การแต่งตัวของผู้ชายที่มักทำพลาดบ่อย เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม ข้อผิดพลาดเรื่องการแต่งตัวที่ผู้ชายหลายคนทำ จนเปลี่ยนจากลุคที่ควรจะดูดีให้ดูแย่ไปเสียอย่างนั้น
ทุกวันนี้จะเห็นได้ชัดว่าแฟชั่นการแต่งตัวของผู้ชายสมัยใหม่มีความหลากหลายมากขึ้น เสื้อผ้าแบบที่เราเคยใส่ ๆ กันมา อาจดูไม่จืดนักหากหยิบมาใส่ในตอนนี้ หรือบางคนอาจยังหาสไตล์ของตัวเองไม่เจอจนทำให้พอแต่งออกมาแล้วดูแปลก ๆ ยังไงไม่รู้ ซึ่งคุณอาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำพลาดไปแล้ว ดังนั้นกระปุกดอทคอมเลยนำข้อผิดพลาดที่หนุ่ม ๆ คงไม่รู้เกี่ยวกับการแต่งตัวมากระซิบบอกกันด้วย จะได้แก้ไขได้ทัน หากไม่อยากให้คนรอบข้างมาหาว่าคุณแต่งตัวไม่เป็น ! 1. มิกซ์ แอนด์ แมตช์เสื้อผ้าได้ไม่ลงตัว
ในปัจจุบันคุณผู้ชายส่วนใหญ่ที่ต้องแต่งตัวไปงานที่เป็นทางการ จะเน้นเลือกเครื่องประดับที่ทำให้ตัวเองมั่นใจและดูเป็นแฟชั่นมากกว่าแต่ก่อน อย่างการเลือกเนคไทมาใส่คู่กับสูทตัวเก่ง ที่บางครั้งลายของเนคไทอาจจะไม่แมตช์กับสูทและเสื้อเชิ้ตด้านใน หรือการเลือกเฉดสีที่ข้ามกันเกินไป เหมือนการจับคู่รองเท้าสีฉูดฉาดกับชุดสูทสีเทา ซึ่งไม่ได้อยู่ในเฉดสีเดียวกันแม้แต่น้อย จะทำให้คุณดูเหมือนคนไม่มีรสนิยมในการแต่งตัวเอาซะเลย วิธีแก้คือให้คำนึงถึงความเหมาะสมของงานที่จะไป รวมถึงพิจารณาภาพรวมของชุดที่ใส่กับเครื่องประดับต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเนคไท รองเท้า เข็มขัด รวมถึงกระเป๋าถือ ว่าเข้ากันหรือเปล่า แล้วมาดูกันว่าควรเพิ่มหรือลดอะไรบ้างที่จะช่วยให้ชุดสูทที่ใส่ดูลงตัว
2. เลือกเสื้อสูทผิดไซส์ แน่นอนว่าสูททรงสลิมฟิตสามารถทำให้ผู้ชายดูดีได้มากกว่าทรงปกติที่อาจดูหลวมโคร่งเกินไป ทำให้รูปร่างดูไม่สมส่วน ทว่าสูททรงสลิมฟิตที่พอดีกับตัวเองก็ช่างหายากเหลือเกิน เนื่องจากสูทที่ขายตามห้างทั่วไปจะเป็นไซส์มาตรฐานซะมากกว่า ซึ่งคุณอาจใส่ไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นคือ สูทแต่ละยี่ห้อมีมาตรฐานการวัดไซส์ที่แตกต่างกัน ฉะนั้นทางที่ดีก่อนตัดสินใจซื้อเสื้อสูทสักตัว ควรสั่งตัดจะดีกว่าเพื่อให้ช่างวัดขนาดตัวได้เป๊ะ ๆ ไม่สั้นหรือยาวเกินไป หัวไหล่ไม่รั้งและปลายแขนเสื้อก็พอดี ซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกคล่องตัวเมื่อสวมใส่
3. กางเกงที่ใส่ยาวเกินไป ผู้ชายหลายคนอาจเลือกเสื้อผ้าท่อนบนที่ดูดีเข้ากับตัวเองแล้ว ทว่ายังไม่แน่ใจเรื่องความยาวของกางเกงที่ใส่ว่าพอดีหรือยัง หากกางเกงที่ใส่อยู่ตรงปลายขากางเกงกองทับกันหรือคลุมส้นรองเท้าด้านหลังจนเกือบเหยียบขากางเกงซะเอง คงไม่ใช่กางเกงที่ควรใส่แล้วล่ะ โดยเฉพาะถ้าเป็นกางเกงสแลคที่ต้องใส่ทำงานด้วยแล้วละก็ ขากางเกงควรมีความยาวที่พอดี ปลายขาด้านหลังควรยาวถึงกึ่งกลางของส้นรองเท้า ส่วนถ้าเป็นกางเกงยีนส์ที่ขายาวเกินไป ก็ไปตัดปลายขาให้พอดี หรือจะพับขาขึ้นสักทบสองทบเพื่ออวดรองเท้าเท่ ๆ ก็ได้
4. ใส่แอคเซสซอรี่เยอะเกินไป เดี๋ยวนี้แอคเซสซอรี่สำหรับหนุ่ม ๆ มีให้เลือกมากมายและหาซื้อได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็น สร้อยข้อมือ สร้อยคอ แว่นกันแดด นาฬิกาข้อมือ หรือแหวน ซึ่งอาจทำให้บางคนเลือกไม่ถูกเลยว่าจะใส่ชิ้นไหนให้เข้ากับชุดดี จึงเลือกหลาย ๆ อย่างมาใส่พร้อมกันซะเลย ซึ่งเป็นอะไรที่คุณพลาดแล้วล่ะ เพราะเครื่องประดับบางชิ้นมันก็ไม่เข้ากับชุด เอาเป็นว่าเลือกใส่แค่บางชิ้นดีกว่า โดยอาจจะเลือกใส่แค่นาฬิกาข้อมือกับแหวน หรือเหน็บแว่นไว้ที่คอเสื้อหรือกระเป๋าเสื้อก็ได้ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนด้วยเหมือนกัน หรืออาจไม่ใส่เลยก็ได้
5. ตามกระแสมากไป จนไม่มีสไตล์เป็นของตัวเอง การตามกระแสแฟชั่นนั้นเป็นเรื่องดีครับ เพราะมันช่วยให้เห็นว่าเทรนด์แบบไหนที่เหมาะกับเราบ้าง แต่ก็ไม่ควรตามมากเกินไป เช่น เห็นเสื้อผ้ามาใหม่วางขาย ก็ไล่ซื้อซะทุกแบบ จนกะจะเป็นผู้นำเทรนด์เลยทีเดียว ซึ่งการตามแฟชั่นแบบนี้จะทำให้คุณค่อย ๆ สูญเสียสไตล์การแต่งตัวที่เป็นของตัวเองไป ดังนั้นบางทีควรเลือกใส่เสื้อผ้าที่เข้ากับบุคลิกของตัวเองจะดีกว่า
ตอนนี้ก็ได้ทราบเรื่องความผิดพลาดง่าย ๆ ของการแต่งตัวที่บางคนอาจไม่รู้กันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็อย่าลืมเอามาประยุกต์ใช้กับดูกัน ไม่ว่าจะเป็นการมิกซ์ แอนด์ แมตช์ เสื้อผ้ากับแอคเซสซอรี่ต่าง ๆ ให้ลงตัว เพียงเท่านี้คุณก็จะดูเท่ในสไตล์ของตัวเองแล้วครับ ขอขอบคุณภาพประกอบจาก
list25,
fashionbeans,
sosformen,
styleforum,
themrcollection,
thesartorialist, stylesociety และ
denimtherapy