ไมโครซอฟท์เผยรายละเอียด Windows 10 แต่ละเวอร์ชั่น สำหรับลูกค้าทั่วไป ไปจนถึงลูกค้ากลุ่มองค์กรและธุรกิจขนาดใหญ่
Windows 10 Home
เวอร์ชั่นปกติสำหรับผู้ใช้ทั่วไปทั้งบนคอมพิวเตอร์และแท็บเล็ต ให้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีเยี่ยมแก่ผู้ใช้ ประกอบไปด้วย Cortana เลขาส่วนตัวแสนชาญฉลาด, Microsoft Edge เว็บเบราว์เซอร์ใหม่ไฟแรง, Continuum โหมดแท็บเล็ตสำหรับการใช้งานด้วยหน้าจอสัมผัส, Windows Hello เข้าใช้งานด้วยระบบตรวจจับใบหน้า ม่านตา หรือลายนิ้วมือ และแอปพลิเคชันอื่น ๆ อีกเพียบ เช่น Photos, Maps, Mail, Calendar, Music และ Video นอกจากนี้ยังมีระบบ Xbox Live ให้เกมเมอร์สามารถแชร์ภาพและวิดีโอการเล่นเกมได้ และสำหรับผู้ที่มีเครื่อง Xbox One ก็สามารถเล่นเกมผ่าน Windows 10 บน PC ได้อีกด้วย
Windows 10 Mobile
เวอร์ชั่นที่ถูกออกแบบมาสำหรับใช้งานบนอุปกรณ์สมาร์ตโฟนหรือแท็บเล็ตที่มีหน้าจอขนาดเล็ก มีฟีเจอร์เหมือนกับ Windows 10 Home และแถมด้วยแอปฯ Offiice ที่รองรับการใช้งานด้วยหน้าจอสัมผัส รวมทั้งระบบรักษาความปลอดภัยสำหรับผู้ที่ใช้อุปกรณ์ส่วนตัวในที่ทำงาน นอกจากนี้ Windows 10 Mobile ยังมีฟีเจอร์ Continuum for phone สำหรับเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนเข้ากับหน้าจอขนาดใหญ่เพื่อให้ใช้งานได้สะดวกเหมือนกับบน PC
อีกหนึ่งเวอร์ชั่นสำหรับผู้ใช้บนคอมพิวเตอร์และแท็บเล็ต แต่มีฟีเจอร์เสริมที่ไม่มีใน Windows 10 Home ซึ่งเหมาะสำหรับกลุ่มผู้ใช้ที่เป็นธุรกิจขนาดเล็ก มีฟีเจอร์สำหรับช่วยในการจัดการอุปกรณ์และแอปพลิเคชันต่าง ๆ, ระบบรักษาความปลอดภัยที่ช่วยป้องกันข้อมูลสำคัญรั่วไหล, รองรับระบบ Remote และระบบ Cloud โดย Windows 10 Pro และยังรองรับ Windows Update for Business สำหรับจัดการการอัปเดตระบบในองค์กรอีกด้วย
Windows 10 Enterprise
มีฟีเจอร์ทุกอย่างของ Windows 10 Pro และเพิ่มฟีเจอร์ขั้นสูงสำหรับใช้งานในธุรกิจขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีเยี่ยม เพื่อความปลอดภัยของข้อมูลในองค์กร รองรับ Windows Update for Business และสามารถเลือกให้อัปเดต Long Term Servicing Branch ได้ คือจะเป็นการอัปเดตเฉพาะระบบรักษาความปลอดภัย โดยไม่มีการเพิ่มฟีเจอร์ใด ๆ เน้นความเสถียรเป็นหลัก
ภาพจาก RoSonic / shutterstock.com
เวอร์ชั่นสำหรับใช้ในสถานศึกษา พัฒนามาจาก Windows 10 Enterprise ออกแบบมาสำหรับผู้ใช้ทั้งกลุ่มเจ้าหน้าที่, ผู้ดูแลระบบ, ครูอาจารย์ และนักเรียน สามารถให้ครูอาจารย์และนักเรียนอัปเกรดจากอุปกรณ์ที่ใช้ Windows 10 Home และ Windows 10 Pro มาเป็น Windows 10 Education ได้
ออกแบบมาสำหรับกลุ่มผู้ที่ใช้อุปกรณ์สมาร์ตโฟนและแท็บเล็ตหน้าจอขนาดเล็กในการติดต่อธุรกิจ มีฟีเจอร์พื้นฐานเหมือนกับ Windows 10 Mobile และเพิ่มความยืนหยุ่นสำหรับธุรกิจในการจัดการอัปเดตต่าง ๆ โดยจะได้รับการอัปเดตระบบรักษาความปลอดภัยให้ทันสมัยอยู่เสมอ
ทั้งนี้สำหรับผู้ใช้ Windows 7, Windows 8.1 และ Windows Phone 8.1 จะสามารถอัปเกรดเป็น Windows 10 Home, Windows 10 Mobile และ Windows 10 Pro ได้ฟรีภายในช่วงปีแรกหลังจากที่ Windows 10 วางจำหน่ายแล้ว
ภาพจาก windows.microsoft.com
ไมโครซอฟท์ได้เปิดเผยรายละเอียดเวอร์ชั่นต่าง
ๆ ของ Windows 10 ซึ่งจะแบ่งออกเป็นหลายรุ่นที่มีฟีเจอร์และราคาแตกต่างกัน
เพื่อให้ลูกค้าเลือกซื้อได้ตามลักษณะการใช้งานของแต่ละคน โดย Windows 10
จะมีแบ่งออกเป็นทั้งหมด 6 รุ่น ได้แก่ Windows 10 Home, Windows 10 Mobile,
Windows 10 Pro, Windows 10 Enterprise, Windows 10 Education และ Windows
10 Mobile Enterprise
มาดูกันเลยดีกว่าว่าแต่ละรุ่นนั้นมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
ภาพจาก rvlsoft / shutterstock.com
Windows 10 Home
เวอร์ชั่นปกติสำหรับผู้ใช้ทั่วไปทั้งบนคอมพิวเตอร์และแท็บเล็ต ให้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีเยี่ยมแก่ผู้ใช้ ประกอบไปด้วย Cortana เลขาส่วนตัวแสนชาญฉลาด, Microsoft Edge เว็บเบราว์เซอร์ใหม่ไฟแรง, Continuum โหมดแท็บเล็ตสำหรับการใช้งานด้วยหน้าจอสัมผัส, Windows Hello เข้าใช้งานด้วยระบบตรวจจับใบหน้า ม่านตา หรือลายนิ้วมือ และแอปพลิเคชันอื่น ๆ อีกเพียบ เช่น Photos, Maps, Mail, Calendar, Music และ Video นอกจากนี้ยังมีระบบ Xbox Live ให้เกมเมอร์สามารถแชร์ภาพและวิดีโอการเล่นเกมได้ และสำหรับผู้ที่มีเครื่อง Xbox One ก็สามารถเล่นเกมผ่าน Windows 10 บน PC ได้อีกด้วย
Windows 10 Mobile
เวอร์ชั่นที่ถูกออกแบบมาสำหรับใช้งานบนอุปกรณ์สมาร์ตโฟนหรือแท็บเล็ตที่มีหน้าจอขนาดเล็ก มีฟีเจอร์เหมือนกับ Windows 10 Home และแถมด้วยแอปฯ Offiice ที่รองรับการใช้งานด้วยหน้าจอสัมผัส รวมทั้งระบบรักษาความปลอดภัยสำหรับผู้ที่ใช้อุปกรณ์ส่วนตัวในที่ทำงาน นอกจากนี้ Windows 10 Mobile ยังมีฟีเจอร์ Continuum for phone สำหรับเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนเข้ากับหน้าจอขนาดใหญ่เพื่อให้ใช้งานได้สะดวกเหมือนกับบน PC
ภาพจาก RoSonic / shutterstock.com
Windows 10 Pro
อีกหนึ่งเวอร์ชั่นสำหรับผู้ใช้บนคอมพิวเตอร์และแท็บเล็ต แต่มีฟีเจอร์เสริมที่ไม่มีใน Windows 10 Home ซึ่งเหมาะสำหรับกลุ่มผู้ใช้ที่เป็นธุรกิจขนาดเล็ก มีฟีเจอร์สำหรับช่วยในการจัดการอุปกรณ์และแอปพลิเคชันต่าง ๆ, ระบบรักษาความปลอดภัยที่ช่วยป้องกันข้อมูลสำคัญรั่วไหล, รองรับระบบ Remote และระบบ Cloud โดย Windows 10 Pro และยังรองรับ Windows Update for Business สำหรับจัดการการอัปเดตระบบในองค์กรอีกด้วย
Windows 10 Enterprise
มีฟีเจอร์ทุกอย่างของ Windows 10 Pro และเพิ่มฟีเจอร์ขั้นสูงสำหรับใช้งานในธุรกิจขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีเยี่ยม เพื่อความปลอดภัยของข้อมูลในองค์กร รองรับ Windows Update for Business และสามารถเลือกให้อัปเดต Long Term Servicing Branch ได้ คือจะเป็นการอัปเดตเฉพาะระบบรักษาความปลอดภัย โดยไม่มีการเพิ่มฟีเจอร์ใด ๆ เน้นความเสถียรเป็นหลัก
ภาพจาก RoSonic / shutterstock.com
Windows 10 Education
เวอร์ชั่นสำหรับใช้ในสถานศึกษา พัฒนามาจาก Windows 10 Enterprise ออกแบบมาสำหรับผู้ใช้ทั้งกลุ่มเจ้าหน้าที่, ผู้ดูแลระบบ, ครูอาจารย์ และนักเรียน สามารถให้ครูอาจารย์และนักเรียนอัปเกรดจากอุปกรณ์ที่ใช้ Windows 10 Home และ Windows 10 Pro มาเป็น Windows 10 Education ได้
Windows 10 Mobile Enterprise
ออกแบบมาสำหรับกลุ่มผู้ที่ใช้อุปกรณ์สมาร์ตโฟนและแท็บเล็ตหน้าจอขนาดเล็กในการติดต่อธุรกิจ มีฟีเจอร์พื้นฐานเหมือนกับ Windows 10 Mobile และเพิ่มความยืนหยุ่นสำหรับธุรกิจในการจัดการอัปเดตต่าง ๆ โดยจะได้รับการอัปเดตระบบรักษาความปลอดภัยให้ทันสมัยอยู่เสมอ
ทั้งนี้สำหรับผู้ใช้ Windows 7, Windows 8.1 และ Windows Phone 8.1 จะสามารถอัปเกรดเป็น Windows 10 Home, Windows 10 Mobile และ Windows 10 Pro ได้ฟรีภายในช่วงปีแรกหลังจากที่ Windows 10 วางจำหน่ายแล้ว
ภาพจาก windows.microsoft.com