เราเชื่อว่าในปัจจุบันมีคุณผู้ชายหลายคนอาจเคยรู้สึกว่าตัวเองไม่ค่อยมีอารมณ์ทางเพศเหมือนอย่างเคยในบางครั้งที่ถูกกระตุ้นด้วยสิ่งเร้าที่เหมือนกัน ซึ่งนั่นอาจมีสาเหตุมาจากพฤติกรรมบางอย่างที่ส่งผลกระทบต่อความต้องการทางเพศและอาจทำให้เซ็กส์เสื่อมได้โดยที่คุณไม่รู้ วันนี้เราจึงหยิบเอาพฤติกรรมที่ควรเลี่ยง เพื่อป้องกันปัญหาเซ็กส์เสื่อมจากเว็บไซต์ mensfitness มาฝากกันครับ
ออกกำลังกายไม่เพียงพอ
มีผลงานวิจัยจาก Cedars-Sinai Medical Center ชี้ว่า คนที่ออกกำลังกายบ่อย อวัยวะเพศจะมีการแข็งตัวที่ดีกว่าคนที่ออกกำลังน้อย โดยงานวิจัยดังกล่าวได้แบ่งกลุ่มตัวอย่าง 300 คน ออกเป็น 3 กลุ่ม ตามกิจกรรมการออกกำลังกายของแต่ละคน ได้แก่ ออกกำลังกายเป็นประจำ, ปานกลาง และเล็กน้อย เพื่อเช็กว่ากลุ่มคนเหล่านี้มีการแข็งตัวและการถึงจุดสุดยอดต่างกันหรือไม่ ปรากฏว่ากลุ่มคนที่ออกกำลังกายระดับปานกลางถึงเป็นประจำ จะมีการแข็งตัวของอวัยวะเพศและสมรรถภาพทางเพศที่ดีกว่ากลุ่มคนที่ออกกำลังกายน้อยนั่นเอง
สูบบุหรี่จัดเกินไป
ผลการศึกษาของ British Journal of Urology Study ประเทศอังกฤษ ได้นำผู้ชายติดบุหรี่เข้าโปรแกรมเลิกบุหรี่เป็นเวลา 8 สัปดาห์ แล้วทำการทดสอบการแข็งตัวขององคชาติ โดยระหว่างที่เข้าโปรแกมดังกล่าวกลุ่มตัวอย่าง 20 เปอร์เซ็นต์ ยอมรับว่าพวกเขามีอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ แต่หลังจากการทดสอบเสร็จสิ้น กลุ่มตัวอย่างกว่า 75 เปอร์เซ็นต์ พบว่าองคชาติมีการแข็งตัวที่ดีและถูกกระตุ้นอารมณ์ทางเพศได้ง่าย รวมถึงอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศลดลงในบางคนด้วย
ไม่เพียงเท่านี้ มีผลการศึกษาในปี 2014 จาก University of Sheffield ที่ได้วิเคราะห์สเปิร์ม ตัวอย่างของคนที่สูบบุหรี่จำนวน 1,970 คน ซึ่งพบว่ามีจำนวนตัวอย่างสเปิร์มน้อยกว่า 4 เปอร์เซ็นต์ ที่มีขนาดและรูปร่างที่ถูกต้อง ขณะที่ส่วนใหญ่ไม่แข็งแรงพอที่สืบพันธุ์ได้
มีเซ็กส์ไม่มากพอ
หนุ่ม ๆ หลายคนอาจไม่คิดมาก่อนว่าการที่ไม่ค่อยมีเซ็กส์จะทำให้เป็นโรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้ ซึ่งมีผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ลงวารสาร American Journal of Medicine เมื่อปี 2008 ที่นักวิจัยได้ใช้เวลากว่า 5 ปี สำหรับการวิเคราะห์กลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ชายในช่วงอายุ 55-75 ปี เพื่อศึกษาปัญหาทางเพศ ซึ่งได้คำตอบว่าคนที่มีเซ็กส์น้อยกว่า 1 ครั้งต่อสัปดาห์ มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศมากที่สุด รองลงมาคือคนที่มีเซ็กส์ 1 ครั้งต่อสัปดาห์ ขณะที่ผู้ชายที่มีเซ็กส์ 3 ครั้งต่อสัปดาห์ พบว่ามีสุขภาพทางเพศที่ดีกว่า
เว็บไซต์เดลี่เมล์ ประเทศอังกฤษ รายงานผลการศึกษาที่น่าสนใจของ University of Michigan ซึ่งพบว่าผู้ชายที่นอนหลับไม่เพียงพอ มีผลทำให้ความต้องการทางเพศลดลงและถูกกระตุ้นให้มีอารมณ์ร่วมได้ยาก บวกกับมีอาการอื่น ๆ ตามมา เช่น สมาธิสั้น มีอาการเมื่อยล้าง่าย และความหนาแน่นของมวลกล้ามเนื้อลดลง
นอกจากนี้ ยังมีผลการศึกษาของ University of Chicago ในปี 2011 ที่พบว่า ผู้ชายที่นอนน้อยกว่า 5 ชั่วโมงติดต่อกันเป็นสัปดาห์หรือมากกว่า จะมีระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนต่ำกว่าคนที่นอนหลับประมาณ 7-9 ชั่วโมง มากเลยทีเดียว
ไม่ค่อยกินแตงโมเท่าไร
เมื่อปี 2008 มีผลการศึกษาของ Texas A&M University ค้นพบว่า มีกรดอะมิโนสำคัญในแตงโมอย่าง ซิทรูลีนและอาร์จินีน มีคุณสมบัติคล้ายไวอากร้า ที่จะช่วยกระตุ้นให้หลอดเลือดคลายตัวและทำให้ระบบหมุนเวียนของเลือดดีขึ้น รวมถึงสามารถรักษาและป้องกันโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศได้อีกด้วย
ในปี 2011 ผลการวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่าผู้ชายที่กินอาหารแปรรูปที่มีไขมันอิ่มตัวสูง เช่น คุกกี้ เค้ก มันฝรั่งทอด และอาหารฟาสต์ฟู้ด จะมีสเปิร์มคุณภาพต่ำกว่าคนที่กินอาหารเพื่อสุขภาพ
ใช้เวลาในการดูทีวีมากไป
ใครที่ชอบดูทีวีเป็นประจำแทบทุกวัน ควรต้องลดกิจกรรมหน้าจอลงแล้วล่ะ เมื่อมีผลการศึกษาของ University of Rochester ในปี 2010 ที่ค้นพบว่า ผู้ชายที่ใช้เวลาไปกับการดูทีวีมากกว่า 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ร่างกายจะผลิตสเปิร์มได้น้อยลงถึง 44 เปอร์เซ็นต์ โดยนักวิจัยชี้ว่าสาเหตุที่การดูทีวีส่งผลให้การผลิตสเปิร์มลดลงและอ่อนแออย่างเห็นได้ชัด เป็นเพราะว่าการดูทีวีมากไปทำให้ไม่มีเวลาออกกำลังกาย ร่างกายจึงไม่สามารถสร้างสเปิร์มที่แข็งแรงได้มากเหมือนปกตินั่นเอง
เรารู้กันดีอยู่แล้วว่าครีมกันแดดช่วยป้องกันโรคมะเร็งผิวหนังที่เกิดจากรังสียูวีได้เป็นอย่างดี ทว่าทาง National Institutes of Health พบว่า ครีมกันแดดมีความเสี่ยงที่จะทำให้ผู้ชายเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้เช่นกัน หากล้างออกไม่หมด เพราะสารเคมีบางอย่างในครีมกันแดดที่ตกค้างอยู่ในผิวหนัง จะทำให้อัตราการผลิตฮอร์โมนเพศชายลดลงถึง 30 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว ซึ่งจะส่งผลให้มีอาการเซ็กส์เสื่อมได้ในที่สุด
มีสุขภาพช่องปากที่ไม่ดี
มีผลการวิจัยที่ตีพิมพ์ลงในวารสาร Journal of Periodontology พบว่า ผู้ชายที่เป็นโรคเหงือกมีความเสี่ยงที่จะเซ็กส์เสื่อมมากกว่าคนที่มีสุขภาพช่องปากปกติถึง 7 เท่า ซึ่งเป็นเพราะว่าเชื้อแบคทีเรียที่เหงือกสามารถเคลื่อนที่ผ่านร่างกาย ซึ่งจะทำให้หลอดเลือดที่องคชาติเกิดอาการอักเสบได้นั่นเอง
เมื่อทราบอย่างนี้แล้ว หนุ่ม ๆ ก็ลองสำรวจตัวเองดูว่ามีพฤติกรรมเสี่ยงข้างต้นหรือเปล่า ถ้าพบว่ามีพฤติกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งจากข้างต้น ก็ควรลดหรือเลี่ยงไปเลยจะดีกว่า เพื่อป้องกันไม่ให้คุณมีอาการเซ็กส์เสื่อมได้ยังไงล่ะครับ
รวมเรื่องเด็ด สุดยอดของผู้ชาย สาวสวยเซ็กซี่ แฟชั่น รถยนต์ คลิกที่นี่
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่