กับล้มเหลว หรือมองโลกในแง่ร้าย ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ยิ่งทำให้คุณเกิดความเครียดแทบทั้งสิ้น ซึ่งมันไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นมา แทนที่จะหมกมุ่นกับสิ่งแย่ ๆ ให้เสียเวลา สู้คุณหันมายอมรับความจริง แล้วหาทางแก้ไขยังจะมีประโยชน์เสียกว่า ที่สำคัญลองหันมามองโลกในแง่บวกบ้าง เพราะการมองโลกในมุมนี้ก็ช่วยลดขนาดของปัญหาลงได้บ้าง (อย่างน้อยก็ในแง่เรื่องความคิด)

เดินตามความฝัน แต่ไม่ใช่เพื่อเป้าหมาย

           มองเผิน ๆ สองสิ่งนี้อาจดูคล้ายกัน ทว่าก็มีความต่างอยู่ไม่น้อย หากได้ยินคำว่าเป้าหมาย คุณอาจรู้สึกกดดันว่าต้องทำให้ได้ตามเป้าที่วางไว้ ถ้าทำไม่ได้นั้นคือความล้มเหลว แต่เมื่อนึกถึงความฝัน คุณจะรู้สึกผ่อนคลายกับคำ ๆ นี้มากกว่า ว่ามันคือสิ่งที่คุณนึกคิดอยากจะทำด้วยใจจริง ๆ รวมทั้งมีความสุขที่ได้เดินตามความฝันด้วย แต่หากลงมือปฏิบัติแล้วไม่สำเร็จ ก็ไม่มีอะไรที่ต้องเสียใจหรือผิดหวังมากมาย ก็แค่ความฝันเรื่องนึงที่ไม่เป็นจริง เพราะยังเสียพรุ่งนี้ความฝันใหม่ ๆ ก็เกิดขึ้นอีก ความคาดหวังระหว่างความฝันและเป้าหมายต่างกันนะ


อย่าให้ความคิดของคนอื่นมีผลกระทบต่อคุณ

           หลาย ๆ คนมักปล่อยให้ความคิดของคนรอบข้างเข้ามามีอิทธิพลต่อจิตใจของคุรมากจนเกินไป จนทำให้บางครั้งคุณหวั่นไหวไปกับคำพูดของพวกเขา ซึ่งอันที่จริงบางทีคุณอาจไม่ได้เป็นอย่างที่โดนกล่าวหาก็ได้ ถ้าคุณมั่นใจซะอย่างว่าสิ่งที่ทำไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร ก็ทำไปเถอะ เพราะขืนปล่อยให้คนอื่น (โดยเฉพาะคนที่ไม่สนิทชิดเชื้อกับคุณ) มาไซโคได้ง่าย ๆ มีหวังเครียดตายเลยน่ะสิ

อย่าเอาทุกอย่างมาถือเป็นเรื่องส่วนตัว

           นี่เป็นเหตุผลสำคัญอีกข้อนึงที่ทำให้คนเราเกิดความเครียดและจมอยู่กับความล้มเหลว ลองคิดดูสิว่าถ้าคุณดึงเอาเรื่องทุกอย่างรอบตัวมาโยงเข้าเรื่องชีวิตตัวเองทั้งหมดแบบนี้มีหวังปวดหัวแย่ เช่น เพื่อนร่วมงานเห็นต่างกับคุณในโปรเจคท์งานที่ทำร่วมกัน โดยถกเถียงในห้องประชุมอย่างเคร่งเครียด พอนอกเวลางานคุณกลับรู้สึกไม่พอใจเขา และคิดว่าเพื่อนก็คงไม่พอใจคุณเช่นกัน ทั้งที่อีกฝ่ายไม่ได้คิดอะไรเลยด้วยซ้ำ อีแบบนี้น่ะคนที่ทุกข์ใจคือคุณเองนั่นแหละ

  หาเวลาไปพักผ่อนบ้างก็ดี

           ในเมื่อชีวิตจริงคนเราก็อาจจะหลีกเลี่ยงความเครียดไปได้ไม่พ้น ฉะนั้นลองหาเวลาว่างในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ เดินทางไปพักผ่อนในสถานที่ที่ห่างไกลจากความวุ่นวายและผู้คนดูบ้างสิ แล้วคุณจะรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นราวกับได้ชาร์จพลังขึ้นมาใหม่เชียวล่ะ

           หลังจากที่ได้ทราบเทคนิคการจัดการกับความเครียดและความล้มเหลวที่เรานำมาฝากกันไปแล้ว หวังว่าคงช่วยให้คุณเตรียมรับมือกับปัญหาในชีวิตได้บ้างไม่มากก็น้อย แต่หากลองสังเกตดี ๆ ปัจจัยหลักของการรับมือก็น่าจะอยู่ที่การปรับทัศนคติของตัวเอง รวมทั้งใช้สติทุกครั้งเมื่อเจอปัญหา เพียงเท่านี้คุณก็จะมีความสุุขกับชีวิตได้ไม่ยากแล้วล่ะครับ