

มาร์ค คนัสนันท์ นักตะเฆ่ ประวัติ พระรองหนุ่มดาวรุ่ง เจ้าของบทบาท สาริศ นักธุรกิจหนุ่มสุดฮอตจากละครเรื่อง แก้วตาหวานใจ
กลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ที่มาแรงจนครองใจแฟนคลับได้เพียบ หลังละครออกอากาศเพียงไม่กี่ตอน เท่านั้น สำหรับหนุ่ม มาร์ค คนัสนันท์ นักตะเฆ่ ที่ตอนนี้ไปไหนมาไหนใคร ๆ ก็เรียก คุณสาริศ พระรองสุดฮอตจากเรื่อง แก้วตาหวานใจ ซึ่งเชื่อว่าหลายคนอยากรู้แล้วว่าหนุ่มคนนี้เป็นใครกันแน่ วันนี้ กระปุกดอทคอม จะพาไปรู้จักกับหนุ่มคนนี้กันเลย
มาร์ค คนัสนันท์ นักตะเฆ่ มีชื่อเดิมว่า มาร์ค ภาคียะ นักตะเฆ่ เกิดเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2536 จบการศึกษาระดับมัธยมปลายจากโรงเรียนศรีวิกรม์ และตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยศรีปทุม
หนุ่มคนนี้เริ่มต้นเข้าวงการด้วยการเต้นโคฟเวอร์แดนซ์เกาหลี กับกลุ่มเพื่อนในนามวง S\'Question ซึ่งพวกเขามีโอกาสได้โชว์เต้นในงานคอนเสิร์ตงานหนึ่ง จนมีแมวมองที่เล็งเห็นความสามารถได้ส่ง มาร์ค คนัสนันท์ ไปเรียนฝึกร้องฝึกเต้นกับค่ายเพลงที่ประเทศเกาหลีใต้นาน 2 ปี แต่ในช่วงที่ฝึกกลับเกิดอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บที่เท้า จึงทำให้ทุกอย่างหยุดลงและเดินทางกลับประเทศไทย
เชื่อว่าหลายคนอาจจะยังไม่ทราบ ว่า มาร์ค คนัสนันท์ นักตะเฆ่ เคยเป็นอดีตนักร้องจากวง MJ (Mark-Jin) ของค่าย iWAVE และมีซิงเกิลแรกคือเพลง Tonight ซึ่งเป็นเพลงที่มีถึง 3 ภาษา นั่นก็คือ ไทย อังกฤษ และเกาหลี สำหรับวง MJ (Mark-Jin) เป็นการรวมตัวของศิลปินชาวไทย มาร์ค คนัสนันท์ และเกาหลี ซึ่งก็คือ จิน จูฮยอง ที่โด่งดังเป็นอย่างมากเมื่อช่วงปี 2556
ส่วนบทบาทนักธุรกิจหนุ่ม จากละครเรื่อง แก้วตาหวานใจ ในเรื่องนี้ มาร์ค คนัสนันท์ ได้รับบท สาริศ รุจิอาภรณ์ หรือ ริศ นักธุรกิจหนุ่มหล่อจอมเจ้าเล่ห์ ที่ตกหลุมรัก ไข่หวาน (มิ้นต์ ชาลิดา) นางเอกของเรื่องเข้าอย่างจังตั้งแต่แรกพบ ซึ่งบทของ สาริศ เผยให้เห็นเสน่ห์อันแพรวพราวของหนุ่มมาร์ค จนทำให้ตอนนี้เขากลายเป็นขวัญใจแฟนคลับไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และถือว่าเป็นละครที่แจ้งเกิดให้หนุ่มคนนี้เลยก็ว่าได้
สำหรับแฟนคลับที่อยากติดตามความเคลื่อนไหวของหนุ่มฮอตคนนี้สามารถเข้าไปติดตามกันได้ที่ อินสตาแกรม mark_khanatsanan ได้เลยจ้า และอย่าลืมติดตามชมผลงานละครเรื่อง แก้วตาหวานใจ และละครเรื่อง บ่วงอธิฏฐาน ของหนุ่มคนนี้กันด้วยนะคะ


ชื่อ-นามสกุล : คนัสนันท์ นักตะเฆ่
ชื่อเล่น : มาร์ค
วันเกิด : 28 กุมภาพันธ์ 2536
อายุ : 22 ปี
การศึกษา :

























ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Instagram mark_khanatsanan