
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
อุตสาหกรรมยานยนต์พัฒนาถึงขีดสุด ค่ายรถยักษ์ใหญ่ทุ่มผุดโรงงานใหม่เพิ่มกำลังผลิตถึงหลักล้านคันต่อปี ตลาดขยายตัวแบบสุด ๆ คาดพนักงานได้รับโบนัสกันมากกว่า 12 เดือน
วันนี้ (9 พฤศจิกายน) แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผย ว่า ตั้งแต่ปลายปีที่แล้วไปจนถึงสิ้นปีหน้า มีกลุ่มนักลงทุนนำเงินเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเป็นจำนวนเกือบแสนล้านบาท โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมยานยนต์มีการลงทุนหนักสุด ทั้งการตั้งโรงงานประกอบรถยนต์ รวมถึงการดึงบริษัทชิ้นส่วนจากต่างประเทศเข้ามาเป็นพันธมิตร
ทั้งนี้ ค่ายรถส่วนใหญ่ทั้งโตโยต้า-อีซูซุ-ฮอนด้า-นิสสัน-มิตซูบิชิ ต้องการใช้ไทยเป็นฐานผลิตใหญ่ กระจายสินค้าออกไปทั่วโลก เพราะมองว่าศักยภาพของไทยโดดเด่น ได้เปรียบทั้งในเชิงภูมิศาสตร์ สาธารณูปโภค และต้นทุนการผลิต โดยเฉพาะแรงงาน ซึ่งหลังจากเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนแล้วก็ยิ่งจะได้รับประโยชน์จากความได้เปรียบนั้นอย่างเต็มที่
ด้านนายฮิโรชิ นาคางาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดรถยนต์ในอนาคตอันใกล้นี้ ยอดขายภายในประเทศน่าจะอยู่ระดับ 1.5-2 ล้านคัน ส่วนตลาดส่งออกยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทั้งตลาดส่งออกและในประเทศจะขยายไปพร้อมกัน ปีนี้เชื่อว่ายอดขายรถยนต์โดยรวมน่าจะอยู่ระดับ 1.4 ล้านคัน ส่วนปีหน้าเมื่อสิ้นสุดโครงการรถยนต์คันแรกแล้ว ตลาดอาจจะลดลงไปเล็กน้อย 5-10 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ อีซูซุได้ลงทุนก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ที่นิคมอุตสาหกรรมเกตเวย์ซิตี้ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตรถปิกอัพขนาด 1 ตัน อีซูซุ ดีแมคซ์ และรถบรรทุกอีก 120,000 คันต่อปี พร้อมเจรจากับบริษัทแม่ขอเพิ่มกำลังการผลิตรถยนต์อีซูซุในประเทศไทยเป็น 500,000 คันต่อปี
ขณะที่นายฮิโรตะ ไซกาวา รองประธานบริหาร บริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดรถยนต์ประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน บริษัทได้เตรียมสร้างโรงงานประกอบรถยนต์เฟส 2 ในประเทศไทย บนพื้นที่ 240,000 ตารางเมตร ซึ่งจะแล้วเสร็จและเริ่มเดินสายการผลิตในปี 2557 โดยในช่วงแรกจะมีกำลังการผลิต 75,000 คันต่อปี และสูงสุด 150,000 คันต่อปีในปี 2559 ซึ่งโรงงานใหม่นั้นจะรองรับการผลิตรถปิกอัพเป็นหลัก ป้อนความต้องการของตลาดในประเทศและส่งออก และเชื่อว่าการสร้างโรงงานใหม่นี้ทำให้นิสสันมีกำลังการผลิตรวม 375,000 คันต่อปี ถือเป็นฐานการผลิตใหญ่เป็นอันดับหนึ่งในอาเซียน รองลงมาคืออินโดนีเซีย และมาเลเซีย
เช่นเดียวกับ นายโนบุยูกิ มูราฮาชิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า มิตซูบิชิได้ลงทุนในประเทศไทยเป็นฐานผลิตสำคัญเป็นอันดับ 2 รองจากญี่ปุ่น จากเดิมมีโรงงานประกอบรถยนต์ 2 โรง ที่นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง แต่ปีหน้าบริษัทจะลงทุนเพิ่มเพื่อปรับปรุงให้สามารถผลิตได้ถึง 200,000 คันต่อปีในปี 2558 ทำให้โรงงานของไทยมีความสามารถในการผลิต 510,000 คันต่อปี ซึ่งงบประมาณดังกล่าวได้รวมถึงการพัฒนาอีโคคาร์ ซีดานด้วย
ก่อนหน้านี้ นายเคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า โตโยต้าพร้อมจะเดินหน้าลงทุนขยายกำลังผลิตในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้ประกาศลงทุนมูลค่า 1.6 หมื่นล้าน ผลิตเครื่องยนต์ดีเซลเพื่อรองรับรถปิกอัพ โตโยต้า วีโก้ และฟอร์จูนเนอร์รุ่นใหม่ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2558 พร้อมทั้งลงทุนสร้างโรงงานผลิตรถยนต์นั่งใหม่ที่โรงงานเกตเวย์ เป็นโรงงาน 2 เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตอีก รวมถึงการลงทุนสำหรับโรงงานสำโรง หรือไทยออโตเวิร์ค (TAW) เพื่อผลิตรถโมเดลใหม่ ๆ ที่ยังไม่มีการผลิตในประเทศไทยอีก จะส่งผลให้โตโยต้ามีกำลังการผลิตสูงถึง 1.2 ล้านคัน ใช้เงินในการลงทุนอีกไม่น้อยกว่า 20,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ นายภานุวัฒน์ ตริยางกูรศรี ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมสนับสนุน กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า ไม่เฉพาะแต่การลงทุนของค่ายรถยนต์เท่านั้นที่มาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น ปัจจุบัน กลุ่มเอสเอ็มอีผู้ผลิตชิ้นส่วนจากญี่ปุ่นสนใจมาลงทุนในประเทศไทย จากการที่ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ได้ย้ายฐานการผลิตมาในประเทศไทยแทบทุกราย ประกอบกับสภาวะเศรษฐกิจในญี่ปุ่นที่ค่าเงินเยนแข็ง ทำให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนญี่ปุ่นจะทยอยย้ายฐานผลิตเข้ามาในประเทศไทยกว่า 500 ราย แต่ละบริษัทน่าจะใช้เงินลงทุนเฉลี่ย 500 ล้านบาท หรือคิดเป็นมูลค่าการลงทุนรวมกว่า 250,000 ล้านบาท
เมื่อสำรวจบรรดาค่ายรถยนต์แต่ละค่าย ถึงเรื่องค่าตอบแทนพนักงาน เนื่องจากปีนี้ถือเป็นปีทองแห่งการขายรถ จึงเชื่อว่าเกือบทุกบริษัทรถยนต์และผู้ผลิตชิ้นส่วนน่าจะจ่ายโบนัสกันอย่างเต็มที่ ซึ่งคาดการณ์ว่า ปีนี้ไม่ใช่แค่จ่ายกันเป็นเดือนแล้ว เพราะที่ผ่านมาก็ใกล้ ๆ 10 เดือน เที่ยวนี้น่าจะทะลุ 12 เดือน เรียกว่าจ่ายโบนัสกันเป็นปีเลยทีเดียว
สำหรับโบนัสที่พนักงานค่ายรถยนต์ได้รับในปีที่แล้ว เริ่มจากค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่อย่างโตโยต้าจ่ายโบนัสประจำปีกับพนักงาน 8 เดือน ขณะที่ค่ายมิตซูบิชิ 7 เดือน และมีการบวกเงินเพิ่มให้อีกประมาณ 30,000 บาท ขณะที่ค่ายฮอนด้าอยู่ที่ 6 เดือนบวก ๆ และมีเงินเพิ่มต่างหาก เช่นเดียวกับค่ายนิสสัน, ฟอร์ด และมาสด้า ที่ทั้ง 2 ค่ายให้ในอัตราที่ใกล้เคียงกันคือ 4 เดือน และมีโบนัสการันตีให้ในช่วงปลายปีอีก 1 เดือน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
