ก่อนที่ แมทธิว กอร์รี หนุ่มจากเมืองเพิร์ท วัย 22 ปี จะลุกขึ้นมาเปลี่ยนตัวเองนั้น เขาเคยมีน้ำหนักตัวมากถึง 155 กิโลกรัม เลยทำให้ไม่กล้าออกไปไหน เพราะกลัวสายตาชาวบ้าน บวกกับมีปัญหาด้านสุขภาพมากมาย เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน และคอเลสเตอรอลสูงด้วย
หนุ่มออสซี่รายนี้ชอบกินอาหารฟาสต์ฟู้ดเป็นชีวิตจิตใจ เรียกได้ว่ากินเกือบทุกมื้อในทุก ๆ วัน จนกลายเป็นคนร่างอ้วนสุด ๆ ถึงขนาดต้องใส่เสื้อผ้าไซส์ 8XL เลยทีเดียว !! กระทั่งวันหนึ่งเขาจึงตัดสินใจหันมาลดน้ำหนักอย่างจริงจังในที่สุด
แมทธิวเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมการกินของตัวเองเมื่อช่วงเดือนมีนาคม 2014 จากเดิมที่กินแต่ฟาสต์ฟู้ดแล้วหันไปกินอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากขึ้น และอีก 1 เดือนถัดมาเจ้าตัวเริ่มเข้าฟิตเนสเพื่อลดน้ำหนัก โดยยอมรับว่าช่วงแรก ๆ เป็นเรื่องยากมากสำหรับคนอ้วนแบบเขาที่จะเล่นเครื่องออกกำลัง ซึ่งต่อมาแมทธิวได้รับความช่วยเหลือจากเทรนเนอร์ ทำให้น้ำหนักลดลงสัปดาห์ละประมาณ 3 กิโลกรัม ซึ่งสุดท้ายเขาก็ทำสำเร็จ โดยสามารถลดน้ำหนักได้ถึง 60 กิโลกรัม จนกระทั่งกลายเป็นหนุ่มหุ่นฟิต แอนด์ เฟิร์มในที่สุด
ทั้งนี้ แมทธิวบอกว่าหลังจากที่ลดน้ำหนักสำเร็จ เขามีความคิดที่อยากเป็นเทรนเนอร์ เพื่อช่วยเหลือคนที่ต้องการลดน้ำหนักอย่างจริงจัง ซึ่งตอนนี้ได้เข้าคอร์สเรียนหลักสูตรเทรนเนอร์และเริ่มสอนคนที่สนใจไปบ้างแล้วครับ
ภาพจาก Facebook Matthew Gorry
ข้อมูลจาก dailymail.co.uk, mirror.co.uk