x close

8 น้ำหอมผู้ชายมาแรง ที่อยากแนะนำให้หามาใช้เพิ่มความหอม


น้ำหอมผู้ชาย

          รวมน้ำหอมผู้ชายยอดนิยม ที่เหมาะสำหรับใช้ในฤดูหนาวนี้ กลิ่นติดทน หอมอยู่นาน

          หนุ่ม ๆ คนไหนที่กำลังมองหาน้ำหอมกลิ่นใหม่มาใช้ต้อนรับลมหนาวที่กำลังจะมาเยือนบ้านเรา แต่ยังไม่รู้ว่ากลิ่นไหนที่คนเขากำลังฮิต ๆ ละก็ วันนี้เราได้คัดเอาน้ำหอมผู้ชาย ตัวเด่น ๆ ที่เหมาะกับใช้ในช่วงอากาศหนาว ๆ มาฝากกันครับ

           Acqua di Parma Colonia Club

น้ำหอมผู้ชาย
ภาพจาก acquadiparma

          น้ำหอมกลิ่นนี้มีกลิ่นท็อปโน้ตที่โดดเด่นจากซิตรัส ผสมผสานเข้ากับเนโรลี่หรือน้ำมันหอมระเหยจากดอกส้ม มินต์ และยางไม้ของต้นยี่หราจากประเทศอิหร่านได้อย่างลงตัว ผลลัพธ์ที่ได้คือกลิ่นหอมที่ให้ความรู้สึกสดชื่น ก่อนจะได้สัมผัสช่วงมิดเดิลโน้ตกับความหอมละมุนในช่วงเบสโน้ตด้วยกลิ่นอาโรม่าจากต้นเจอเรเนียมและดอกลาเวนเดอร์ ใครที่ชอบความสดชื่นขอให้ลองตัวนี้เลย มีให้เลือกระหว่างขนาด 50 มิลลิลิตร และ 100 มิลลิลิตร สนนราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 88 เหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 3,025 บาท)

          Boss The Scent

น้ำหอมผู้ชาย
ภาพจาก hugoboss

          หนุ่ม ๆ คนไหนที่อยากได้น้ำหอมกลิ่นที่บ่งบอกถึงความเป็นชายได้ชัดเจนละก็ น้ำหอมจากฮิวโก้บอสรุ่นนี้น่าจะตอบโจทย์ความต้องการได้ตรงจุดเลยทีเดียว ปลุกเสน่ห์ความเป็นชายในตัวคุณด้วยกลิ่นหนัง ผสมผสานกับกลิ่นหอม ๆ จาก Aphrodisiac Maninka ผลไม้จากประเทศแอฟริกา ก่อนสัมผัสกลิ่นปิดท้ายของขิงที่จะทิ้งความหอมไว้บนเรือนร่าง โดยน้ำหอมมีขนาด 50 มิลลิลิตร สนนราคาอยู่ที่ 68 เหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 2,338 บาท)
 
          Aesop Marrakech Intense Eau de Toilette

น้ำหอมผู้ชาย
ภาพจาก aesop

          น้ำหอมจากแบรนด์ Aesop ตัวนี้ เปิดมาปุ๊บจะได้กลิ่นอโรม่าของไม้ผสมผสานกับความสดชื่นของดอกไม้ในช่วงท็อปโน้ตและมิดเดิลโน้ต รวมถึงช่วยปลุกความสดใสด้วยกลิ่นของส้มและเลมอน เหมาะจะนำติดตัวไปทำงานหรือเดินทางไปด้วย แม้กลิ่นอาจไม่ติดทนนาน ทว่าความหอมของมันนี่แหละ ที่จะทำให้คุณหลงใหล วางขายแล้วในราคา 80 เหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 2,750 บาท)

          Oliver Sweeney Argento

น้ำหอมผู้ชาย
ภาพจาก oliversweeney

          น้ำหอมจาก Oliver Sweeney รุ่น Argento ผลิตขึ้นที่ฝรั่งเศส เอาใจหนุ่ม ๆ ที่อยากได้น้ำหอมเอาไว้ฉีดยามออกไปท่องราตรีในยามค่ำคืนตัวนี้ขึ้นมา มีกลิ่นท็อปโน้ตที่หอมเตะจมูกจากไม้ซีดาร์และไม้จันทน์ ก่อนจะได้สัมผัสกลิ่นหอมอย่างเต็มที่จาก oud และไม้แคชเมียร์ แล้วปิดท้ายด้วยกลิ่นอันแสนเย้ายวนจากน้ำมันหอมระเหยและมอสส์ วางขายแล้ว 143 เหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 4,915 บาท) สำหรับขนาด 100 มิลลิลิตร

          Polo Supreme Oud

น้ำหอมผู้ชาย
ภาพจาก ralphlauren

          อีกหนึ่งแบรนด์น้ำหอมยอดนิยมของคุณผู้ชายอย่าง Polo ก็มีน้ำหอมแนะนำรุ่น Supreme Oud ที่น่าจะถูกใจคนที่ชอบกลิ่นแมน ๆ เป็นพิเศษ ด้วยส่วนผสมที่มิกซ์กันได้อย่างลงตัวของเครื่องเทศ กลิ่น Oud และกลิ่นไม้นานาชนิด จนได้ออกมาเป็นกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง โดยขนาดเล็ก 40 มิลลิลิตร จำหน่ายอยู่ที่ราคา 74 เหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 2,545 บาท)

          Tom Ford Grey Vetiver

น้ำหอมผู้ชาย
ภาพจาก tomford

          ทางด้าน Tom Ford เองก็มีน้ำหอมผู้ชายที่ชอบกลิ่นที่ให้ความรู้สึกสดชื่น เหมาะกับใช้ในช่วงอากาศเย็น ๆ อยู่เหมือนกัน โดยน้ำหอมรุ่นนี้มีกลิ่นหอมอันโดดเด่นของหญ้าแฝก ผสานกับกลิ่นความสดชื่นจากซิตรัส เครื่องเทศ และไม้นานาชนิด โดยราคาจำหน่ายสำหรับขนาด 50 มิลลิลิตร อยู่ที่ 95 เหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 3,265 บาท) และ 100 มิลลิลิตร ราคา 135 เหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 4,640 บาท)

          Armani Code Ice

น้ำหอมผู้ชาย
ภาพจาก armanibeauty

          ดูเหมือนว่า Armani จะมีน้ำหอมที่ออกมาได้เหมาะกับใช้ในช่วงหน้าหนาวมาก โดยเฉพาะหนุ่ม ๆ ที่ชอบความเย็นสดชื่นเป็นพิเศษ แค่ชื่อรุ่นก็สัมผัสได้ถึงความเย็นแล้วเนี่ย ซึ่งจุดเด่นอยู่ตรงความหอมของกลิ่นซิตรัส ผสานความหอมหวานของกลิ่นเครื่องเทศ และกลิ่นไม้แนวอโรม่า ผลที่ได้ความกลิ่นหอมเย็นสดชื่นที่จะติดตัวคุณไปตลอดทั้งวัน มีให้เลือก 2 ขนาดระหว่าง 50 มิลลิลิตร ราคา 72 เหรียญสหรัฐ (หรือ 2,475 ประมาณ  บาท) และ 75 มิลลิลิตร ราคา 89 เหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 3,060 บาท)

          BVLGARI Man in Black

น้ำหอมผู้ชาย
ภาพจาก bulgar

          ใครที่อยากได้น้ำหอมกลิ่นที่ชวนให้นึกถึงบุคลิกสุขุมลุ่มลึกอยู่ละก็ BVLGARI Man in Black น่าจะเป็นทางเลือกที่คุณกำลังมองหา เมื่อฉีดปุ๊บคุณจะได้สัมผัสกลิ่นเครื่องเทศและ Ambery Rum สะกิดจมูกเป็นอย่างแรก ก่อนจะเจอท็อปโน้ตกลิ่นดอกซ่อนกลิ่น ดอกไอริส และกลิ่นหนัง แล้วปิดท้ายด้วยกลิ่นกำยาน Tonka Bean และไม้หอมจาก Guaiac Wood โดยขนาด 100 มิลลิลิตร วางขายแล้วในราคา 92 เหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 3,163 บาท)

          นับว่าน้ำหอมผู้ชายแต่ละตัวที่กล่าวมานั้น ล้วนแล้วแต่มีกลิ่นหอมที่ดึงดูดใจทั้งนั้นเลย ใครชอบรุ่นไหน ก็ลองไปพิสูจน์กลิ่นที่ร้านก่อนซื้อกันได้เลย เพราะคุณต้องลองฉีดดูก่อนว่ากลิ่นน้ำหอมเหมาะกับบุคลิกคุณไหม และจะอยู่ติดทนนานมากแค่ไหน ทั้งนี้เพื่อให้ได้น้ำหอมที่ถูกใจใช่เลยมากที่สุดนั่นเอง

**หมายเหตุ : ราคาข้างต้นเป็นราคาโดยประมาณ แนะนำให้ตรวจสอบกับทางร้านอีกครั้งครับ

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
8 น้ำหอมผู้ชายมาแรง ที่อยากแนะนำให้หามาใช้เพิ่มความหอม อัปเดตล่าสุด 27 ตุลาคม 2558 เวลา 15:43:33 49,410 อ่าน
TOP