นาฬิกาข้อมือสุดหรูสำหรับผู้ชายสุดเนี้ยบในปี 2014 เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม นาฬิกาข้อมือแบบต่าง ๆ ของผู้ชายมีออกมามากมายจนเลือกไม่ถูก แต่สำหรับหนุ่ม ๆ ที่ชอบสะสมนาฬิกาหรู ที่มีคาแรคเตอร์และกลไกเฉพาะของนาฬิกาที่ไม่เหมือนใครแล้ว วันนี้ทางกระปุกดอทคอมได้ไปเจอนาฬิกาสุดหรูแห่งปี 10 เรือน ต่างน่าสะสมเป็นอย่างยิ่งจากเว็บไซต์ menshealth.co.uk เลยนำมาฝากกันครับ รับรองว่าแต่ละเรือนสวยงามแบบมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คนรักนาฬิกาไม่ผิดหวังแน่นอน 1. Richard Mille RM 50-01 RM 50-01 เป็นนาฬิการุ่นพิเศษที่ผลิตโดย Richard Mile เพื่อ Romain Grosjean นักแข่งรถฟอร์มูล่าวันชาวฝรั่งเศส ของทีม Lotus ทำงานด้วยระบบไขลานด้วยมือ ฝัง G-Sensor ไว้ภายใน เพื่อบอกความเร็วของรถ มีแผ่นรองฟันเฟืองทำมาจากไทเทเนียมผสมกับอะลูมิเนียมอัลลอยด์ พร้อมกับอัญมณี 35 เม็ด มีระบบป้องกันการสั่นสะเทือน ตัวเรือนทำด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ชนิดพิเศษจาก NTPT และหน้าจอตัดแสงแบบกระจกแซฟไฟร์ โดยจะผลิตออกมากแค่ 30 เรือนเท่านั้น ทำให้เจ้านาฬิกา RM 50-01 มีราคาสูงถึง 697,000 ปอนด์ (หรือประมาณ 35.7 ล้านบาท)
2. Panerai Radiomir 1940 Chronograph Oro Bianco
นับว่าเป็นนาฬิกาสุดคลาสสิกตั้งแต่ปี 1940 ของ Panerai จากประเทศอิตาลี ขับเคลื่อนด้วยเครื่อง Panerai OP XXV เป็นระบบไขลานด้วยมือ มีฟังชั่นก์จับเวลาและความเร็วด้วย Tachymeter scale ที่บอกหน่วยเป็นกิโลเมตรต่อชั่วโมง (KM/HR) ตัวเรือน เม็ดมะยม และปุ่มควบคุมการทำงานเป็นทองคำขาว 18 กะรัต หน้าปัดเป็นคริสตัล Plexiglas หนา 2.8 มิลลิเมตร ที่มีน้ำหนักเบาแต่กันกระแทกได้เป็นอย่างดี ด้านหลังเป็นคริสตัลแซฟไฟร์ที่มองเห็นกลไกภายในได้ พร้อมด้วยสายนาฬิกาหนังจระเข้ขัดเงาด้วยทองคำขาว ทำให้เจ้านาฬิกาตัวนี้มีราคาสูงถึง 39,700 ปอนด์ (หรือประมาณ 2.03 ล้านบาท)
3. Roger Dubuis Hommage Hommage เป็นนาฬิการะบบออโตเมติก มีกลไก RD620 พร้อมตกแต่งดัวยอัญมณี 35 เม็ด ขับเคลื่อนแบบไขลานด้วยตัวเอง จากบริษัท Roger Dubuis มากับตัวเรือนทองคำขาว หน้าปัดคริสตัลแซฟไฟร์ และสายหนังจระเข้คุณภาพเยี่ยมเย็บด้วยมือทั้งสาย กันน้ำประมาณ 30 เมตร สนนราคาขายที่ 23,000 ปอนด์ (หรือประมาณ 1.17 ล้านบาท)
4. Audemars Piguet Royal Oak Offshore Chronograph Royal Oak Offshore Chronograph เป็นการนำเอานาฬิกายอดนิยมจากปี 1972 มาปรับดีไซน์และตัวเครื่องใหม่ โดย Audemars Piguet ให้เป็นนาฬิกาทรงสปอร์ตและมีความหรูหรามากขึ้น พร้อมมีระบบไขลานด้วยตัวเอง ตกแต่งด้วยอัญมณี 59 เม็ด ซึ่งตัวเรือนเป็นสเตนเลสสตีลอย่างดีบวกกับหน้าจอคริสตัลแซฟไฟร์ที่ช่วยตัดแสงรอบนอก ทำให้ผู้สวมใส่ดูเวลาได้ชัดแม้มีแสงจ้า สายนาฬิกาที่ทำจากยางมีความคงทนและยืดหยุ่นสูง กันน้ำได้ลึกถึง 100 เมตร สนนราคาขายที่ 18,700 ปอนด์ (หรือประมาณ 957,000 บาท)
5. Jaeger-LeCoultre Master Ultra-Thin นาฬิการุ่น Master Ultra-Thin ของ Jaeger-LeCoultre ผู้ผลิตนาฬิกาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตัวเรือนทำด้วยพิงค์โกลด์ที่บางเหมือนชื่อรุ่นจริง ๆ เพราะหนาเพียง 7.6 มิลลิเมตรเท่านั้น เป็นระบบออโตเมติกที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเครื่อง Calibre 896 ทำให้นาฬิกามีความเที่ยงตรงสูง ฝังอัญมณีไว้ 32 เม็ด หน้าจอเป็นคริสตัลแซฟไฟร์กันรอยขีดข่วนอย่างดี รวมกับสายหนังจระเข้ อีกทั้งยังกันน้ำได้ลึกประมาณ 50 เมตร สนนราคาที่ 10,400 ปอนด์ (หรือประมาณ 532,000 บาท)
6. IWC Aquatimer Edition \'‘Expedition Charles Darwin"
IWC หรือ International Watch Company จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้สร้างสรรค์นาฬิการุ่น Aquatimer Edition ‘\'Expedition Charles Darwin\' ขึ้นมาเพื่ออุทิศให้กับ ชาร์ลส์ ดาร์วิน นักธรรมชาติวิทยาคนสำคัญของโลกชาวอังกฤษ โดยที่ตัวเรือนผลิตจากทองแดงสวยงาม หน้าจอเป็นกระจกแซฟไฟร์กันแสงสะท้อนขณะดูเวลา ขณะที่สายนาฬิกาทำมาจากยางคุณภาพสูงพร้อมกับระบบเปลี่ยนสายได้สะดวกที่พัฒนาโดย IWC เอง มีราคาขายที่ 8,250 บาท (หรือประมาณ 422,000 บาท)
7. Cartier Calibre de Cartier Diver Watch Calibre de Cartier Diver Watch ของ Cartier คือนาฬิกาที่ผลิตมาเพื่อนักดำน้ำโดยเฉพาะ เพราะสามารถลงน้ำได้ลึกถึง 300 เมตร ผ่านการรับรองมาตรฐาน ISO 6425 เป็นนาฬิการะบบออโตเมติก เข็มและตัวเลขเรืองแสงด้วยระบบ Super-LumiNova ที่ช่วยให้ดูเวลาได้ชัดเมื่ออยู่ใต้น้ำลึกและที่มืด ส่วนตัวเรือนทำด้วยเหล็กกล้า หน้าจอเป็นคริสตัลแซฟไฟร์พิเศษต้านแรงดันน้ำได้ และสายยางคุณภาพเยี่ยม สนนราคาที่ 5,700 ปอนด์ (หรือประมาณ 292,000 บาท)
8. Baume et Mercier Clifton Chronograph Baume et Mercier ได้นำนาฬิการุ่น Clifton จากช่วงปี 1950 มาปรับใหม่ให้ดูทันสมัยแต่รักษาความหรูหราที่เรียบง่ายเหมือนรุ่นแรกไว้แบบครบถ้วน ซึ่งภายในมีทับทิม 31 เม็ด ควบคุมการทำงานด้วยระบบออโตเมติก ตัวเรือนเป็นเหล็กกล้าอย่างดี พร้อมด้วยหน้าจอคริสตัลแซฟไฟร์กันรอยและสายหนังจระเข้ กันน้ำได้ประมาณ 50 เมตร นอกจากนี้แต่ละเรือนมีความพิเศษตรงที่มีเลขกำกับด้านหลังว่าผลิตออกมาเป็นเรือนที่เท่าไรด้วย สนนราคาที่ 2,650 ปอนด์ (หรือประมาณ 135,000 บาท)
9. Ralph Lauren RL67 Chronometer RL67 Chronometer คือนาฬิกาที่มีความเที่ยงตรงสูงผ่านการรับรองมาตรฐานที่เรียกว่า Chronometer จากสถาบัน COCS (Contrôle Officiel Suisse des Chronomètres) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยบริษัท Ralph Lauren ผลิตนาฬิกาข้อมือรุ่นนี้เป็นทรงสปอร์ตผสมกับระบบไขลานอัตโนมัติ มีอัญมณี 25 เม็ด ซึ่งตัวเรือนและหน้าปัดเป็นสเตนเลสสตีล กันน้ำได้ 100 เมตร พร้อมกับสายนาฬิกาแบบผ้าใบ มีราคาจำหน่ายที่ 2,150 ปอนด์ (หรือประมาณ 110,000 บาท)
10. Montblanc Meisterstück Heritage Automatic Date
Montblanc แบรนด์หรูจากประเทศเยอรมนี มาพร้อมกับนาฬิกาข้อมือระบบออโตเมติก ที่ภายนอกอาจดูเรียบ ๆ แต่ภายในตัวเครื่องมีอัญมณีมากถึง 26 เม็ด บวกกับตัวเรือนชุบแร่โรเดียมและหน้าปัดทำมาจากกระจกแซฟไฟร์กันแสงสะท้อน กันน้ำได้ลึก 30 เมตร รวมถึงสายนาฬิกาผลิตจากหนังจระเข้คุณภาพเยี่ยม ทำให้นาฬิกา Meisterstück Heritage Automatic Date ตัวนี้มีราคาถึง 1,775 ปอนด์ (หรือประมาณ 91,000 บาท)
ถึงแม้ว่านาฬิกาข้อมือแต่ละเรือนจะมีค่อนข้างราคาสูงอยู่ไม่น้อย แต่มันก็สมกับความหรูหรา วัสดุคุณภาพดี รวมถึงความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบของแต่ละแบรนด์นั่นเอง รับรองได้เลยว่าหากหนุ่ม ๆ คนไหนได้เป็นเจ้าของสักเรือน ใส่ไปที่ไหน ก็ไม่มีใครเหมือนแน่ ๆ ครับ ขอขอบคุณภาพประกอบจาก
montblanc,
jaeger-lecoultre,
audemarspiguet,
ralphlauren,
baume-et-mercier,
iwc,
panerai,
rogerdubuis,
richardmille และ
cartier
